นนทบุรี 29 ส.ค. – “ภูมิธรรม” มอบหมาย สอน.เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าโครงการเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาทช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อนำเสนอ ครม.ต่อไป
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชาวไร่อ้อย 4 องค์กร คือสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย หารือเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร
นายภูมิธรรม เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ตัวแทนชาวไร่อ้อย 4 องค์กรต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท ในฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีนี้เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องก่อนรัฐบาลนายเศรษฐา ที่ดำเนินการโครงการนี้มาแล้ว 3 ปี ปีที่แล้วเป็นการจ่ายงวดสุดท้าย ตามมติ ครม.ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ไปประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเรียกประชุมให้เสร็จภายใน 1 เดือน หรืออย่างน้อยภายใน 2 เดือน ต้องแล้วเสร็จเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าที่ผ่านมาโครงการสนับสนุนการตัดอ้อยสดเพื่อลดปริมาณฝุ่นและการตัดอ้อยสดคุณภาพดี มีข้อดีข้อเสีย ประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร ต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างไร จะต่อโครงการ ลดทอนเงินหรือควรเพิ่มเงิน ให้ไปคุยในรายละเอียดให้มีข้อสรุปที่ชัดเจน เพื่อนำเข้า ครม. ต่อไป โดยในวันนี้ถือว่ากระทรวงพาณิชย์ได้รับเรื่องไว้แล้ว
“การที่เกษตรกรทำอ้อยสดเป็นทิศทางที่ต้องทำ เพราะปีหน้าระเบียบการค้าโลกใหม่จะเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถส่งออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะกระทบหนักมาก ขอขอบคุณตัวแทนกลุ่มชาวไร่อ้อยที่ช่วยกันรณรงค์และปฏิบัติในการลดมลพิษ” นายภูมิธรรม กล่าว
ด้านตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย กล่าวว่า รู้สึกสบายใจและดีใจแทนพี่น้องชาวไร่อ้อยทั้งประเทศ ที่นายภูมิธรรมช่วยชี้แนะให้แนวทาง และให้ความหวังกับพี่น้องชาวไร่อ้อย เห็นความยากลำบากซึ่งเกษตรกรพร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการลดฝุ่น PM 2.5 ตัดอ้อยสดให้สามารถแข่งขันส่งออกต่างประเทศได้
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ระบุว่า ปัจจุบันมีชาวไร่อ้อยประมาณ 200,000 ครัวเรือน โดยในปี 2566/67 มีพื้นที่ปลูก 9.32 ล้านไร่ ลดลง 0.92 ล้านไร่(-9%) มีปริมาณอ้อยสด 57.81 ล้านตัน (70%) และอ้อยไฟไหม้ 27.36 ล้านตัน (30%) ปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงจากปีก่อน.-513-สำนักข่าวไทย