ผนึกกำลังตั้ง “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs” ปั้นฮับหนุน SMEs ภาคเหนือตอนล่าง ครบวงจร

ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs

10 ก.ย. – บสย. ผนึก ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม ตั้ง “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs” ปั้นฮับหนุน SMEs พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ครบวงจร


นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ ผศ.ดร.ชุมพล เสมาขันธ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (มรพส.) จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs บสย.-มรพส.” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พร้อมพัฒนานักศึกษาให้เป็น Startup ตลอดจนพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัย ยกระดับสู่การเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ร่วมด้วย นางดุสิดา ทัพวงษ์ รองผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สายงานบริหารช่องทางและพัฒนาผู้ประกอบการ บสย. และ รศ.ดร.ประสิทธิชัย นรากร คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มรพส. เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

นายสิทธิกร เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 2 หน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ SMEs ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดย บสย. จะนำความเชี่ยวชาญด้านการเงิน และความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาของศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย. F.A. Center) ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในเครือข่ายของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดย “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs บสย.-มรพส.” จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) เติมความรู้ เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย.


ปัจจุบัน บสย. มีศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน สำนักเขตภาคเหนือตอนล่าง ดูแลพื้นที่ครอบคลุม 10 จังหวัด ประกอบด้วย พิษณุโลก, พิจิตร, กำแพงเพชร, ตาก, เพชรบูรณ์, อุทัยธานี, นครสวรรค์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, ชัยนาท พร้อมให้คำปรึกษาด้านบริหารการเงินและธุรกิจ การเข้าถึงสินเชื่อ การแก้ปัญหาหนี้ และให้ความรู้ทางการเงิน ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมกันนี้ ยังมีโครงการค้ำประกัน PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” วงเงินค้ำประกัน 50,000 ล้านบาท รองรับในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 – 4 ปีแรก วงเงินค้ำประกัน เริ่มต้นตั้งแต่ 1 หมื่นบาท สูงสุด 40 ล้านบาท

ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” สามารถติดต่อที่สำนักงานเขตภาคเหนือตอนล่าง หรือสามารถลงทะเบียนได้ที่ LINE OA : @tcgfirst พร้อมบริการตรวจสุขภาพทางการเงิน พร้อมจองคิวขอรับคำปรึกษาทางการเงิน ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับเป้าหมายความร่วมมือในครั้งนี้ จะครอบคลุมใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. ช่วยให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. 2. พัฒนานักศึกษาให้มีความรู้ด้านการประกอบธุรกิจ ก้าวสู่ Startup ด้วยการสร้างประสบการณ์ผ่านการฝึกงานกับผู้ประกอบการในเครือข่ายพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้ประกอบการ SMEs และนักศึกษา 3. ยกระดับศักยภาพของบุคลากรของ มรพส. เพื่อสร้างที่ปรึกษาในพื้นที่ ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยทีมงานและผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs ของ บสย.


“บสย. มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่ม รวมถึงการสร้างนักศึกษา และคนรุ่นใหม่ ก้าวสู่การเป็น Startup ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เป็นที่มาของความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพทั้งในด้านการผลิตบุคลากร การสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อกลับไปพัฒนาบ้านเกิดและประเทศชาติ รวมทั้งมีแนวทางการนำความรู้ในมหาวิทยาลัยออกไปพัฒนาให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่” นายสิทธิกร กล่าว

ผศ.ดร.ชุมพล กล่าวว่า มรพส. เป็นสถาบันการศึกษาที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม และพัฒนาผู้ประกอบการ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ บสย. ในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ในเครือข่ายของมหาวิทยาลัย ให้มีความรู้ทางด้านการตลาดและการเงิน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งตอบโจทย์นโยบายของมหาวิทยาลัยที่ต้องการเป็นศูนย์กลาง (Hub) ในการดูแลผู้ประกอบการ SMEs ในจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง

ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายให้ “ศูนย์ช่วยเพื่อน SMEs บสย.-มรพส.” เป็นหน่วยงานกลางที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในด้านต่างๆ แบบเบ็ดเสร็จครบวงจร โดยรวบรวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการมาไว้ในจุดเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ SMEs พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างให้เติบโตมากยิ่งขึ้น . – 116 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]