กรุงเทพฯ
5
ส.ค.-กรมชลประทานเร่งซ่อมแซมและเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำกัดเซาะพนังกั้นลำน้ำชี ระดมคน เครื่องจักร เครื่องมือร่วมหน่วยงานในพื้นที่ เข้าคลี่คลายสถานการณ์น้ำในพื้นที่การเกษตร เขตชุมชน
พื้นที่เศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน
เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำจากแม่น้ำชีตอนบนและลำน้ำพองที่ไหลมาบรรจบกับปริมาณน้ำจากลำปาวมีแนวโน้มลดลง
ขณะนี้มวลน้ำกำลังเคลื่อนตัวผ่านแม่น้ำชีตอนล่าง คาดว่าอีก 2 วันข้างหน้า จะทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งที่
อ.มหาชนะชัย จ. ยโสธร ก่อนลงสู่แม่น้ำมูล
ปัจจุบันนี้ ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์
กรมชลประทานได้ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องนำเครื่องจักร เครื่องมือ
และกระสอบทรายเข้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่มีความเสี่ยงเกิดการกัดเซาะบริเวณพนังกั้นแม่น้ำชี
เช่นที่ บ้านโนนแดง บ้านสะดำสี
บ้านหนองคล้า ตำบลลำชี อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำเครื่องจักร เครื่องมือ
และกระสอบทรายเข้าป้องกันพนังกั้นน้ำชีไว้แล้ว
เจ้าหน้าที่ตรวจพบพนังกั้นลำน้ำชี
บริเวณบ้านไผ่ล้อม บ้านคุยขนวน ตำบลเชียงขวัญ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด มีการรั่วซึมประมาณ
2 เมตร ต่ำกว่าระดับสันพนังด้านฝั่งน้ำชี 3 เมตร และรั่วซึมออกด้านท้ายที่ระดับลึก
5 เมตร จึงเร่งนำรถขุดดินมาถมปิดด้านหน้าพร้อมบดอัดแน่นบริเวณหน้าท่อในลำน้ำชีและได้รับการสนับสนุนกำลังพลจาก
มณฑลทหารบกที่ 27 ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้าน
ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายนำมาปิดอัดด้านหน้าบริเวณจุดรั่วซึม
เพื่อป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายในพื้นที่น้ำท่วม
นอกจากนี้ในพื้นที่อื่น ๆ
กรมชลประทานได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังจุดเสี่ยงภัยต่างๆ
อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมงตามที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
และได้มอบนโยบายกรมชลประทานประสานให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย