พณ.ใช้ 9 แนวทางเสริมความรู้ธุรกิจออนไลน์ไทยแข่งต่างชาติ

นนทบุรี 3 ส.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกาศ 9 มาตรการ เร่งเสริมแกร่งติดอาวุธผู้ประกอบการไทยรับมือรูปแบบการค้ายุคใหม่ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างเข้มแข็งและเติบโตอย่างมีศักยภาพ พร้อมเร่งทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากรูปแบบการค้าในปัจจุบันที่มีการรุกตลาดแรงและเร็วผ่านระบบออนไลน์ เน้นการขายด้วยสินค้าต้นทุนถูกทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะSME ที่ปรับตัวไม่ทัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขานรับข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทรศรีสรรพางค์) ให้ดูแล SME จึงพร้อมเดินหน้าเร่งเสริมแกร่งติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทย เพื่อปรับตัวก้าวให้ทันการแข่งขันยุคใหม่ที่รูปแบบการค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมที่จะเสริมแกร่ง SME ด้วยองค์ความรู้และการตลาดแนวใหม่ เสริมด้วยการขยายช่องทางการตลาด ก้าวทันเทรนด์และตรงใจผู้บริโภค ผ่าน 9 มาตรการ ดังนี้

1.การขยายช่องทางการตลาดผ่านออนไลน์ โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการให้ใช้ช่องทางการค้าออนไลน์ในการขยายตลาด ประกอบด้วย1.1) การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้าน e-Commerce ให้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ เช่น * หลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ (Online Marketing Genius: OMG) * หลักสูตรปั้นเจ้าของธุรกิจให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์(The Influencer Journey : TIJ) และ * หลักสูตรสร้างนักขายออนไลน์มืออาชีพ (Smart Trader Online)


ซึ่งมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการได้รับการอบรมทั้ง 3 หลักสูตรรวมกว่า 4,000 ราย 1.2) การสร้างโอกาสทางการตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce Booster) ผ่านหลักสูตรชุมชนออนไลน์นวัตกรรมรักษ์โลก (Digital Village by BCG) เป็นกิจกรรมยกระดับชุมชน โดยการนำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเหลือชุมชนที่อยู่ห่างไกลให้สามารถทำการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน มีเป้าหมาย 20 ชุมชนทั่วประเทศ 1.3) สร้างความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์ (Trust and Security) ผ่านเครื่องหมายรับรองผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) และเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือ (DBD Verified)1.4) สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Market Collaboration) ยกระดับสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนา e-Commerce ecosystem ผ่านงานมหกรรม Thailand e-Commerce Expo 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 21 สิงหาคม 2567 ณ ไอคอนสยาม โดยมีผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมาย 3,000 ราย รวมถึงการสร้างเครือข่ายแพลตฟอร์มและส่งเสริมการค้าออนไลน์ในประเทศ โดยการจัดทำหน้า Landing Page บนแพลตฟอร์ม e-Marketplace และ Social Commerce ที่มีชื่อเสียง เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการไทยในแพลตฟอร์มเหล่านั้นอีกด้วย

2.สร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SMEโดยนำผู้ประกอบการชุมชนซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อย/รายย่อมออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้า ณ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าชื่อดัง เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าและบริการ เป็นการขยายช่องทางการตลาดผ่านการสัมผัสจับต้อง เช่น โครงการส่งเสริมพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการรายย่อยก้าวทันการค้ายุคใหม่ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 2 กันยายน 2567 ณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสเกต จ.นนทบุรี โครงการส่งเสริมกระจายสินค้าพื้นถิ่นไทยสู่ตลาด จัดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2567 ณ ไอคอนสยาม นำผู้ประกอบการธุรกิจบริการและสินค้าสุขภาพและความงาม อาทิ ธุรกิจสปา ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ร่วมออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้า ภายในงานThailand Wellness & Healthcare Expo 2024ระหว่างวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2567 ณ ไบเทคบางนา พร้อมทั้งนำผู้ประกอบการชุมชนเข้าเจรจาจับคู่ธุรกิจกับเทรดเดอร์/บายเออร์รายใหญ่ของประเทศ เพื่อขยายตลาดและสร้างการรับรู้ให้แก่สินค้ามากขึ้น

3.การส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์สินค้าชุมชนของไทย ทั้งการช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน DBD Smart Local BCG ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคมากขึ้น


4.การเจรจาหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าฟรีหรือราคาพิเศษให้ผู้ประกอบการชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบการ ปัจจุบันมี 19,000 ทำเล

5.เสริมสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เช่น การเสริมทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data-Driven Decision) เพื่อให้สามารถกำหนดแนวทางการผลิตสินค้าที่โดนใจผู้บริโภค การทำ Branding การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาสินค้า/ธุรกิจ และการยกระดับธุรกิจเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานสากล เป็นต้น

6.ส่งเสริมการเชื่อมโยงพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูล ส่งต่อความรู้และลูกค้าระหว่างกัน เช่น การรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั่วประเทศ จัดงานสัมมนา‘พลิกโฉมธุรกิจ พิชิตโอกาส’ ระหว่างวันที่ 6-7สิงหาคม 2567 ณ จ.เชียงราย และการรวมกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับการส่งเสริมจากกรมฯ

7.การสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ ด้วยระบบแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีแต้มต่อในการประกอบธุรกิจจากแบรนด์และแผนธุรกิจที่ผ่านความสำเร็จมาแล้ว

8.เสริมศักยภาพร้านค้าโชห่วยด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ทั้งด้านความรู้ และใช้ POS บริหารจัดการร้านค้า เพื่อลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และนำร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นต้นแบบที่ผ่านการพัฒนาจากกรม ไปเป็นพี่เลี้ยงยกระดับร้านโชห่วยให้มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความสามารถในการแข่งขัน พร้อมเชื่อมโยงกับซัพพลายเออร์เพื่อเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจ

9.อำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาให้บริการประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ลดระยะเวลา และเพิ่มความเชื่อมั่นในการเข้าใช้บริการกับกรมฯ เช่น การให้บริการข้อมูลธุรกิจ ผ่านระบบ DBD DataWarehouse+ การให้บริการหนังสือรับรองนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Certificate File) และการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

อย่างทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจกิจกรรมติดอาวุธเสริมทักษะเพื่อเร่งปรับตัวรับมือกระแสการค้าโลกใหม่ทั้ง9 มาตรการ สามารถติดตามข้อมูลและลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ทาง www.dbd.go.th ซึ่งกรมฯ หวังว่ากิจกรรมเสริมทักษะและติดอาวุธเหล่านี้จะเป็นลมใต้ปีกและพลังสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยสามารถแข่งขันได้อย่างเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างมีศักยภาพในโลกการค้ายุคใหม่ ขณะเดียวกัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะเร่งทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรด้านการบังคับใช้กฎหมายเพื่อกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย จากการเข้ามาแข่งขันและจัดตั้งธุรกิจโดยผิดกฎหมายของต่างชาติ ซึ่งรวมถึง การตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี หรือให้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่กำหนดให้คนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจบริการตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.ฯ และต้องการถือหุ้นเกินร้อยละ 50 ต้องเข้าสู่กระบวนการขออนุญาตโดยถูกต้อง มิฉะนั้นจะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-514.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]