ดึง OR สร้างตลาดใหม่ให้ SME ประเดิม PTT Station มีนบุรี

มีนบุรี 14 มี.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พา 5 ประเภทธุรกิจ SME, SMART Local, Franchise, Food Truck และ MOC Biz Club ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ กว่า 50 ราย บุก PTT Station สาขามีนบุรี ขายสินค้าจัดเต็ม 4 สัปดาห์ (สัปดาห์ละ 3 วัน พฤ.-ส.) เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.67 สิ้นสุด 6 เม.ย.67 หวังเพิ่มช่องทางกระจายสินค้า ขยายโอกาสทางการค้าให้ SME ไทย มีช่องทางขายสินค้า เน้นกลุ่มผู้บริโภคตลาดใหม่ในสถานีบริการน้ำมันเป็นเสมือนคอมมูนิตี้มอลล์ จุดนัดพบนักเดินทาง นำร่องตลาดดี มีศักยภาพ สู่การสร้างรายได้ธุรกิจไทยยั่งยืน 


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “วันนี้ (14 มี.ค.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จัดกิจกรรม Market D (DBD x OR) ตลาดดี สร้างรายได้ยั่งยืน ณ PTT Station สาขามีนบุรี โดยมีเป้าหมายในการสร้างอาชีพ สร้างโอกาสทางการตลาดธุรกิจ ให้มีทำเลค้าขายที่เข้าถึงผู้ใช้บริการได้มากขึ้น สอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งขยายโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน กระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยเกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ ตามกิจกรรมฯ ครั้งนี้เป็นการเปิดตลาดครั้งแรก โดยมีกำหนดจัดงาน ณ PTT Station สาขามีนบุรี ทั้งหมด 4 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน (วันพฤหัสบดี-วันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่มีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก) ได้แก่ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-16 มี.ค.67 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 21-23 มี.ค.67 ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 28-30 มี.ค.67 และครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 4-6 เม.ย.67 กรมฯ ได้คัดเลือก 5 ประเภทธุรกิจ จำนวน 50 ราย ได้แก่ SME, SMART Local, Franchise, Food Truck และ MOC Biz Club ที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ และผู้ประกอบการไทยเด็ด ที่กรมฯ ร่วมคัดเลือกกับ OR หมุนเวียนมาจำหน่ายสินค้าตลอด 4 สัปดาห์ อาทิเช่น ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน ขนมหวานต้นตำรับเมืองเพชร ข้าวแตนน้ำแตงโม มะม่วงน้ำปลาหวาน ขนมบ้านอุ๋ม ไอศรีมซอฟเสิร์ฟ ลูกชิ้นปลาระเบิดผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยาดมสมุนไพร ชุดผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์จักสานไม้ไผ่


ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันในสายตาของผู้บริโภคไม่ใช่แค่การเข้าไปเพื่อเติมน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเสมือนคอมมูนิตี้มอลล์ในชุมชน จุดนัดพบการเดินทาง จุดรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงแหล่งซื้อขายสินค้าของฝากด้วย ซึ่งการจับมือกับ OR จะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มและกลุ่มอื่นๆ สามารถขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าใหม่ๆ ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังมีโอกาสได้รับการพิจารณาคัดเลือกสินค้าเข้าจำหน่ายในธุรกิจเครือข่ายของสถานีบริการน้ำมัน หรือขยายกิจการในรูปแบบพื้นที่เช่าต่อไป มากไปกว่านั้นยังได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลาย เปิดมุมมองการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ เพื่อนำไปปรับใช้กับการประกอบธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

“กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอขอบคุณ OR ที่ช่วยกันสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้า และเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างอาชีพของคนไทยให้ยั่งยืน เมื่อจบการจัดกิจกรรม Market D (DBD x OR) ตลาดดี สร้างรายได้ยั่งยืน ในช่วงต้นเดือนเม.ย.67 นี้ คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการค้าได้ไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท และในอนาคต กรมฯ มีแผนจะขยายความร่วมมือไปยังสถานีบริการน้ำมันแห่งอื่นๆ และมองหาทำเลทองในการขายสินค้าให้ธุรกิจภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ ได้มีโอกาสสร้างตลาดได้กว้างขึ้นต่อไป ”นางอรมนกล่าว

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “OR มีนโยบายสนับสนุนให้พันธมิตรโครงการไทยเด็ด สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ใน PTT Station จึงได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) จัดงานตลาดสินค้าชุมชน ในกิจกรรม Market D (DBD x OR) ตลาดดี สร้างรายได้ยั่งยืน ณ PTT Station สาขามีนบุรี เพื่อเปิดโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการต่างๆ ได้นำสินค้ามาจำหน่าย อีกทั้งยังช่วยขยายตลาดทางเลือกให้ผู้บริโภค ตลอดจนมีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมในชุมชนให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวคิด Living Community ของ PTT Station ที่ต้องการให้ PTT Station เป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มทุกความสุขและเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับ OR SDG แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยเฉพาะใน 2 ด้าน S หรือ Small ที่มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก และด้าน D หรือ DIVERSIFIED ที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสกับพันธมิตร เพื่อการเติบโตร่วมกันผ่านแฟลตฟอร์มต่างๆ ของ OR ที่มีศักยภาพ อีกทั้งยังมีด้าน G หรือ GREEN ที่พัฒนาธุรกิจ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมเติบโตไปด้วยกันทั้งสังคม ชุมชน อย่างยั่งยืนต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]