INETREIT ประกาศราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนสูงสุด หน่วยละ 9.00 บาท

กรุงเทพฯ 21 ก.พ.-ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT เตรียมเพิ่มทุนครั้งที่ 1 มูลค่ารวมไม่เกิน 3,200 ล้านบาท เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิ์จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567 นี้ ที่ราคาเสนอขายสูงสุด 9.00 บาทต่อหน่วย 


นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จํากัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT เป็นกองทรัสต์กองแรกและกองเดียวในประเทศไทยที่เข้าลงทุนตรงในทรัพย์สินประเภทศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) ทั้งหมด โดยมุ่งเน้นการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพเติบโตสูงในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล จากการผลักดันประเทศไทยก้าวเป็นฮับของศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลระดับโลก โดยนับตั้งแต่กองทรัสต์ INETREIT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 – 30 กันยายน 2566 รวมทั้งสิ้น 1.8102 บาทต่อหน่วย เป็นจำนวนทั้งหมด 9 ครั้ง 

ทั้งนี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 อัตรา 0.2007 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ส่งผลให้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ฯ จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรวม 2.0109 บาทต่อหน่วย


ปัจจุบันกองทรัสต์ INETREIT มีทรัพย์สินหลัก ได้แก่ โครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าและมีระยะเวลาการเช่าคงเหลือประมาณ 22 ปี (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2588) และได้ปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เพียงรายเดียวและมีข้อตกลงปรับค่าเช่าขึ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตราร้อยละ 2 ต่อปี โดยนับจากจัดตั้งกองทรัสต์ฯ เมื่อกลางปี 2564  ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม (วันจัดตั้งทรัสต์) ถึง 31 ธันวาคม 2564 กองทรัสต์มีรายได้รวม 163.94 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 397.57 ล้านบาทในปี 2565 

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2566 กองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 298.94 ล้านบาท และกองทรัสต์ฯ เตรียมเข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ซึ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 เน้นให้บริการ Cloud ประเภท Platform as a Service (PaaS) และ Software as a Service (SaaS) ซึ่งจัดเป็นบริการ Cloud ที่สามารถสร้างมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ที่เน้นให้บริการด้าน Co-location และ Cloud ประเภท Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก Server Software และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นรุ่นที่ใหม่กว่าโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จึงมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้ โดยผลการดำเนินการโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ในปี 2565 มีรายได้รวม 265.24 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 165.05 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรก (มกราคม – กันยายน) ปี 2566 มีรายได้รวม 261.08 ล้านบาท และ EBITDA 179.56 ล้านบาท

การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล INET-IDC3 เฟส 2 จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่กองทรัสต์ในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังกองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 อ้างอิงสมมติฐานในการจัดทำงบประมาณการงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติสำหรับงวด 12 เดือน ช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2567 ที่อัตราประมาณ 8%


ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนจะทำให้กองทรัสต์มีสัดส่วนการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) 58% และลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) 42% และอายุการเช่าคงเหลือเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของกองทรัสต์จากเดิม 22 ปี เป็น 54 ปี โดย INETREIT จะปล่อยเช่าทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมแก่ INET เพียงรายเดียวเป็นระยะเวลา 30 ปี และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตราร้อยละ 2 ต่อปี

นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET กล่าวว่า INET ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก (Sponsor) และผู้เช่าทรัพย์สินกลับจากกองทรัสต์ฯ เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร มีประสบการณ์ด้านโทรคมนาคมมายาวนานหลายทศวรรษ และเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์ (Cloud) สัญชาติไทย ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ 12.74% ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จากรายงานบทวิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนโดยบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จำกัด โดย INET วางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รองรับศักยภาพการเติบโตในยุคดิจิทัล เพิ่มความประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของ INET และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสาววรายุ อิ่มอโนทัย ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศเข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง ถือเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในกองทรัสต์เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล โดย INETREIT มีจุดเด่น ได้แก่ 1) กองทรัสต์ฯ จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ จึงสามารถสร้างรายได้แก่กองทรัสต์โดยไม่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาลงทุน 2) ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ เข้าลงทุนเพิ่มเติมมีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล และเป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าสูงขึ้น 3) ทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ จัดอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง 4) กองทรัสต์ฯ มีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในอนาคตและมีสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในทรัพย์ที่ใช้ดำเนินธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย 

รวมถึงสิทธิในการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม (Right to Invest) ในตู้ Rack เพิ่มเติมภายในโครงการ INET-IDC 3 เฟส 2 5) บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้เช่าหลักที่มีความเชี่ยวชาญบริหารโครงการและมีประสบการณ์ในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์มานาน และ 6) กองทรัสต์ถูกบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์และครอบคลุมธุรกิจ Data Center ขณะที่ความคืบหน้าการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ล่าสุดแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (Filing) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อย

นายฐิติวัชร กรวุฒิ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ INETREIT จะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 174,476,000 หน่วย แบ่งเป็นเสนอขายต่อ 1) ประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ (Rights Offering) ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายครั้งนี้ 2) INET และ / หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของ INET ซึ่งเมื่อรวมกับการจัดสรรตามส่วนที่ 1 แล้วจะมีจำนวนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ และ 3) บุคคลในวงจำกัด และ / หรือ ประชาชนทั่วไปและ/หรือ บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จากหน่วยทรัสต์ส่วนที่เหลือจากการเสนอขายในส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 โดยกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.5287 หน่วยทรัสต์เพิ่มทุน โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567

ผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องชำระเงินจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 9.00 บาทต่อหน่วย โดยราคาเสนอขายสุดท้าย ทางผู้จัดการกองทรัสต์จะประกาศผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในภายหลัง ทั้งนี้ กรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาจองซื้อ จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อทุกราย และคาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนมีนาคมนี้.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฤทธิ์พายุหนองฟ้าทำหลายจังหวัดอ่วม ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

31 ส.ค. – พายุหนองฟ้าทำพิษ สุโขทัยเจอน้ำท่วมไหลเชี่ยวกรากหลายอำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าหลากท่วมหลายจุด ต้นพะยอม 100 ปี โค่นขวางถนนกลางเมือง ส่วน จ.สกลนคร พายุกระหน่ำกระทบงานไหว้สาพญาเต่างอย พายุหนองฟ้าทำพิษ จ.สุโขทัย น้ำท่วมหลายอำเภอ โดยพื้นที่ที่กระทบหนักคือ อ.ศรีสัชนาลัย อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมือง อ.กงไกรลาศ อ.บ้านด่านลานหอย และ อ.คีรีมาศ ซึ่งเช้าวันนี้ ปภ.แจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนให้รับมือ นอกจากนี้พบว่าพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมือง มวลน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำยม ไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรุนแรงและเชี่ยวกราก บ้านเรือนได้รับผลกระทบเกือบ 100 หลัง น้ำป่าเข้าท่วมหลายจุดในพิษณุโลกที่ จ.พิษณุโลก น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ลงสู่ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตรเสียหาย โดยถนนทางหลวงช่วงบ้านกกไม้แดง ต.ดินทอง […]

ปชป.ยังไม่มีมติร่วมรัฐบาล กก.บห.มอบหัวหน้าพรรคตัดสินใจ

ปชป. 31 ส.ค. – “เฉลิมชัย” บอก​ ปชป. ยังไม่มีมติเข้าร่วมรัฐบาล ที่ประชุม กก.บห. มอบอำนาจหัวหน้าพรรคตัดสินใจ แจง​จับมือแถลงร่วมเพื่อไทย​ เป็นมารยาท​ เหตุยังร่วม ครม.​ ลั่นสถานการณ์​ปัจจุบัน​ยังไม่มีใครตัดสินใจได้​ ต้องรอฝุ่นจางจะเห็นภาพชัด​ ถ้าด่วนตัดสินใจอาจพลาด​ ย้ำทุกอย่างต้องผ่านมติพรรค ไม่เช่นนั้นเป็นของเถื่อน​ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยใช้เวลากว่า​ 1 ชั่วโมง​ ว่า ต้องบอกว่าวันนี้การเมืองยังไม่มีข้อยุติ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อพูดคุยสถานการณ์การเมืองทั้งหมด และกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนตามข้อบังคับพรรค ซึ่งเมื่อ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เท่ากับว่ารัฐบาลได้หมดสิ้นไป การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมดตามข้อบังคับพรรค เพื่อให้สามารถบริหารงานได้ทันการ ซึ่งที่ประชุมมีมติ ใช้ข้อบังคับ 1 3 และ 4 ยกเว้นการใช้ข้อบังคับพรรค โดยใช้เสียงไม่เกิน 3 ใน 5 ของกรรมการบริหารพรรคที่เข้าร่วมประชุม […]

“ภูมิธรรม” ลาประชุม ก.ตร. มอบ “บิ๊กต่าย” ปธ.เคาะโผนายพล

31 ส.ค.- ก.ตร. ประชุมครั้งที่ 8/2568 จับตาแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ ขณะที่ “ภูมิธรรม” ติดภารกิจ มอบ ผบ.ตร. นั่งประธานแทน วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จัดประชุมครั้งที่ 8 ประจำปี 2568 โดยมีวาระสำคัญว่าด้วยการบริหารงานบุคคลและการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการประชุมใหญ่ที่ถูกจับตามองจากทุกฝ่าย ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 7/2568 มีมติเลื่อนการพิจารณามายังวันนี้ เนื่องจากมีหนังสือร้องเรียนหลายประเด็น รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธาน ก.ตร. ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจสำคัญเร่งด่วน จึงมีหนังสือถึงที่ประชุมให้ดำเนินการตามข้อบังคับ ก.ตร. ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร. และคณะอนุกรรมการ […]

พรรคร่วมรัฐบาลตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอเคาะ

พรรคประชาชน 31 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เผย พรรคร่วมรัฐบาล ตอบรับทุกข้อเสนอ “ปชน.” รอพรรคประชาชนตัดสินใจ ลั่นทำเร็ว ยุบสภาได้ก่อน 4 เดือน ขณะม็อบหนุน พท. โผล่ให้กำลังใจ “เพื่อไทยสู้ๆ” ภายหลังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าหารือกับแกนนำพรรคประชาชนประมาณ 1 ชั่วโมง นายภูมิธรรม ได้นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมา แถลงข่าวด้านล่างพรรคประชาชน ขาดเพียงนายเดชอิศม์ ขาวทอง และนายชัยชนะ เดชเดโช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ารีบไปประชุม กรรมการบริหารพรรค จึงไม่ได้ร่วมวงสัมภาษณ์ได้ โดยนายภูมิธรรม ระบุว่า ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ซึ่งตัวแทนที่มาวันนี้ (31 ส.ค.) ก็ครบทุกพรรค ส่วนตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สบาย แต่เขาพร้อม หากไม่สบายใจหรือมีข้อสงสัยก็พร้อมจะซูมเข้ามา ซึ่งข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ เนื่องจากเห็นว่าการเมืองขณะนี้เป็นช่วงวิกฤต เป็นเรื่องที่ควรจะหาทางออกร่วมกัน ดังนั้นหลังจากที่พูดคุยกันแล้วพรรคร่วมรัฐบาลจึงได้มาพูดคุยกับพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคประชาชนเป็นพรรคที่เสนอว่า หากใครรับข้อเสนอของพรรคประชาชนได้ ก็จะนำมาตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้(31 […]