fbpx

ธปท.เร่งตรวจสอบกรณีพนักงานแบงก์ขายข้อมูลลูกค้า

กรุงเทพฯ 19 ก.พ.- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เร่งตรวจสอบแบงก์ กรณีพนักงานนำข้อมูลลูกค้าไปขาย ส่วนพนักงานคนดังกล่าวถูกแบงก์ให้ออกและดำเนินคดีแล้ว ขณะที่กรณี Bin Attack ที่เกิดขึ้นล่าสุดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ


นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึง กรณีพนักงานธนาคารรายหนึ่งนำข้อมูลลูกค้าออกไปขาย ว่า ขณะนี้อยู่การระหว่างตรวจสอบ โดยได้แยกเป็น 2 กรณี โดยกรณีแรก ต้องตรวจสอบว่าข้อมูลที่หลุดไปนั้น หลุดจากระบบหรือไม่ ซึ่งข้อมูลของลูกค้าต้องได้รับการดูแลขั้นสูงสุด มีการกำหนดสิทธิ์ผู้สามารถเข้าถึงข้อมูล จึงต้องตรวจสอบว่า มีการปล่อยให้บุคคลอื่นที่ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลลูกค้าหรือไม่ และระบบต้องมีการป้องกันการนำออกไปใช้ส่วนตัว ซึ่งกรณีนี้ต้องตรวจสอบร่วมกับสถาบันการเงินว่าข้อมูลรั่วออกมาได้อย่างไร

กรณีที่ 2 ข้อมูลรั่วจากพนักงานทุจริต โดยการไปจดชื่อและข้อมูลของลูกค้าจากการไปออกบูธนอกสถานที่ ซึ่งเป็นเรื่องการทุจริตของพนักงาน ซึ่งทางธนาคารต้องดำเนินการลงโทษขั้นเด็ดขาด แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าธนาคารมีกระบวนการในการควบคุมดูแลกรณีนี้อย่างไร 


ทั้งนี้ ทราบว่าพนักงานรายดังกล่าวถูกธนาคารให้ออกและดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว อย่างไรก็ตามธปท.จะเข้าไปดูว่าแบงก์มีข้อบกพร่องหรือไม่ และ สิ่งที่ต้องทำคือ ต้องจัดการเด็ดขาดกับพนักงานเหล่านี้เพื่อให้เห็นโทษ ว่าได้ไม่คุ้มเสียหากทำ เพราะทั้งถูกไล่ออกและดำเนินคดี

ส่วน กรณีการโจรกรรมข้อมูลผ่าน Bin Attack ที่เกิดล่าสุดเมื่อคืนนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากเป็นข้อผิดพลาดจากระบบธนาคาร โดยธนาคารต้องรับผิดชอบ การโจรกรรมข้อมูลผ่านวิธี Bin Attack เป็นเรื่องที่เคยเกิดมาแล้ว ซึ่ง ธปท.ไม่ได้ละเลยเรื่องภัยไซเบอร์ มีการปรับหลักเกณฑ์ด้าน IT อยู่เสมอ แต่มิจฉาชีพก็มีปรับตัวมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดเช่นกัน

“แบงก์ชาติ พยายามทำอย่างเต็มที่ในทุกมุมที่สามารถทำได้ เช่น เคสนี้ก็ตรวจสอบทันทีหลังจากได้รับรายงานมา ขณะเดียวกันก็อยากจะฝากผู้ใช้บริการให้ดูแลตัวเอง ดูแลความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย“ นางสาวสุวรรณีกล่าว .-517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553