ไทยควรมีกฎหมายคุม “อินฟลูเอนเซอร์” หรือไม่

5 มี.ค. – สภาพัฒน์ฯ จี้ออกกฎหมายคุม “อินฟลูเอนเซอร์” อวดรวยเร่งคนก่อหนี้ ชวนเล่นพนัน ปล่อยข่าวปลอม วันนี้สำนักข่าวไทยจะพาไปฟังมุมมองของฝั่งอินฟลูเอนเซอร์ และสภาองค์กรของผู้บริโภค ว่ามีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร


Influencer เป็นหนึ่งในอาชีพไฝ่ฝันของเด็กรุ่นใหม่ เนื่องจากสร้างรายได้ค่อนข้างสูง ทั้งจากการโฆษณาสินค้า รีวิวสินค้า แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Celebrity กลุ่มนี้มีผู้ติดตามมากที่สุด ตั้งแต่ 100,000-1,000,000 คน Key Opinion Leaders (KOL) คือผู้ที่มีความสนใจหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Micro Influencer สร้างสรรค์คอนเทนต์ในเรื่องทั่วๆ ไป ไลฟ์สไตล์ กิน เที่ยว รวมไปถึงรีวิวสินค้า และ Nano Influencer มักเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะ มีฐานผู้ติดตามเหนียวแน่น สามารถโน้มน้าวใจได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันประเทศไทยมี Influencer กว่า 2 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน การขยายตัวของ Influencer ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นช่องทางสร้างรายได้ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักแสนต่อโพสต์ จึงมีการแข่งขันผลิต Content และให้ความสำคัญกับ Engagement บางรายสร้าง Content ให้เป็นกระแสโดยไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้อง ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อสังคม เช่น การเผยแพร่ข่าวปลอม คอนเทนต์อวดรวย รวมถึงชวนเล่นการพนัน สภาพัฒน์ฯ จึงอยากให้มีกฎหมายควบคุม เช่นเดียวกับในต่างประเทศ เช่น จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอร์เวย์ และอังกฤษ

คนในแวดวง Influencer มองว่าการออกกฎหมายควบคุมอาจทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของเหล่า Influencer หล่นหายไป จึงเสนอให้มีการควบคุมกันเอง เช่น ตั้งเป็นสมาคม หรือการมีหน่วยงานในกำกับของรัฐ อย่าง กสทช. เข้ามาดูแล รวมถึงการให้ความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยี ทักษะการคิดวิเคราะห์แก่ผู้รับสาร เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในโลกออนไลน์


เช่นเดียวกับสภาองค์กรของผู้บริโภค ที่มองว่ารัฐควรสนับสนุนการกำกับดูแลกันเอง ยกร่างจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานแก่ Influencer แต่หากไม่ได้ผลควรมีกฎหมายเข้ามากำกับ พร้อมแนะแพลตฟอร์มขึ้นทะเบียน Influencer เพราะต้องร่วมรับผิดชอบกรณีมีการกระทำไม่เหมาะสม ไม่ใช่สร้างภาระให้ผู้บริโภค

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Influencer เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลกับคนหมู่มากบนโซเชียลมีเดีย ยิ่งมีผู้ติดตามมากยิ่งมีอิทธิพลมาก มีส่วนชี้นำสังคม นับเป็นดาบสองคมซึ่งเห็นชัดในภาวะปัจจุบัน ดังนั้น ไม่ว่าจะมีกฎหมายมาดูแลหรือไม่ แต่การควบคุมจริยธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน