INETREIT ประกาศราคาเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนสูงสุด หน่วยละ 9.00 บาท

กรุงเทพฯ 21 ก.พ.-ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT เตรียมเพิ่มทุนครั้งที่ 1 มูลค่ารวมไม่เกิน 3,200 ล้านบาท เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิ์จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567 นี้ ที่ราคาเสนอขายสูงสุด 9.00 บาทต่อหน่วย 


นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จํากัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT เป็นกองทรัสต์กองแรกและกองเดียวในประเทศไทยที่เข้าลงทุนตรงในทรัพย์สินประเภทศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) ทั้งหมด โดยมุ่งเน้นการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพเติบโตสูงในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล จากการผลักดันประเทศไทยก้าวเป็นฮับของศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลระดับโลก โดยนับตั้งแต่กองทรัสต์ INETREIT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 – 30 กันยายน 2566 รวมทั้งสิ้น 1.8102 บาทต่อหน่วย เป็นจำนวนทั้งหมด 9 ครั้ง 

ทั้งนี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 อัตรา 0.2007 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ซึ่งจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน (Record Date) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ส่งผลให้นับตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ฯ จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรวม 2.0109 บาทต่อหน่วย


ปัจจุบันกองทรัสต์ INETREIT มีทรัพย์สินหลัก ได้แก่ โครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี โดยเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าและมีระยะเวลาการเช่าคงเหลือประมาณ 22 ปี (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2588) และได้ปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เพียงรายเดียวและมีข้อตกลงปรับค่าเช่าขึ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตราร้อยละ 2 ต่อปี โดยนับจากจัดตั้งกองทรัสต์ฯ เมื่อกลางปี 2564  ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม (วันจัดตั้งทรัสต์) ถึง 31 ธันวาคม 2564 กองทรัสต์มีรายได้รวม 163.94 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 397.57 ล้านบาทในปี 2565 

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปี 2566 กองทรัสต์ฯ มีรายได้รวม 298.94 ล้านบาท และกองทรัสต์ฯ เตรียมเข้าลงทุนในโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ซึ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 เน้นให้บริการ Cloud ประเภท Platform as a Service (PaaS) และ Software as a Service (SaaS) ซึ่งจัดเป็นบริการ Cloud ที่สามารถสร้างมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ที่เน้นให้บริการด้าน Co-location และ Cloud ประเภท Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก Server Software และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นรุ่นที่ใหม่กว่าโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จึงมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้ โดยผลการดำเนินการโครงการ INET-IDC3 เฟส 2 ในปี 2565 มีรายได้รวม 265.24 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 165.05 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรก (มกราคม – กันยายน) ปี 2566 มีรายได้รวม 261.08 ล้านบาท และ EBITDA 179.56 ล้านบาท

การเข้าลงทุนเพิ่มเติมในศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล INET-IDC3 เฟส 2 จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่กองทรัสต์ในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังกองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 1 อ้างอิงสมมติฐานในการจัดทำงบประมาณการงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติสำหรับงวด 12 เดือน ช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2567 ที่อัตราประมาณ 8%


ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนจะทำให้กองทรัสต์มีสัดส่วนการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) 58% และลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) 42% และอายุการเช่าคงเหลือเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของกองทรัสต์จากเดิม 22 ปี เป็น 54 ปี โดย INETREIT จะปล่อยเช่าทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมแก่ INET เพียงรายเดียวเป็นระยะเวลา 30 ปี และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ที่อัตราร้อยละ 2 ต่อปี

นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET กล่าวว่า INET ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก (Sponsor) และผู้เช่าทรัพย์สินกลับจากกองทรัสต์ฯ เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร มีประสบการณ์ด้านโทรคมนาคมมายาวนานหลายทศวรรษ และเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์ (Cloud) สัญชาติไทย ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่ 12.74% ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จากรายงานบทวิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนโดยบริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จำกัด โดย INET วางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเทรนด์เศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการขยายธุรกิจและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รองรับศักยภาพการเติบโตในยุคดิจิทัล เพิ่มความประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของ INET และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางสาววรายุ อิ่มอโนทัย ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศเข้าสู่จุดสูงสุดแล้ว และมีแนวโน้มทยอยปรับลดลง ถือเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในกองทรัสต์เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล โดย INETREIT มีจุดเด่น ได้แก่ 1) กองทรัสต์ฯ จะลงทุนในกรรมสิทธิ์ จึงสามารถสร้างรายได้แก่กองทรัสต์โดยไม่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาลงทุน 2) ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ฯ เข้าลงทุนเพิ่มเติมมีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล และเป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าสูงขึ้น 3) ทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ จัดอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง 4) กองทรัสต์ฯ มีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในอนาคตและมีสิทธิในการปฏิเสธก่อน (Right of First Refusal) ในทรัพย์ที่ใช้ดำเนินธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของ บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย 

รวมถึงสิทธิในการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม (Right to Invest) ในตู้ Rack เพิ่มเติมภายในโครงการ INET-IDC 3 เฟส 2 5) บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย เป็นผู้เช่าหลักที่มีความเชี่ยวชาญบริหารโครงการและมีประสบการณ์ในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์มานาน และ 6) กองทรัสต์ถูกบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารที่มากด้วยประสบการณ์และครอบคลุมธุรกิจ Data Center ขณะที่ความคืบหน้าการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ล่าสุดแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (Filing) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อย

นายฐิติวัชร กรวุฒิ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ INETREIT จะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 174,476,000 หน่วย แบ่งเป็นเสนอขายต่อ 1) ประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ (Rights Offering) ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายครั้งนี้ 2) INET และ / หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของ INET ซึ่งเมื่อรวมกับการจัดสรรตามส่วนที่ 1 แล้วจะมีจำนวนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ และ 3) บุคคลในวงจำกัด และ / หรือ ประชาชนทั่วไปและ/หรือ บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จากหน่วยทรัสต์ส่วนที่เหลือจากการเสนอขายในส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 โดยกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.5287 หน่วยทรัสต์เพิ่มทุน โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และประชาชนทั่วไปในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567

ผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจะต้องชำระเงินจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 9.00 บาทต่อหน่วย โดยราคาเสนอขายสุดท้าย ทางผู้จัดการกองทรัสต์จะประกาศผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในภายหลัง ทั้งนี้ กรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาจองซื้อ จะคืนเงินส่วนต่างแก่ผู้จองซื้อทุกราย และคาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนมีนาคมนี้.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย