กสทช. พบกว่า 113 ล้าน Mobile Banking ไม่ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชี

กรุงเทพฯ 15 ก.ค.-กสทช. จับมือ ปปง.จัดระเบียบ Mobile banking พบมี 79 ล้านบัญชี เจ้าของซิมไม่ตรงกับรายชื่อบัญชี กว่า 113 ล้านเลขหมาย พร้อมเดินหน้าทุกแนวทางจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์


พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุกรรมการบูรณาการแนวทางในการ บังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมและความมั่นคงของรัฐ กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมแถลงผลการดำเนินงานในมาตรการต่างๆ ว่า มาตรการยืนยันตนของผู้ถือครองซิม ตั้งแต่ 6 หมายเลขขึ้นไป ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ทาง กสทช.ได้ทยอยระงับการใช้งานซิมที่ไม่มีการยืนยันตนในกำหนดเวลา และมีการตรวจสอบซิมผีบัญชีม้า Mobile Banking ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบแยกเครือข่าย, การกำจัด เสา, สาย กระจายสัญญาณโทรคมนาคมเถื่อน

ขณะเดียวกัน กสทช. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กวาดล้างจับกุมและล้มเสาเถื่อน ตลอดแนวชายแดน ส่วนการตรวจค้นจับกุมอุปกรณ์โทรคมนาคมเถื่อนที่ไม่ได้อนุญาตจาก กสทช. ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.67 มีการตรวจค้นจับกุมและยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากในพื้นที่ กทม.ทั้งเขตสวนหลวง และเขตวัฒนา ตรวจยึดของกลางได้ จำนวน 18 ประเภทรายการ มากกว่า 6,000 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางมากกว่า 12 ล้านบาท โดยมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าว จะช่วยยับยั้งการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างเป็นรูปธรรม


สำหรับการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มผู้ถือ ครองซิมการ์ด 6-100 เลขหมาย ที่ให้ลงทะเบียนครบกำหนด 13 ก.ค. 67 และเริ่มทยอยระงับการใช้งาน 2,141,317 เลขหมาย โดยระงับการโทรออก การส่งข้อความ และการใช้อินเทอร์เน็ต แต่ยังคงรับสายโทรเข้าได้อีกระยะหนึ่งก่อนถูกเพิกถอน และน่าเชื่อว่า 2-3 สัปดาห์ หลังการระงับจะมีผู้ใช้บริการ จำนวนมากหลั่งไหลมายืนยันเพิ่มเติมเช่นเดียวกับกลุ่มแรก คือกลุ่ม 101 หมายเลขขึ้นไปนั้น ซึ่งถูกระงับการใช้งานไปก่อนหน้านี้ 1,096,000 เลขหมาย ดังนั้น ซิมที่เปิดใช้โดยไม่มีการลงทะเบียนหรือลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน และคาดว่าอยู่ในความครอบครองของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะถูกกำจัดออกไป

ส่วนความคืบหน้าตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนซิมการ์ด Mobile Banking กับบัญชีธนาคารว่าเป็นของบุคคลคน เดียวกันหรือไม่ ในขณะนี้ กสทช.ได้รับข้อมูลจากธนาคารทั้ง 21 แห่งผ่านทาง ปปง. แล้ว มีเบอร์โทรศัพท์ Mobile Banking จำนวน 113,568,836 เลขหมาย ไม่ตรงกับรายชื่อเจ้าของบัญชี 79 ล้านบัญชี อยู่ระหว่างการตรวจสอบแยกเครือข่าย ก่อนส่งให้ผู้ให้ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละราย ตรวจเปรียบเทียบ ว่าเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ กับเจ้าของบัญชีธนาคารนั้นๆ เป็นของบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ จากนั้น กสทช.จะรวบรวมส่งกลับให้ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่ง ผ่านทางระบบของ ปปง. เพื่อดำเนินการต่อไป ว่าจะระงับหรือจะทำรูปแบบใด คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ภายในกำหนด 30 กันยายน 2567

ส่วนมาตรการกำจัด เสา สาย กระจายสัญญาณโทรคมนาคมเถื่อน กสทช. ร่วมกับ สตช. กวาดล้างจับกุม ผู้ลักลอบติดตั้งเสาส่งสัญญาณเถื่อน ตามแนวชายแดน เอื้อกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จำนวน 29 ราย และตรวจสอบสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่และเสาสัญญาณของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ตรวจสอบทิศ ทางการกระจายสัญญาณบริเวณชายแดน ออกมาตรการตรวจสอบเข้มขัน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ผลการดำเนินการในพื้นที่ ชายแดน ระงับสัญญาณ 465 จุด, ปรับทิศทางสายอากาศ 470 จุด และรื้อถอนสายอากาศ จำนวน 179 จุด มาตรการเหล่านี้ ช่วยแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีได้อย่างเป็นรูปธรรม จะเห็นได้จากการไหลทะลักเข้ามาของอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม Starlink ไป ยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง คาดเป็นการดำเนินงานที่คนร้ายเริ่มปรับตัว ในขณะที่ภาครัฐก็หารือปรับตัวพร้อมรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค. -511- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ