อุดรธานี 29 ส.ค.-กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหลายหน่วยงานเล็งผลักดันอุดรธานี
เป็นศูนย์กระจายสินค้าและการขนส่งกลุ่มประเทศ CLMV และจีนตอนใต้
ขณะที่มีเอกชนสนใจลงทุนอุตสาหกรรมอากาศยานในนิคมในจังหวัดอุดรธานีด้วย
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในการเปิดคลินิกเอสเอ็มอีสัญจร
แนวประชารัฐที่จังหวัดอุดรธานีและหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เห็นตรงกันว่า
จังหวัดอุดรธานี มีศักยภาพเหมาะเป็นศูนย์กระจายสินค้าและการขนส่งในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว
เมียนมา เวียดนาม) รวมถึงประเทศจีน เนื่องจากมีความพร้อมในด้านพื้นที่
โดยเฉพาะการตั้งนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เอกชนมีความพร้อมมาก พื้นที่ใกล้สถานีรถไฟ
มีการค้าการลงทุนระดับสูง ซึ่งจะประสานไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)
ให้สร้างสถานีเชื่อมไปยังพื้นที่การนิคมฯ เพื่อสะดวกต่อการขนส่งในพื้นที่
ล่าสุดทางหอการค้าจังหวัดอุดรธานี รายงานว่า
ขณะนี้มีนักลงทุนสนใจลงทุนอุตสาหกรรมอากาศยาน ในพื้นที่นิคม เช่น ตั้งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน หรืออาจผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน
เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีการจราจรทางอากาศค่อนข้างมาก
มีความคุ้มค่าในการตั้งศูนย์ซ่อม
ซึ่งรูปแบบอาจใกล้เคียงกับศูนย์ซ่อมอากาศยานที่อู่ตะเภา แต่จะไม่ใหญ่
ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการกระจายการพัฒนาในแต่ละพื้นที่ เหมือนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
(อีอีซี)
ทั้งนี้จากการหารือกับภาคเอกชนเกี่ยวกับการพัฒนาผู้ประกอบการ จะเร่งสร้างระบบพี่เลี้ยงเพื่อทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก
และหารือกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(เอสเอ็มอีแบงก์)
ว่าจะมีการช่วยเหลืออย่างไรให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายมากที่สุด
ขณะเดียวกันจะต้องมีการสร้างเสริมขีดความสามารถการศึกษาและงานวิจัย
โดยจะต้องหารือกับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
ในการส่งเสริมการสร้างห้องแล็บในศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม 11 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ
ล่าสุดภาคอีสานมีการยื่นคำขอมาแล้ว 6,156 ราย คิดเป็นวงเงิน 9,971 ล้านบาท แบ่งเป็นคำขอจากกลุ่มอีสานตอนบน 997 ราย วงเงิน
1,750 ล้านบาท และกลุ่มอีสานตอนกลาง 1,500 ราย วงเงิน 2,480 ล้านบาท
และเป็นคำขอจากผู้ประกอบการใน จ.อุดรธานี 400 ราย วงเงิน 670 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยอนุมัติให้ครบเต็มวงเงินงบประมาณ 38,000 ล้านบาทภายในปีนี้
“ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่นำร่องครบทั้ง 8 แห่งแล้ว
โดยได้ส่งมอบความช่วยเหลือไปยังเอสเอ็มอีผ่านตัวเงินกองทุน
และแผนส่งเสริมองค์ความรู้ ยอมรับว่าเอสเอ็มอีจำนวนมากสนใจสินเชื่อ
แต่ขาดความรู้เรื่องการกรอกข้อมูล กระบวนการของรัฐ
จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมลงไปแก้ปัญหา เพิ่มจำนวนพี่เลี้ยงผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้มีจำนวนมากขึ้น
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว-สำนักข่าวไทย