ธนาคารไทยเครดิตแจงลูกค้าร้องถูกโกงขายพ่วงทำประกันชีวิต

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.-จากกรณีที่ ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ของธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ในรายการ กรณีขอสินเชื่อและสงสัยว่าอาจถูกโกงค่าดำเนินการและพ่วงการทำประกันชีวิตโดยไม่ผ่านการยินยอมนั้น


ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า ธนาคารฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ และถูกต้องตามหลักเกณฑ์ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยขอชี้แจงเป็นประเด็นดังต่อไปนี้

1. ลูกค้าขอกู้วงเงินสินเชื่อเพื่อหมุนเวียนในธุรกิจ โดยได้รับการค้ำประกันจาก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พนักงานธนาคารฯ ได้แจ้งรายละเอียดกับลูกค้า ซึ่งลูกค้าได้ลงนามในสัญญาเงินกู้และเอกสารรับเงินกู้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ธนาคารฯ ได้ส่งใบแจ้งหนี้ที่ระบุยอดหนี้และยอดผ่อนชำระหนี้ในแต่ละงวดให้ลูกค้าทราบทุกเดือน


2. ประเด็นเรื่องการทำประกันชีวิต

ลูกค้าได้สมัครทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจำนวน 2 กรมธรรม์ (ในชื่อลูกค้าและสามีชาวต่างชาติของลูกค้า) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้ทำประกัน กรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน (ลูกค้าเสียชีวิต) บริษัทประกันชีวิตจะชำระหนี้ทั้งหมดกับธนาคารฯ และคืนเงินส่วนที่เหลือให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้สมัครได้ระบุในคำขอทำประกัน โดยมีค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อตามทุนประกัน ที่เท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ลูกค้าขอกู้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้สมัครทำประกันสุขภาพ จำนวน 2 กรมธรรม์ (ในชื่อลูกค้าและสามีชาวต่างชาติของลูกค้า) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยรายได้ให้กับผู้ทำประกัน กรณีเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ทั้งนี้ การสมัครทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพทุกกรมธรรม์ ลูกค้ามีการลงลายมือชื่อของลูกค้าและสามีชาวต่างชาติของลูกค้าอย่างชัดเจน ในกรณีสามีของลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาตินั้น พนักงานของธนาคารฯ ได้อธิบายขั้นตอนการทำประกันโดยมีลูกค้าเป็นผู้แปลให้สามีฟัง ซึ่งพนักงานของธนาคารฯ ยังได้มีการสนทนากับลูกค้าผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE และลูกค้าได้นำส่งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อนำไปสมัครทำประกันชีวิตของสามีลูกค้าด้วย


3. กรณีค่าธรรมเนียม บสย.

ลูกค้าได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ BI7 ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในปีแรกและปีต่ออายุไม่เท่ากัน โดยลูกค้าได้ชำระเงินตามเงื่อนไขโครงการฯ ซึ่งธนาคารฯ นำส่ง บสย. เต็มจำนวน โดยธนาคารฯ ได้ชี้แจงรายละเอียด และลูกค้าได้ลงนามรับทราบถึงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในเอกสารการขอสินเชื่อและใบคำขอการค้ำประกันอย่างครบถ้วนและถูกต้อง

4. ประเด็นการแจ้งยกเลิกประกันและแจ้งสิทธิให้ลูกค้าทราบ

ในขั้นตอนการขาย นอกจากพนักงานขายที่ทำหน้าที่นำเสนอและขายให้กับลูกค้าแล้ว ธนาคารฯ ยังมีกระบวนการ Welcome Call ซึ่งจะมีพนักงานอีก 1 ทีม โทรติดต่อลูกค้า เพื่อชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้กับลูกค้าเพิ่มเติม รวมถึงอธิบายและทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกัน และค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงแจ้งสิทธิเรื่องการยกเลิกประกัน ว่าสามารถทำได้หากลูกค้าไม่มีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกัน ซึ่งหากลูกค้ามีความเข้าใจผิดพลาด หรือสงสัยในรายละเอียด หรือต้องการยกเลิกประกันต่างๆ ธนาคารฯ ก็จะประสานงานยืนยัน และทำการยกเลิกให้กับลูกค้าได้

5. ประเด็นเรื่องพนักงานที่ดูแลลูกค้ามีตัวตนจริงหรือไม่ และได้ชี้แจงรายละเอียดการขายต่างๆให้ลูกค้ารับทราบทั้งหมดหรือไม่

พนักงานที่ดูแลลูกค้ารายนี้ มี 2 ท่านคือ 1. ผู้จัดการเขตลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (ตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการ) และ 2. ผู้จัดการความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (RM) โดยปัจจุบันพนักงานทั้ง 2 ท่านยังคงเป็นพนักงานของธนาคารไทยเครดิต และจากการสอบสวนพนักงานและให้พนักงานชี้แจงรายละเอียดการติดต่อ การขายสินเชื่อและประกัน พนักงานยืนยันว่าได้ไปพบลูกค้า ณ ที่ตั้งกิจการ พร้อมมีการอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ลูกค้ารับทราบอย่างถูกต้องครบถ้วน และลูกค้าได้ตกลงใช้บริการ ทั้งสินเชื่อและประกัน โดยมีเอกสารแนบต่างๆ ที่ลูกค้าได้ลงนามไว้ ทั้งใบสมัครสินเชื่อ ใบสมัครประกัน เอกสารสัญญาเงินกู้ และเอกสารแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ครบถ้วน พร้อมทั้งแนบหลักฐานการติดต่อและการสนทนากับลูกค้าผ่านทางไลน์ โดยลูกค้าได้พูดคุยกับพนักงานและรับทราบขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆ เป็นอย่างดี

ขณะนี้ธนาคารฯ อยู่ระหว่างการทำสรุปเหตุการณ์ และจะเข้าไปพบลูกค้าอีกครั้ง เพื่อสรุปความเข้าใจในเอกสารและขั้นตอนการทำงานของพนักงาน รวมถึงชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น และหากมีข้อมูลใดที่ลูกค้ามีไม่ตรงกับที่ทางพนักงานแจ้งมา ธนาคารฯ พร้อมรับฟังและดำเนินการแก้ไขตามขั้นตอนและกระบวนการของธนาคารฯ โดยเร็วที่สุดต่อไป

ธนาคารฯ ขอยืนยันว่า ธนาคารฯ ให้ความสำคัญกับการขายที่เป็นธรรม (Market Conduct) รวมถึงการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการทำงานของพนักงานในการดูแลลูกค้าและการขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ตลอดจนมีกระบวนการตรวจสอบการทำงานของพนักงานให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ ไม่บังคับขาย และแจ้งสิทธิต่างๆ ของลูกค้าแล้วอย่างครบถ้วน รวมถึงมีบทลงโทษที่ชัดเจน หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ธนาคารฯ กำหนด 

นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังมีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนให้ลูกค้าสามารถแจ้งเบาะแสการทุจริตหรือข้อร้องเรียนต่างๆ ได้ผ่านเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลมีเดียของธนาคารฯ สาขาธนาคารฯ และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) 02 697 5454 โดยธนาคารฯ จะแจ้งข้อมูลให้ผู้ร้องเรียนทราบถึงขั้นตอนและระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการ ธนาคารฯ พร้อมดูแลลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุดในการใช้บริการของธนาคารฯ.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]