กรุงเทพฯ 27 เม.ย.-“จุลพันธ์” ยืนยัน ธ.ก.ส. ฐานะมั่นคง พร้อมยื่นเรื่องกฤษฎีกา คลายสงสัยกู้เงิน 1.72 แสนล้านบาท เตรียมพักหนี้เกษตรกรเฟส 2 ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่ม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ได้เตรียมขั้นตอนเดินหน้าในรายละเอียด เพื่อผลักดันโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ตามเป้าหมาย สำหรับข้อสงสัยหรือเป็นห่วง การกู้เงินผ่านมาตรการกึ่งทางการคลัง ม. 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง กู้เงินจาก ธ.ก.ส. 1.72 แสนล้านบาทนั้น เป็นอำนาจบริหารของรัฐบาลทำได้อยู่แล้ว และใช้กลไกนี้มาหลายรัฐบาลเพื่อดูแลเกษตรกร แต่เมื่อยังสงสัย จึงพร้อมส่งเรื่องให้กฤษฎีกาพิจารณา และรัฐบาลพร้อมชี้แจงได้ทุกประเด็น ส่วนแหล่งเงินจากงบประมาณทั้งปี 67และ 68 ได้ข้อสรุปชัดเจนไปแล้ว ทำให้แหล่งเงินรวม 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการจึงไม่มีปัญหา
“ที่ผ่านมา มีการคัดค้านโครงการดิจิทัลวอเล็ต นับว่าเป็นเรื่องธรรมดา รัฐบาลพร้อมรับฟังทุกเรื่อง และชี้แจงทุกเรื่อง แต่เมื่อต้องรับผิดชอบต่อประชาชนผ่านการเลือกตั้ง จึงต้องเดินหน้าตามที่ประกาศไว้ในสภา โดยพร้อมปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ค้นหากลไกอื่นมาเสริม ตามคำแนะนำของทุกฝ่ายมาตลอด การใช้เงินจาก ธ.ก.ส. จึงพร้อมส่งเรื่องให้กฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง กระทรวงการคลังมั่นใจฐานะการเงิน และสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.มีความมั่นคงมาก จึงนำมาช่วยในโครงการนี้ และพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมอีกในเร็วๆเพื่อดูแลสภาพคล่อง” นายจุลพันธ์ กล่าว
สำหรับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอเล็ต อนุกรรมการชุดต่างๆจะเดินหน้าประชุมจัดเตรียมโครงการ และความร่วมมืออีกหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของ ธ.ก.ส. เพื่อส่งเรื่องสอบถามกฤฎีกาแล้ว จะเสนอบอร์ด ธ.ก.ส. เรื่องการใช้สภาพคล่อง ม.28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง จากนั้น คาดว่าในช่วงเดือนตุลาคม 67 นำเสนอ ครม.พิจารณา ขณะนี้ต้องใช้เวลาอีก 5-6 เดือนผลักดันโครงการให้คืบหน้า
นายจุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้ออกมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย หนี้คงค้างไม่เกิน 300,000 บาท เปิดให้ผู้ต้องการเข้าร่วมมาตรการผ่าน Application ของ ธ.ก.ส. BAAC Mobile จำนวน ถึ 1.85 ล้านราย ยอดหนี้คงค้าง 257,000 ล้านบาท ทำสัญญาพักหนี้ 1.39 ล้านราย หรือกว่าร้อยละ 90 ของผู้แจ้งความประสงค์ร่วมมาตรการ และมีผู้เข้าหลักสูตรการฟื้นฟูอาชีพ ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” จำนวน 1.3 แสนราย โดยธนาคารจะฟื้นฟูอาชีพให้กับลูกค้า 3 แสนรายภายในเดือนกันยายน 2567 ธ.ก.ส. ได้เตรียมขยายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยผ่านโครงการพักชำระหนี้ เฟส 2 ในช่วง 1 เดือนข้างหน้า ทำให้การพักหนี้ช่วยเหลือลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และยังได้อานิสงฆ์จากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ลง 0.25% หนุนการฟื้นตัวกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มพักหนี้เฟส 2 เพิ่มเติม.-515.-สำนักข่าวไทย