กรุงเทพฯ 10 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงข่าวลือโซเชียล “คลื่นความหนาวแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาค อากาศสุดขั้วในรอบ 5 ปี” ยันไม่จริง แชร์กันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่าตื่นตระหนก ชี้ไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน
กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงข่าวลือ ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ข้อมูล ซึ่งมีข้อความว่า “ข่าวด่วน จากกรมอุตุไม่เคยมีพยากรณ์ แบบนี้มาก่อนในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา** คลื่นความหนาวจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยทุกภาคตั้งแต่ 24.00 น. คืนนี้เป็นต้นไป ภาคเหนือ-อีสาน จะลดลง 10-12° cกรุงเทพ 8-10°c มากสุดในรอบ14ปี อีกราว 12 ชั่วโมงนับถอยหลังฝนจะเทภาคเหนือและอีสานตามด้วยลมแรงแล้วอุณหภูมิจะลดลงเต็มๆ เตรียมพร้อมรับมือด้วยกับ extreme weather change ส่งต่อด้วยครับจะได้เตรียมการใว้ก่อนได้ทัน ##พายุฤดูร้อนกำลังจะเข้าถล่มกรุงเทพฯ และปริมณฑล. นครปฐม. สมุทรสาคร. นนทบุรี ปทุมธานี ราชบุรี เวลาประมาณ 22.00 น. คืนนี้ ขอให้ หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงคืนนี้ เตรียมเทียน ไฟฉายและไม้ขีดไว้ อาจจะเกิดไฟฟ้าดับได้ พรุ่งนี้คาดว่าฝนจะตกหนักทั่ว กทม. และปริมณฑล” นั้น
กรมอุตุนิยมวิทยา ขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่และส่งต่อมาแล้วหลายครั้ง ในปีที่ผ่านมา และมิได้มาจากการประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาแต่ประการใด สภาพอากาศโดยทั่วไปในขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูร้อน และเป็นช่วงกำลังเปลี่ยนถ่ายฤดูจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน บางวันมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด บางวันมีฝนฟ้าคะนอง ทิศทางลมมีความแปรปรวน ในระยะนี้ยังไม่มีปรากฏการณ์ของคลื่นความหนาวเย็นที่จะทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว และไม่มีลักษณะอากาศสุดขั้ว (Extreme) เกิดขึ้น เว้นแต่ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ตามฤดูกาลตามปกติ จึงขอแนะนำให้ประชาชน ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกขึ้นในสังคม
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูล และพยากรณ์อากาศกันอย่างต่อเนื่อง หากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรง และมีผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศแจ้งเตือนให้ทราบอย่างทันที ดังนั้น จึงขอให้ประชาชน ติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยราชการเท่านั้น ในการประกาศแจ้งเตือนจะมีรายละเอียด วันและเวลาที่แน่นอน และขอให้อย่าได้ตื่นตระหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้มาจากผู้ทำงานรับผิดชอบโดยตรง และอย่าได้ส่งต่อข้อความดังกล่าวในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2399 4012-3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th.-516-สำนักข่าวไทย