บสย. เร่งฟื้น SMEs ม.ค. – มิ.ย. 67 เร่งค้ำต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค.-บสย. เร่งฟื้น SMEs ม.ค. – มิ.ย. 67 ค้ำแล้ว แตะ 19,000 ล้านบาทได้สินเชื่อใหม่ 45,440 ราย จ้างงาน 168,762 ตำแหน่ง มั่นใจ “บสย. SMEs ยั่งยืน” 5 หมื่นล้าน หนุนแบงก์ปล่อยสินเชื่อ


บสย. เร่งฟื้น SMEs ม.ค. – มิ.ย. 67 ค้ำแล้ว 18,946 ล้านบาท ชูแผนครึ่งปีหลัง เร่งค้ำ ต่อเนื่อง มั่นใจ “บสย. SMEs ยั่งยืน” ครึ่งปีหลัง ช่วย SMEs ได้สินเชื่อกว่า 30,000 ราย มั่นใจมาตรการรัฐ “ฟรีค่าธรรมเนียม 2-4 ปีแรก” หนุนแบงก์ปล่อยสินเชื่อ

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน บสย. ครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 2567) เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งการค้ำประกันสินเชื่อ การช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ การรักษาการจ้างงาน รวมทั้ง มาตรการการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ช่วยลูกหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน และการยกระดับองค์กรสู่ SMEs Gateway การค้ำประกันสินเชื่อ ม.ค. – มิ.ย. 67 ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 45,440 ราย เป็นกลุ่มรายย่อยหรือ Micro ในสัดส่วนถึง 94% ค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ย 80,000 บาทต่อราย ส่วนอีก 6% เป็นกลุ่ม SMEs ค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ย 5.31 ล้านบาทต่อราย วงเงินอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ ราว 18,946 ล้านบาท รักษาการจ้างงาน 168,762 ตำแหน่ง สร้างสินเชื่อในระบบ 19,610 ล้านบาท และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 76,771 ล้านบาท


ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่เป็นมาตรการรัฐ และ โครงการค้ำประกันสินเชื่อที่ บสย. พัฒนาเอง ได้แก่

1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก (พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2) วงเงิน 9,511 ล้านบาท สัดส่วน 50% ช่วย SMEs ได้สินเชื่อ 1,532 ราย (สัดส่วนวงเงินค้ำประกันสูงสุด)
2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อดำเนินการโดย บสย. จำนวน 5,126 ล้านบาท สัดส่วน 27% (รวม 4 โครงการย่อย ได้แก่ รายสถาบันการเงินระยะ 7 (BI7) / โครงการ PGS Renew / Smart Plus & Top up และ RBP ช่วย SMEs ได้สินเชื่อ 2,391 ราย
3.โครงการตามมาตรการรัฐ จำนวน 4,309 ล้านบาท สัดส่วน 23% ช่วย SMEs ได้สินเชื่อ 41,568 ราย (ค้ำประกันจำนวนรายสูงสุด)
สำหรับประเภทธุรกิจค้ำประกันสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ 1. ภาคบริการ 27.5% 2. การผลิตสินค้าและการค้าอื่น ๆ 13.5% และ 3. อาหารและเครื่องดื่ม 9.6% ซึ่งทั้ง 3 หมวดครองสัดส่วนค้ำประกัน 51% หรือราว 9,600 ล้านบาท ขณะที่ลำดับที่ 4-6 ได้แก่ สินค้าอุปโภค-บริโภค 9.5% อุตสาหกรรมยานยนต์ 8.5% และภาคเกษตรกรรม 8.2% ครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย คิดเป็นสัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อ เขตกรุงเทพ-ปริมณฑล 40% และภูมิภาค 60% ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18% ภาคใต้ 13% ภาคเหนือ 12% ภาคตะวันออก 9% ภาคกลาง 5% และภาคตะวันตก 3%

นอกจากนี้ บสย. ยังประสบความสำเร็จในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ค้ำประกันสินเชื่อที่ถูกเคลม


ด้วยการประนอมหนี้ผ่านมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (TDR) “บสย. พร้อมช่วย” (มาตรการ 4 สี ม่วง เหลือง เขียว และ ฟ้า) โดยมีลูกหนี้ บสย. ได้รับการประนอมหนี้ ระหว่าง ม.ค. – มิ.ย. 2567 ดังนี้

1.ลูกหนี้ บสย. ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (TDR) ณ ม.ค.-มิ.ย. 67 จำนวน 1,792 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 1,071 ล้านบาท โดยมีลูกหนี้กลุ่มสีเขียว ที่ยังมีศักยภาพในการชำระคืนเงินต้นบางส่วนแต่ต้องการปลอดดอกเบี้ย ในสัดส่วนถึง 78% ยอดสะสม SMEs ลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และได้รับการประนอมหนี้ตั้งแต่ เม.ย. 2565 – มิ.ย. 2567 รวมกว่า 15,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 7,000 ล้านบาท
2.ลูกหนี้ บสย. เข้าร่วมมาตรการ “ปลดหนี้” (สีฟ้า) จำนวน 100 ราย

**มาตรการปลดหนี้ เปิดใช้เมื่อ ม.ค. 2567 เป็นมาตรการช่วยลูกหนี้กลุ่มสีเขียวต่อเนื่องที่ผ่อนชำระดี 3 งวดติดต่อกัน และต้องการปลดหนี้ โดย บสย. ลดเงินต้นให้ 15% **

“ผลสำเร็จจากมาตรการช่วยลูกหนี้แก้หนี้ยั่งยืน โครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มาจากการพัฒนาโมเดลที่ยืดหยุ่น รองรับความสามารถในการชำระหนี้ 3 ระดับ (ม่วง เหลือง เขียว) ช่วยลูกหนี้ ตัวเบา ลดต้นทุนทางการเงิน “ตัดต้นก่อนตัดดอก” และ “ดอกเบี้ย 0%” โดยมีลูกหนี้กลุ่มที่ยังจ่ายไหวแต่ต้องการปลอดดอก (สีเขียว) 78% ลูกหนี้กลุ่มที่จ่ายไหวเพียงบางส่วน (สีเหลือง) 14% และลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง (สีม่วง) 8% ขณะที่ ลูกหนี้ “ปลดหนี้” (สีฟ้า) สามารถปลดหนี้สำเร็จ เดินหน้าธุรกิจต่อไปได้กว่า 100 รายและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่ง บสย. ตั้งเป้าช่วยเหลือลูกหนี้ปลดหนี้ อีกกว่า 100 ราย” นายสิทธิการ กล่าว

บสย. เร่งสยายปีกขับเคลื่อนเชิงรุก ครึ่งปีหลัง

นายสิทธิกร กล่าวว่า การดำเนินงานครึ่งปีหลัง บสย. วาง 3 เป้าหมาย พร้อมเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ทั้งกลุ่มเปราะบาง กลุ่มธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม กลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่สตาร์ทอัพ และกลุ่มธุรกิจ 8 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล IGNITE Thailand

1.ขับเคลื่อนโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs ยั่งยืน (PGS 11 ) วงเงิน 50,000 ล้านบาท ร่วมกับ 18 ธนาคารพันธมิตร โดยกระทรวงการคลังช่วยลดภาระต้นทุน SMEs การเงิน จ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ 1-4 ปีแรก และพิเศษสุด สำหรับผู้ประกอบการกลุ่ม SMART GREEN ที่ดำเนินกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ESG และ กำลังปรับธุรกิจสู่ สังคม Carbon ต่ำ บสย. ฟรี ค่าธรรมเนียม 4 ปีแรก พร้อมลดค่าธรรมเนียมค้ำประกันลงอีก 0.25% เหลือ 1.5% ต่อปี จะเป็นกลไกการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งเป้าทั้งโครงการ ช่วย SMEs 77,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 200,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินกว่า 60,000 ล้านบาท และรักษาการจ้างงาน 550,000 ล้านบาท

“ขณะนี้มีธนาคารเริ่มทยอยส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อมาแล้ว คาดว่า ภายในสิ้นปี 2567 กลไกค้ำประกันสินเชื่อ จากโครงการ “บสย. SMEs ยั่งยืน” จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง ไม่น้อยกว่า 46,000 ราย และสร้างสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ”

2.ตั้งเป้าช่วยลูกหนี้ SMEs และ Micro SMEs ที่ถูกเคลม เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นเม็ดเงินปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้มาตรการ 3 สีจำนวน 2,500 ล้านบาท หรือราว 4,000 ราย และสนับสนุนช่วยลูกหนี้ “ปลดหนี้” โดย บสย. ลดเงินต้น 15% คาดว่าจะมีลูกหนี้ร่วมปลดหนี้สะสมรวมมากกว่า 200 ราย
3.ตั้งเป้าขยายเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรพันธมิตร ตามเป้าหมาย “บสย. SMEs Gateway” เชื่อมโยง ผู้ประกอบการและเครือข่ายสนับสนุนองค์ความรู้ทางการเงิน โดยศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs และเข้าถึงเครือข่ายพันธมิตรผ่านช่องทาง LINE OA : @tcgfirst เพื่อเตรียมพร้อมผู้ประกอบการก่อนขอสินเชื่อ และการค้ำประกันสินเชื่อ โดยในช่วง 6 เดือนแรก บสย. ได้ขยายเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ 9 องค์กรใหญ่ ได้แก่

1.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โครงการ “ดีพร้อม ส่งเสริม SMEs เข้าถึงแหล่งทุน” 2. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โครงการ “DPU สร้างธุรกิจสร้างมืออาชีพ” 3.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน กลุ่มสตาร์ทอัพ 4.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ในการร่วมกันพัฒนาองค์กร 5.บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด “โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย” 6.มูลนิธิคีนันแห่งเอเชีย “โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สูงวัย สร้างผู้ประกอบการสูงวัย” 7.บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี่ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ค้ำประกันสินเชื่อแฟรนไชส์ “กาแฟพันธุ์ไทย” 8.การไฟฟ้านครหลวง ร่วมยกระดับธุรกิจด้วยการใช้พลังงานสะอาด และ 9.กองทุน TED Fund .-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหาร Fight City Gym บอกมวยไทยเป็นที่นิยมมากในอังกฤษ

กรุงลอนดอน 21 พ.ค.- นายกฯ พบผู้บริหารค่ายมวยไทย Fight City Gym สาขา Moorgate บอกมวยไทยเป็นที่นิยมมากในอังกฤษ เผยลอนดอนมีค่ายมวยกว่า 50 แห่ง ยืนยันรัฐบาลสนับสนุนงบฯ ต่อยอด-พัฒนาครูผู้สอนกีฬาไทย วันนี้ (21 พ.ค)เวลา 14.45 น. ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ตรงกับเวลา 20.45 น. ตามเวลาประเทศไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเข้าพบกับเจ้าของและผู้บริหาร ร่วมทั้งครูผู้ฝึกสอนค่ายมวยไทย Fight City Gym สาขา Moorgate ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมีนายพิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะรอต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า มวยไทยเป็นที่นิยมมากๆ ในอังกฤษ ค่ายสอนศิลปะป้องกันตัวในอังกฤษมีราวๆ 4,000 แห่ง แต่หากที่สอนเฉพาะมวยไทยจริงๆ มีประมาณ 500 แห่ง […]

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง กรุงเทพฯ […]

ระทึกไล่ยิงเหมือนในหนัง รัว 17 นัด กลางถนน

ชลบุรี 21 พ.ค. – จยย.ไล่รัวกระสุนสกัดเก๋งอย่างกับหนังบู๊ ทำชาวบ้านแตกตื่น แท้จริง เป็นตำรวจเมืองชลบุรี ล่อซื้อยาบ้า พ่อค้าไหวตัว ก่อนจนมุม ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกไปที่รถยนต์สีขาว พยายามเคาะกระจกรถให้คนขับลงมา แต่เมื่อไม่เป็นผล จึงชักปืนขึ้นมารัวยิงหลายครั้ง กระทั่งรถยนต์ถอยรถขับออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีรถจักรยานยนต์ไล่ตามไปติดๆ พร้อมกับยิงปืนใส่ รวมทั้งหมด 17 นัด เมื่อช่วง 03.30 น. ที่ผ่านมา ภายในซอยเส้นทางหนองซ้ำซาก-สำนักบก ตำบลหนองซ้ำซาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ พบกันชนหน้ารถยนต์คันสีขาวตกอยู่พร้อมป้ายทะเบียน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และปลอกกระสุนไม่ทราบขนาด 17 ปลอก พร้อมหัวกระสุนอีก 1 หัว สอบถาม นายปรานอม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนแรกตนเห็นรถยนต์สีดำ ขับมาปาดหน้ารถยนต์สีขาว จากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ใส่ชุดคล้ายไรเดอร์ ขี่ตามหลังรถคันสีขาว ครั้งแรกเห็นยิงใส่รถยนต์สีขาว 5 นัด แต่เป็นการยิงผ่านกระบอกเก็บเสียง จากนั้นรถคันที่ถูกยิงพยายามหลบหนี แต่รถคันสีดำขับมาบล็อกข้างหน้าไม่ให้หนี แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด […]

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]