ระดมช่วยปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ประสบอุทกภัย

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยระดมสรรพกำลังช่วยเหลือเกษตรกร ปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ ล่าสุดเข้าช่วยเหลือใน จ.หนองคาย และนครพนม ซึ่งเกิดฝนตกหนักและน้ำจากแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ย้ำให้สำนักงานปศุสัตว์ทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตามที่กรมอุตุฯ คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกชุกช่วงปลายฤดู โดยดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ หลังภัยพิบัติคลี่คลายให้เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมยกระดับการเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อลดความสูญเสียด้านปศุสัตว์


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้รับข้อสั่งการของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ปศุสัตว์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับจังหวัดในภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุยางิ มี 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ประกอบด้วย 5 อำเภอ 14 ตำบล 44 หมู่บ้าน เกษตรกร 998 ราย มีสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 69,703 ตัว แบ่งเป็น โค 2,951 ตัว กระบือ 1,362 ตัว สุกร 8,514 ตัว แพะ/แกะ 25 ตัว และสัตว์ปีก 56,851 ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 145 ไร่ สำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ช่วยเหลือเฉพาะหน้าดังนี้ มอบพืชอาหารสัตว์ 8,770 กิโลกรัม ช่วยอพยพสัตว์ 318 ตัว และสนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 50 ชุด ส่วนรายงานสัตว์ตาย/สูญหายทั้ง 3 จังหวัด รวม 5,898 ตัว แบ่งเป็น โค 28 ตัว กระบือ 2 ตัว สุกร 1 ตัว และสัตว์ปีก 5,867 ตัว ส่วนที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งน้ำท่วมเป็นวงกลางและระดับน้ำสูง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย จัดตั้งสถานที่พักพิงสัตว์ชั่วคราวที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย และศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เชียงราย เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ประชาชนขนย้ายสัตว์เลี้ยงมาพักพิง โดยมีสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลสุขภาพให้ด้วย


ล่าสุดเกิดอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ หนองคายและนครพนม เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก ประกอบกับระดับน้ำแม่น้ำโขงสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองคาย รายงานว่า เกิดผลกระทบ 4 อำเภอ 10 ตำบล 68 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 849 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 7,322 ตัว แบ่งเป็น โค 4,561 ตัว กระบือ 715 ตัว แพะ 80 ตัว และสัตว์ปีก 1,966 ตัว การช่วยเหลือเฉพาะหน้า ได้แก่ ช่วยอพยพสัตว์ 946 ตัว มอบพืชอาหารสัตว์ 8,850 กิโลกรัม มอบชุดดูแลสุขภาพสัตว์ 18 ชุด รักษาสัตว์ 55 ตัว และมอบถุงยังชีพ 15 ถุง ส่วนสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม รายงานว่า เกิดผลกระทบใน 2 อำเภอ 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 116 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 972 ตัว แบ่งเป็น โค 344 ตัว และกระบือ 628 ตัว โดยช่วยเหลือเฉพาะหน้าด้วยการมอบพืชอาหารสัตว์ 6,000 กิโลกรัม ขณะที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีพื้นที่ติดริมลำน้ำโขง กรมปศุสัตว์ได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมช่วยเหลือ หากเกิดสถานการณ์

นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวว่า กรมปศุสัตว์มีแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่วางไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ในระยะเฉพาะหน้า โดยคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ ได้ประชุมซักซ้อมแผนแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในระดับเขต และเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น สำรวจพื้นที่เสี่ยง เตรียมสถานที่พักพิงอพยพสัตว์ในพื้นที่สูงสู่ที่ปลอดภัย จัดเตรียมบุคลากรชุดปฏิบัติการช่วยเหลือ จัดทีมสัตวแพทย์ 173 ทีม

กรมปศุสัตว์ ยังเตรียมเสบียงอาหารสัตว์หญ้าพระราชทานจากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 32 แห่งที่มีอยู่ทั่วทุกภูมิภาค 5,351,300 กิโลกรัม หรือเป็นจำนวน 267,565 ก้อน ที่สามารถเลี้ยงโค กระบือได้ 114,673 ตัว ต่อเนื่องได้ 7 วัน ถุงยังชีพ 3,500 ชุด ซึ่งประกอบด้วย อาหารสุนัข/แมว อาหารสัตว์ปีก แร่ธาตุก้อน ยาปฏิชีวนะ วิตามินละลายน้ำ และยาถ่ายพยาธิ เตรียมชุดเวชภัณฑ์ในพื้นที่ทั้ง 9 เขต พร้อมใช้ในการดูแลสุขภาพสัตว์ รักษาสัตว์ป่วยได้อย่างทันท่วงทีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น รวมถึงจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ช่วยเหลือและยานพาหนะ 119 คัน


นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวย้ำว่า ในช่วงปลายฤดูฝน ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะมีฝนกระจายเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งทั่วทุกภูมิภาค จึงสั่งให้ทุกพื้นที่เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยให้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และให้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างทันท่วงทีที่เกิดเหตุการณ์

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรในทุกพื้นที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ หรือปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เพื่อได้รับการช่วยเหลือเยียวยา หากสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหาย ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้รับทราบข่าวสารจากทางราชการด้วย ที่สำคัญอีกประการคือ การเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ เพื่อลดการสูญเสียด้านปศุสัตว์

นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่ท้องที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในช่วงที่เกิดภัย หลังเกิดภัยให้แต่ละพื้นที่ที่เกิดผลกระทบเร่งสำรวจความเสียหาย ตลอดจนช่วยฟื้นฟูสุขภาพสัตว์และฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร รวมถึงเร่งช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป

หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ประสบอุทกภัยและต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์ สามารถติดต่อศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร. 02-6534444 ต่อ 3315 E-mail : disaster@did.go.th.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]