INETREIT ประกาศราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนสูงสุด หน่วยละ 9.00 บาท

กรุงเทพฯ 21 ก.พ.-ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT เตรียมเพิ่มทุนครั้งที่ 1 มูลค่ารวมไม่เกิน 3,200 ล้านบาท เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิ์จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567 นี้ ที่ราคาเสนอขายสูงสุด 9.00 บาทต่อหน่วย 


นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จํากัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT เป็นกองทรัสต์กองแรกและกองเดียวในประเทศไทยที่เข้าลงทุนตรงในทรัพย์สินประเภทศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) ทั้งหมด โดยมุ่งเน้นการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพเติบโตสูงในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล จากการผลักดันประเทศไทยก้าวเป็นฮับของศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลระดับโลก โดยนับตั้งแต่กองทรัสต์ INETREIT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 – 30 กันยายน 2566 รวมทั้งสิ้น 1.8102 บาทต่อหน่วย เป็นจำนวนทั้งหมด 9 ครั้ง 

ทั้งนี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 อัตรา 0.2007 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ส่งผลให้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ฯ จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรวม 2.0109 บาทต่อหน่วย


ปัจจุบันกองทรัสต์ INETREIT มีทรัพย์สินหลัก ได้แก่ โครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าและมีระยะเวลาการเช่าคงเหลือประมาณ 22 ปี (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2588) และได้ปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เพียงรายเดียวและมีข้อตกลงปรับค่าเช่าขึ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตราร้อยละ 2 ต่อปี โดยนับจากจัดตั้งกองทรัสต์ฯ เมื่อกลางปี 2564  ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม (วันจัดตั้งทรัสต์) ถึง 31 ธันวาคม 2564 กองทรัสต์มีรายได้รวม 163.94 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 397.57 ล้านบาทในปี 2565 

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2566 กองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 298.94 ล้านบาท และกองทรัสต์ฯ เตรียมเข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ซึ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 เน้นให้บริการ Cloud ประเภท Platform as a Service (PaaS) และ Software as a Service (SaaS) ซึ่งจัดเป็นบริการ Cloud ที่สามารถสร้างมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ที่เน้นให้บริการด้าน Co-location และ Cloud ประเภท Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก Server Software และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นรุ่นที่ใหม่กว่าโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จึงมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้ โดยผลการดำเนินการโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ในปี 2565 มีรายได้รวม 265.24 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 165.05 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรก (มกราคม – กันยายน) ปี 2566 มีรายได้รวม 261.08 ล้านบาท และ EBITDA 179.56 ล้านบาท

การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล INET-IDC3 เฟส 2 จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่กองทรัสต์ในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังกองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 อ้างอิงสมมติฐานในการจัดทำงบประมาณการงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติสำหรับงวด 12 เดือน ช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2567 ที่อัตราประมาณ 8%


ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนจะทำให้กองทรัสต์มีสัดส่วนการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) 58% และลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) 42% และอายุการเช่าคงเหลือเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของกองทรัสต์จากเดิม 22 ปี เป็น 54 ปี โดย INETREIT จะปล่อยเช่าทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมแก่ INET เพียงรายเดียวเป็นระยะเวลา 30 ปี และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตราร้อยละ 2 ต่อปี

นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET กล่าวว่า INET ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก (Sponsor) และผู้เช่าทรัพย์สินกลับจากกองทรัสต์ฯ เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร มีประสบการณ์ด้านโทรคมนาคมมายาวนานหลายทศวรรษ และเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์ (Cloud) สัญชาติไทย ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ 12.74% ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จากรายงานบทวิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนโดยบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จำกัด โดย INET วางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รองรับศักยภาพการเติบโตในยุคดิจิทัล เพิ่มความประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของ INET และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสาววรายุ อิ่มอโนทัย ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศเข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง ถือเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในกองทรัสต์เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล โดย INETREIT มีจุดเด่น ได้แก่ 1) กองทรัสต์ฯ จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ จึงสามารถสร้างรายได้แก่กองทรัสต์โดยไม่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาลงทุน 2) ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ เข้าลงทุนเพิ่มเติมมีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล และเป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าสูงขึ้น 3) ทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ จัดอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง 4) กองทรัสต์ฯ มีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในอนาคตและมีสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในทรัพย์ที่ใช้ดำเนินธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย 

รวมถึงสิทธิในการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม (Right to Invest) ในตู้ Rack เพิ่มเติมภายในโครงการ INET-IDC 3 เฟส 2 5) บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้เช่าหลักที่มีความเชี่ยวชาญบริหารโครงการและมีประสบการณ์ในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์มานาน และ 6) กองทรัสต์ถูกบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์และครอบคลุมธุรกิจ Data Center ขณะที่ความคืบหน้าการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ล่าสุดแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (Filing) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อย

นายฐิติวัชร กรวุฒิ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ INETREIT จะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 174,476,000 หน่วย แบ่งเป็นเสนอขายต่อ 1) ประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ (Rights Offering) ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายครั้งนี้ 2) INET และ / หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของ INET ซึ่งเมื่อรวมกับการจัดสรรตามส่วนที่ 1 แล้วจะมีจำนวนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ และ 3) บุคคลในวงจำกัด และ / หรือ ประชาชนทั่วไปและ/หรือ บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จากหน่วยทรัสต์ส่วนที่เหลือจากการเสนอขายในส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 โดยกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.5287 หน่วยทรัสต์เพิ่มทุน โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567

ผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องชำระเงินจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 9.00 บาทต่อหน่วย โดยราคาเสนอขายสุดท้าย ทางผู้จัดการกองทรัสต์จะประกาศผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในภายหลัง ทั้งนี้ กรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาจองซื้อ จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อทุกราย และคาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนมีนาคมนี้.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]