ธนาคารไทยเครดิตแจงลูกค้าร้องถูกโกงขายพ่วงทำประกันชีวิต

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.-จากกรณีที่ ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ของธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ในรายการ กรณีขอสินเชื่อและสงสัยว่าอาจถูกโกงค่าดำเนินการและพ่วงการทำประกันชีวิตโดยไม่ผ่านการยินยอมนั้น


ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่า ธนาคารฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ และถูกต้องตามหลักเกณฑ์ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยขอชี้แจงเป็นประเด็นดังต่อไปนี้

1. ลูกค้าขอกู้วงเงินสินเชื่อเพื่อหมุนเวียนในธุรกิจ โดยได้รับการค้ำประกันจาก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พนักงานธนาคารฯ ได้แจ้งรายละเอียดกับลูกค้า ซึ่งลูกค้าได้ลงนามในสัญญาเงินกู้และเอกสารรับเงินกู้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ธนาคารฯ ได้ส่งใบแจ้งหนี้ที่ระบุยอดหนี้และยอดผ่อนชำระหนี้ในแต่ละงวดให้ลูกค้าทราบทุกเดือน


2. ประเด็นเรื่องการทำประกันชีวิต

ลูกค้าได้สมัครทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อจำนวน 2 กรมธรรม์ (ในชื่อลูกค้าและสามีชาวต่างชาติของลูกค้า) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้ทำประกัน กรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน (ลูกค้าเสียชีวิต) บริษัทประกันชีวิตจะชำระหนี้ทั้งหมดกับธนาคารฯ และคืนเงินส่วนที่เหลือให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้สมัครได้ระบุในคำขอทำประกัน โดยมีค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อตามทุนประกัน ที่เท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ลูกค้าขอกู้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้สมัครทำประกันสุขภาพ จำนวน 2 กรมธรรม์ (ในชื่อลูกค้าและสามีชาวต่างชาติของลูกค้า) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยรายได้ให้กับผู้ทำประกัน กรณีเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ทั้งนี้ การสมัครทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพทุกกรมธรรม์ ลูกค้ามีการลงลายมือชื่อของลูกค้าและสามีชาวต่างชาติของลูกค้าอย่างชัดเจน ในกรณีสามีของลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาตินั้น พนักงานของธนาคารฯ ได้อธิบายขั้นตอนการทำประกันโดยมีลูกค้าเป็นผู้แปลให้สามีฟัง ซึ่งพนักงานของธนาคารฯ ยังได้มีการสนทนากับลูกค้าผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE และลูกค้าได้นำส่งเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเพื่อนำไปสมัครทำประกันชีวิตของสามีลูกค้าด้วย


3. กรณีค่าธรรมเนียม บสย.

ลูกค้าได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก บสย. ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ BI7 ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในปีแรกและปีต่ออายุไม่เท่ากัน โดยลูกค้าได้ชำระเงินตามเงื่อนไขโครงการฯ ซึ่งธนาคารฯ นำส่ง บสย. เต็มจำนวน โดยธนาคารฯ ได้ชี้แจงรายละเอียด และลูกค้าได้ลงนามรับทราบถึงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในเอกสารการขอสินเชื่อและใบคำขอการค้ำประกันอย่างครบถ้วนและถูกต้อง

4. ประเด็นการแจ้งยกเลิกประกันและแจ้งสิทธิให้ลูกค้าทราบ

ในขั้นตอนการขาย นอกจากพนักงานขายที่ทำหน้าที่นำเสนอและขายให้กับลูกค้าแล้ว ธนาคารฯ ยังมีกระบวนการ Welcome Call ซึ่งจะมีพนักงานอีก 1 ทีม โทรติดต่อลูกค้า เพื่อชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้กับลูกค้าเพิ่มเติม รวมถึงอธิบายและทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกัน และค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงแจ้งสิทธิเรื่องการยกเลิกประกัน ว่าสามารถทำได้หากลูกค้าไม่มีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกัน ซึ่งหากลูกค้ามีความเข้าใจผิดพลาด หรือสงสัยในรายละเอียด หรือต้องการยกเลิกประกันต่างๆ ธนาคารฯ ก็จะประสานงานยืนยัน และทำการยกเลิกให้กับลูกค้าได้

5. ประเด็นเรื่องพนักงานที่ดูแลลูกค้ามีตัวตนจริงหรือไม่ และได้ชี้แจงรายละเอียดการขายต่างๆให้ลูกค้ารับทราบทั้งหมดหรือไม่

พนักงานที่ดูแลลูกค้ารายนี้ มี 2 ท่านคือ 1. ผู้จัดการเขตลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (ตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการ) และ 2. ผู้จัดการความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (RM) โดยปัจจุบันพนักงานทั้ง 2 ท่านยังคงเป็นพนักงานของธนาคารไทยเครดิต และจากการสอบสวนพนักงานและให้พนักงานชี้แจงรายละเอียดการติดต่อ การขายสินเชื่อและประกัน พนักงานยืนยันว่าได้ไปพบลูกค้า ณ ที่ตั้งกิจการ พร้อมมีการอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ลูกค้ารับทราบอย่างถูกต้องครบถ้วน และลูกค้าได้ตกลงใช้บริการ ทั้งสินเชื่อและประกัน โดยมีเอกสารแนบต่างๆ ที่ลูกค้าได้ลงนามไว้ ทั้งใบสมัครสินเชื่อ ใบสมัครประกัน เอกสารสัญญาเงินกู้ และเอกสารแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ ครบถ้วน พร้อมทั้งแนบหลักฐานการติดต่อและการสนทนากับลูกค้าผ่านทางไลน์ โดยลูกค้าได้พูดคุยกับพนักงานและรับทราบขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆ เป็นอย่างดี

ขณะนี้ธนาคารฯ อยู่ระหว่างการทำสรุปเหตุการณ์ และจะเข้าไปพบลูกค้าอีกครั้ง เพื่อสรุปความเข้าใจในเอกสารและขั้นตอนการทำงานของพนักงาน รวมถึงชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น และหากมีข้อมูลใดที่ลูกค้ามีไม่ตรงกับที่ทางพนักงานแจ้งมา ธนาคารฯ พร้อมรับฟังและดำเนินการแก้ไขตามขั้นตอนและกระบวนการของธนาคารฯ โดยเร็วที่สุดต่อไป

ธนาคารฯ ขอยืนยันว่า ธนาคารฯ ให้ความสำคัญกับการขายที่เป็นธรรม (Market Conduct) รวมถึงการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการทำงานของพนักงานในการดูแลลูกค้าและการขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ตลอดจนมีกระบวนการตรวจสอบการทำงานของพนักงานให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ ไม่บังคับขาย และแจ้งสิทธิต่างๆ ของลูกค้าแล้วอย่างครบถ้วน รวมถึงมีบทลงโทษที่ชัดเจน หากพนักงานไม่ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ธนาคารฯ กำหนด 

นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังมีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนให้ลูกค้าสามารถแจ้งเบาะแสการทุจริตหรือข้อร้องเรียนต่างๆ ได้ผ่านเว็บไซต์หรือสื่อโซเชียลมีเดียของธนาคารฯ สาขาธนาคารฯ และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) 02 697 5454 โดยธนาคารฯ จะแจ้งข้อมูลให้ผู้ร้องเรียนทราบถึงขั้นตอนและระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการ ธนาคารฯ พร้อมดูแลลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุดในการใช้บริการของธนาคารฯ.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ สั่งการจากโมนาโก มอบ “อนุทิน” ช่วยเหลือน้ำท่วมแม่สาย

กทม. 24 พ.ค.-นายกฯ สั่งการจากโมนาโก เหตุมวลน้ำทะลักจากเมียนมาลงสู่แม่น้ำสาย มอบ “อนุทิน” รองนายกฯ เข้าช่วยเหลือตามข้อสั่งการด่วน พร้อมให้ สธ. ลงพื้นที่แก้ปัญหาแม่น้ำสายปนเปื้อนสารหนู ลดความกังวล และตรวจสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมแม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นน้ำที่ทะลักจากเมียนมาลงสู่แม่สายบริเวณใกล้วัดพรหมวิหารอย่างใกล้ชิด แม้ยังอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจต่างประเทศในการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร และราชรัฐโมนาโก ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานนายกรัฐมนตรีในฐานะ ประธานคณะกรรมการบรรเทาสาธารณภัย ว่าได้สั่งการให้เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีโดยด่วน และให้กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจ ลดความกลัวในเรื่องน้ำที่มีสารปนเปื้อน และให้ตรวจเช็คสุขภาพ ร่างกายพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะที่นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่ามวลน้ำที่มีมากทำให้ล้นบิ๊กแบ็กขึ้นมา ส่งผลให้เข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ช่วงน้ำท่วมยังมีวัชพืชและขอนไม้ไหลมาติดสะพานอีก ทำให้ต้องเร่งนำเอาวัชพืชและขอนไม้ออกเพื่อให้น้ำไหลระบายได้สะดวก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ระดมบิ๊กแบ็คเพิ่มเติมเพื่อนำไปป้องกันบริเวณริมฝั่งชุมชนเกาะทรายและไม้ลุงขนต่อไป ทั้งนี้ ภายหลังน้ำลดจะมีการลงพื้นที่ เพื่อเร่งเจรจากับชาวบ้านที่ยังคงเหลืออาศัยอยู่ริมฝั่งอีก 8-9 ราย ให้ย้ายออกและทำการรื้อถอน […]

เร่งเคลียร์พื้นที่รถน้ำมันพลิกคว่ำ ถ.สุขสวัสดิ์

กทม. 24 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยอุบัติเหตุรถน้ำมันพลิกคว่ำ ถ.สุขสวัสดิ์ เร่งเคลียร์คราบน้ำมัน ป้องกันไหลไปบริเวณอื่น ส่วนรถที่พลิกคว่ำ ยกขึ้นได้แล้ว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงอุบัติเหตุเมื่อคืนเวลาประมาณ 00.24 น. มีรถน้ำมันพลิกคว่ำบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ 24 เขตราษฎร์บูรณะ ทำให้มีน้ำมันเปรอะพื้นผิวจราจร ซึ่งเป็นน้ำมันเบนซินที่มีความไวไฟ กทม. จึงได้ใช้วิธีใช้กระสอบทราย ล้อมจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันน้ำมันไม่ให้ไหลไปบริเวณอื่น รวมถึงบล็อกท่อระบายน้ำบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันน้ำมันไหลลงสู่ท่อระบายน้ำไปปนเปื้อนกับน้ำในท่อ โดยล่าสุดสามารถกู้รถให้ตั้งขึ้นได้แล้ว พร้อมถ่ายน้ำมันเบนซินของรถที่พลิกคว่ำไปสู่รถอีกคันที่มารองรับแล้ว อีกทั้งบริษัทผู้รับผิดชอบจะนำรถมาดูดน้ำมันที่อยู่บนพื้นและท่อระบายน้ำที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมออกไปจากท่อด้วยเพื่อนำน้ำไปบำบัด รวมถึงเมื่อเช้าได้มีการอพยพผู้คนบริเวณใกล้เคียงไปประมาณ 100 คน เพื่อความปลอดภัย ซึ่งสถานการณ์ในภาพรวมเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวล ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม และบ่ายนี้จะคลี่คลาย.-417-สำนักข่าวไทย

น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เชียงราย 24 พ.ค.-ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน แม่น้ำสายทะลักท่วมหลายชุมชน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางดึก บางจุดสูงถึง 1 เมตร ส่วนบริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 น้ำล้นบิ๊กแบ็กทะลักท่วมชุมชนริมน้ำเช่นกัน ฝนตกหนักเกือบทั้งคืน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้น จนล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมหลายชุมชน เช่น บ้านถ้ำผาจม ตลาดสายลมจอย ตลาดน้อยเหมืองแดง ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะทราย โดยน้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง บางจุดสูง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร น้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนกลางดึกแบบไม่ทันตั้งตัว หลายหลังเข้าท่วมภายในบ้าน จนต้องตื่นมาขนของมีค่าหนีน้ำกลางดึก ขณะที่บริเวณใต้สะพานพรมแดนไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ระดับน้ำในแม่น้ำสายสูงขึ้นจนล้นพนังกั้นน้ำจากกระสอบทรายบิ๊กแบ็กบนถนนลอดใต้สะพาน ทะลักไหลเข้าพื้นที่ชั้นในขยายเป็นวงกว้างออกไปหลายชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำสาย และเป็นพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำยังคงท่วมสูง และมีแนวโน้มว่าน้ำจะยังคงสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำในประเทศเมียนมาฝนยังตกหนัก.-สำนักข่าวไทย