ดีเดย์! ลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” เริ่ม 8 โมง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – วันนี้ (1 ส.ค.) คิกออฟลงทะเบียน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป แนะผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน เปิดลงทะเบียนรอบถัดไป 16 ก.ย.-15 ต.ค. 67


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 สิงหาคม) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นวันแรกของการเปิดระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เน้นย้ำการลงทะเบียนของผู้ที่มีสมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มของระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนทั้งไอโอเอสและแอนดรอยด์

โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนลงทะเบียนโครงการฯ สำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน ตั้งจุดให้บริการ (Walk-in) ช่วยลงทะเบียน และสอบถามข้อมูลต่างๆ ใน 4 สถานที่หลักทั่วประเทศ ได้แก่ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมจำนวน 5,199 จุด ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายนนี้


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายน รัฐบาลพร้อมด้วยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการประชาชนผู้มีสมาร์ทโฟน แต่ต้องการความช่วยเหลือในการลงทะเบียนตามระยะเวลาทำการใน 4 สถานที่หลักทั่วประเทศ ได้แก่
1) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์
2) ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
3) ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
4) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่ง

ขณะที่กลุ่มของผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้นจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน-15 ตุลาคม 2567 ณ สถานที่ที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งจะมีการแจ้งระบุสถานที่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะต้องใช้บัตรประชาชนในการใช้จ่าย และต้องตรวจสอบคุณสมบัติสถานะบุคคลตามทะเบียนบ้าน

แอปฯ ‘ทางรัฐ’ ไม่ล่ม แค่ปิดรีเซ็ตระบบ
ขณะเดีย;กัน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงปัญหาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ล่ม เมื่อเช้าวานนี้ (31 ก.ค.) ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงการพัฒนาระบบ และในช่วงเวลา 19.00-22.00 น.ที่ผ่านมา แอปพลิเคชันทางรัฐจะมีการรีเซ็ตเวอร์ชั่น ให้มีการเชื่อมต่อกับระบบทะเบียนราษฎร์ และระบบทุกอย่างจะพร้อมในเวลา 08.00 น. ของวันนี้ (1 ส.ค.)


วันนี้จะมีปุ่ม “ยืนยัน“ ขึ้นมา เพราะขณะนี้แอปพลิเคชันทางรัฐยังไม่ระบบรอคิว จึงต้องมีการรีเซ็ตระบบในช่วงเวลาดังกล่าว ส่งผลให้ระบบจะถูกปิดไป แต่ไม่ใช่ระบบล่ม เมื่อประชาชนเข้ามาในแอปพลิเคชันทางรัฐ จะถูกคิวลิ่งเข้าไปในระบบทะเบียนราษฎร์เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่ และย้ำว่าไม่ใช่การปิดที่เกี่ยวข้องกับระบบมีปัญหา แต่เป็นการรีเซ็ตเวอร์ชั่น

เมื่อถามว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาประชาชนมีปัญหาเรื่องของการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันทางรัฐ นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า เกิดจากการรีเซ็ตระบบ ซึ่งมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว จึงได้แจ้งกับประชาชนให้ทราบว่าการลงทะเบียนจะทำได้นวันนี้ เวลา 08.00 น.

ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าวันนี้ (1 ส.ค.) ประชาชนจะแห่ลงทะเบียนกันจำนวนมาก ความพร้อมของระบบจะไม่ล่มใช่หรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวย้ำว่า ความพร้อมของระบบได้ถูกวางแผนไว้แล้วว่าต้องมีการเซ็ตระบบเพื่อให้เป็นระบบรอคิว และจะส่งไปที่ทะเบียนราษฎร์ ตนได้เคยแจ้งไปแล้วว่าระบบจะต้องมีการใส่เลขบัตรประชาชน มีการตรวจสอบใบหน้าบุคคลก่อนส่งไปทะเบียนราษฎร์ และจะต้องมีการตอบกลับมาจากทะเบียนราษฎร์ก่อน ซึ่งต้องใช้เวลา เป็นระบบรอคิว จากนั้นถึงจะเป็นการสร้าง Username, Password และ PIN code จึงจะจบกระบวนการในการลงทะเบียนยืนยันตัวตน

เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงประชาชนที่วันนี้ (1 ส.ค.) อาจจะแห่กันมาลงทะเบียน ซึ่งอาจเกิดความล่าช้าและขัดข้องได้นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า อาจจะมีความล่าช้า แต่ไม่ใช่มาจากตัวแอปพลิเคชันทางรัฐ แต่จะช้าเพราะระบบรอคิว เพื่อจะตรวจสอบกับระบบทะเบียนราษฎร์ ซึ่งทางระบบจะทำหน้าที่รับคนอยู่แล้ว และหากเกินกว่า 5 ล้านคน จะเป็นระบบรอคิว

เมื่อถามว่าหากครบกำหนดลงทะเบียนแต่ประชาชนยังไม่สามารถลงทะเบียนได้ จะขยายระยะเวลาหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ทุกคนที่จะลงทะเบียนต้องสามารถลงได้ในกรอบเวลา และไม่มีเหตุผลอะไรที่ประชาชนจะลงทะเบียนไม่ทัน เพราะยืนยันว่าแอปพลิเคชันทางรัฐจะไม่เกิดปัญหา และเชื่อว่าจะสามารถลงทะเบียนได้ตามกรอบที่กำหนด คือ 1 ส.ค.-15 ก.ย.นี้

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และหน่วยงานภายในของภาครัฐ ร่วมกันดูความเสถียรของระบบลงทะเบียน และในวันนี้หากประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าแอป “ทางรัฐ” จะสามารถรองรับได้

ส่วนความกังวลว่าหากมีการย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยปัจจุบัน เพื่อให้สะดวกกับการใช้จ่ายในโครงการ ขณะที่บัตรประชาชนมีข้อมูลไม่ตรงกับทะเบียนบ้านที่ย้ายมาจะทำให้ไม่สามารถใช้จ่ายในโครงการได้นั้น นายเผ่าภูมิ ยืนยันว่า ประชาชนที่มีการย้ายทะเบียนบ้านไม่จำเป็นต้องทำบัตรประชาชนใหม่ เพื่อให้ข้อมูลหน้าบัตรตรงกับทะเบียนบ้านที่ย้ายมา เพราะระบบจะตรวจเช็กไปที่ฐานทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองอยู่แล้ว หากข้อมูลดังกล่าวตรงกันทั้งหมดจะถูกยืนยันว่าเป็นบุคคลแท้จริงตามบัตรประชาชน

ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้จะมีการหารือร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ เกี่ยวกับแพลตฟอร์มการชำระเงิน (Payment) เพื่อรองรับการชำระเงินภายในโครงการ โดยการใช้จ่ายเงินดิจิทัลยังยืนยันตามไทม์ไลน์เดิม คือ ภายในไตรมาส 4/67 และหลังจากนี้จะมีการชี้แจงความชัดเจนของโครงการในส่วนต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]