กระทรวงเกษตรฯ 4 ก.ย.-เกษตรกรกว่า 125,000 รายทั่วประเทศ
แสดงความจำนงขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ
ขณะที่มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกรใหม่
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจว่า
ได้มีการตรวจสอบเกษตรกรทั้งประเทศที่จะขออยู่ในแผนการฟื้นฟูของกองทุนฯ โดยตรวจสอบข้อมูลหนี้สินเกษตรกรทั้งประเทศจำนวน
465,925 ราย พบว่า มีเกษตรกรที่มาแสดงตัว 245,052 ราย
โดยเกษตรกรที่มาแสดงตัวแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนฯ จำนวน 125,301 ราย ที่เหลือไม่ประสงค์รับการช่วยเหลือ
โดยในกลุ่มที่ขอรับความช่วยเหลือนั้น คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ
ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว พบว่า มีข้อมูลครบถ้วนจำนวน 64,748
ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบ
โดยในส่วนที่ตรวจสอบแล้ว แบ่งเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ 1.
กลุ่มที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ยินยอมให้ชำระหนี้แทนเกษตรกร
จำนวน 871 ราย จาก 2,369 สัญญา มูลหนี้ประมาณ 166
ล้านบาท 2. อยู่ระหว่างจำแนกสถานะหนี้ 58,587 ราย และ
3.จัดการหนี้ได้ตามเกณฑ์ กฟก. 5,261 ราย
ซึ่งข้อมูลนี้จะทำให้การจัดการหนี้ตามความจำเป็นเร่งด่วน
โดยเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มที่จะเริ่มดำเนินการโดยใช้งบประมาณของ กฟก.ได้ทันที จำนวน
871 ราย ซึ่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง
ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลหนี้เกษตรกรจะกลับไปพิจารณารายละเอียด
และนำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป
รวมถึงการสำรวจข้อมูลหนี้ให้แล้วเสร็จจากกลุ่มที่แจ้งความประสงค์ที่ยังเหลือจากจำนวนทั้งหมด
125,301 ราย คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 15 กันยายนนี้
ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกรของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ตามที่คณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร กรณีหนี้เร่งด่วนเสนอ
ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ปรับลดจากเดิม 56
ข้อ เหลือ 36 ข้อ เพื่อทำให้ประสิทธิภาพการทำงานมีความรอบคอบ แต่คล่องตัวมากขึ้น
นอกจากหลักเกณฑ์เดิมที่ต้องเป็นหนี้ที่มีสถานะผิดนัดชำระหนี้ขึ้นไป
โดยจัดลำดับความเร่งด่วนในให้ความช่วยเหลือ 4 ระดับ คือ หนี้ถูกฟ้องล้มละลาย
หนี้ถูกบังคับคดีหรือประกาศขายทอดตลาด หนี้ถูกดำเนินคดี และหนี้ผิดนัดชำระหนี้แล้ว
หลักเกณฑ์ใหม่ยังเน้นว่าเกษตรกรที่มีคุณสมบัติที่สมควรให้ความช่วยเหลือและได้รับพิจารณาเป็นอันดับแรก
คือ เป็นผู้มีรายได้น้อยกว่า 100,000 บาท/ปี
ถูกฟ้องล้มละลาย หรือเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานในวัยทำงานดูแล
ดังนั้น
หลังจากลงนามในหลักเกณฑ์ของคณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกรที่แล้ว
ก็จะนำมาใช้พิจารณาซื้อหนี้จากเกษตรกร โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง
ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลหนี้เกษตรกร
จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายตามขั้นตอน นอกจากนี้
ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเจรจาซื้อหนี้จากสถาบันการเงินที่มีสถานะเป็นเจ้าหนี้
เพื่อทำหน้าที่ดำเนินการเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้
ที่จะต้องมีการหารือร่วมกันในเงื่อนไขและแนวทางปฏิบัติต่างๆ
โดยองค์ประกอบของอนุกรรมการฯ ชุดนี้ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และคสช.
โดยจะยกร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวโดยเร็วต่อไป -สำนักข่าวไทย