นนทบุรี 19 ก.พ.-กรมการค้าภายใน อนุมัติให้ผู้ผลิตนมและผลิตภัณฑ์นม 6 ราย ปรับขึ้นราคาแล้ว ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมบริโภค 180-225 ซีซี ให้ขึ้นเฉลี่ยขวดหรือกล่องละ 50 สตางค์ ส่วนขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้น 2.50 บาท เริ่มภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หลังสตอกเก่าหมด
รายงานข่าวจากกรมการค้าภายในแจ้งว่า กรมการค้าภายในได้อนุญาตให้มีการขึ้นราคานมสมพร้อมดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 6 ราย มีทั้งนมยูเอชที นมพลาสเจอร์ไรส์ นมสเตอริไลซ์ โดยการปรับขึ้นราคา ในส่วนนมขนาดเล็กที่ได้รับความนิยม 180-225 ซีซี ให้ขึ้นขวดหรือกล่องเฉลี่ย 50 สตางค์ ขณะที่นมสดขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นเฉลี่ยกล่องหรือขวดละ 2.50 บาทเป็นไไปตาม ที่คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ประกาศปรับราคาน้ำนมดิบขึ้นจาก 20.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เป็น 22.75 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น กก.ละ 2.25 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งมีผลกระทบให้ผู้ผลิตนมสดพร้อมดื่มมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นไปด้วย และได้มีการแจ้งขอปรับขึ้นราคาขายปลีกผลิตภัณฑ์นมกับกรมการค้าภายในมาตั้งแต่เดือน ม.ค.2567
อย่างไรก็ตาม แม้จะอนุมัติให้ปรับราคาดังกล่าวแล้ว ในทางปฎิบัติสินค้านมที่ขายปลีกตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อ จะยังขายราคาเดิมไปก่อน เพราะยังเป็นสตอกต้นทุนเก่าอยู่ คาดว่าจะราคาใหม่จะขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ขณะที่ผู้ผลิตที่เหลืออีก 2-3 ราย กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด หากข้อมูลด้านต่างๆครบ จะอนุญาตให้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การพิจารณาราคาผลิตภัณฑ์นมสดพร้อมดื่มขึ้นในครั้งนี้ กรมการค้าภายในให้ขึ้นเฉพาะในส่วนต้นทุนน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยไม่รวมต้นทุนอื่น เช่น ค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง แม้ว่าผู้ประกอบการได้นำข้อมูลดังกล่าวขอมาประกอบด้วย แต่จะดูแลผู้บริโภคให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ที่สำคัญผู้ประกอบการต้องแสดงเอกสารเกี่ยวกับการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ในอัตราที่มีการปรับขึ้นใหม่แล้วที่ กก.ละ 22.75 บาท และข้อมูลเกี่ยวกับสูตรการผลิต ที่มีสัดส่วนการใช้น้ำนมดิบในการผลิตสินค้านมกล่อง
นอกจากนี้ นมขวดของประเภทนั้น ๆ ที่แตกต่างกัน เช่น ถ้านมรสจืดที่ผสมนมดิบ 100% จะได้ขึ้นราคามากกว่า แต่ถ้าเป็นนมปรุงแต่งมีส่วนผสมอื่นก็จะขึ้นตามสัดส่วนการใช้นมดิบ ส่วนสินค้าที่ใช้นมผง จะไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นราคา รวมถึงสินค้านมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ซึ่งเป็นสินค้าทางเลือก ไม่ต้องขออนุญาตปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด.-514-สำนักข่าวไทย