6 เดือนแรกปี 67 บจ. mai กำไรสุทธิรวม 6,101 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 80.5%

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – บจ.ใน mai รายงานผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 มียอดขายรวม 104,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 44.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิรวม 6,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.5 % เติบโตขึ้นในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม


นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 212 บริษัท คิดเป็น 96% จากทั้งหมด 221 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด) นำส่งผลการดำเนินงาน โดย 6 เดือนแรก ปี 2567 พบ บจ. รายงานกำไรสุทธิจำนวน 152 บริษัท คิดเป็น 72% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
 
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 ของ บจ.mai เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขาย 104,296 ล้านบาท และต้นทุนขาย 76,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% และ 5.6% ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 28,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 19,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 8,352 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.8% และ 80.5 % ตามลำดับ ซึ่งหากไม่นับรวมบริษัทจดทะเบียน 5 อันดับแรก ที่มีผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากการ Turn around กำไรสุทธิจะเป็น 4,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% อย่างไรก็ตาม งวด 6 เดือน ปี 2567 บจ.มีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น โดยพิจารณาจาก Gross Profit MarginOperating Profit Margin และ Net Profit Margin อยู่ที่ระดับ 26.9% 8.0% และ 5.7% เพิ่มขึ้น 1.4% 2.0% และ2.3% ตามลำดับ

“ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2567 ของ บจ.ใน mai ปรับตัวดีขึ้น บจ. มีการควบคุมทั้งต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารมาตั้งแต่ไตรมาสแรกในปีนี้ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น และหากพิจารณารายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ายอดขายเติบโตในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มทรัพยากรที่มียอดขายลดลงเล็กน้อย แต่หากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิ เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น มีเพียงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเทคโนโลยีที่มีกำไรลดลง” นายประพันธ์ กล่าว 
 
ในส่วนของฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม333,749 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากสิ้นปี มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ที่ 0.76 เท่า ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่เท่ากับ 0.77 เท่า
 
ปัจจุบันมี บจ.ใน mai 221 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 23สิงหาคม 2567) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 329.40 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 337,943 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1,639ล้านบาทต่อวัน.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก