สัมมนา “THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM” เดินหน้าพลังงานสะอาด

กรุงเทพฯ 14 ก.พ.-เวทีสัมมนา “THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM” ปลัดพลังงานย้ำเดินหน้าแหล่งผลิตพลังงานในประเทศ ส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ด้าน ส.อ.ท.ชี้แม้เป้าหมาย Net Zero ไทยช้ากว่าทั่วโลก แต่ต้องทำได้จริง ขณะที่ ปตท. ประเมินราคาน้ำมันปีนี้ 75-80 เหรียญ/บาร์เรล ก๊าซธรรมชาติ 7-12 เหรียญ/ล้านบีทียู

สมาคมวิทยาการพลังงาน ร่วมกับสถาบันวิทยาการพลังงาน จัดงานสัมมนาด้านพลังงานประจำปี ระดับประเทศ “THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM” โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ขึ้นเป็นประธานในการเปิดงาน และกล่าวปาฐกถากิตติมศักดิ์ในหัวข้อ “จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน” จากนั้นเป็นการเสวนาแนวทางบริหารจัดการพลังงานของประเทศ


นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีภารกิจในการจัดหาพลังงานพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ โดยในปี 2567 กระทรวงพลังงานมุ่งเน้นการผลิตแหล่งพลังงานในประเทศที่สามารถควบคุมและกำกับการผลิตตามแผนได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง G1/61 ที่ต้องการเร่งการผลิตให้กลับมาในระดับ 800 MMscfd ภายในวันที่ 1 เม.ย.2567 เปิดให้ยื่นขอสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับการสำรวจบนบกครั้งที่ 25 รวมถึงแสวงหาก๊าซฯ เพิ่มจากแหล่งความร่วมมือระหว่างประเทศ และมุ่งเน้นให้มีการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาว่าทั่วโลกกำลังถามหาพลังงานงานสะอาด กระทรวงพลังงานยังมีการขับเคลื่อนของเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่วนใหญ่หรือมากกว่า 70% มาจากการผลิตไฟฟ้าและการขนส่งเป็นหลัก

ทั้งนี้ ได้มีการจัดทำ แผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) โดยยึดหลักสำคัญคือสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนภาคพลังงานไทย ให้มีทิศทางสอดคล้องกับทิศทางโลก โดยมีจุดประสงค์ดังนี้
1.สนับสนุนประเทศไทยร่วมสู่การใช้และการผลิตพลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประหยัดพลังงาน เพื่อให้คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050
2.สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มศักยภาพการลงทุนของ ผู้ประกอบการไทยให้สามารถปรับตัวเข้าสู่การลงทุนในประเทศที่มีคาร์บอนต่ำตามทิศทางโลก
3.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศในระยะยาว (LT-LEDS)


ด้านคุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมของบริษัทพลังงานภายใต้การเปลี่ยนพลังงานอย่างยั่งยืน โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานในช่สวงที่ผ่านมา ได้แก่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาพวะเงินเฟ้อ และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดที่น่าสนใจคือการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส ที่มีผู้นำภาครัฐบาลและเศรษฐกิจ ซึ่งมีการสำรวจความคิดเห็นถึงการจัดอันดับความเสี่ยงในระยะสั้นและระยะยาวที่ทั่วโลกต้องเผชิญ โดยปัจจัยความเสี่ยงในระยะสั้น ภายใน 2 ปี ผู้นำส่วนใหญ่กังวล 3 อันดับแรก คือ เรื่องการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร สิ่งแวดล้อม และภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนปัจจัยความเสี่ยงระยะยาว 10 ปี กังวลเรื่อง สภาวะภูมิอากาศ ระบบสิ่งแวดล้อมของโลก และอีโคซิสเต็ม จะเห็นว่าในระยาว ส่วนใหญ่กังวลเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น

สำหรับแนวโน้มการใช้พลังงาน พบว่าราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดโลกมีความผันผวนมากขึ้น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันโลก ผันผวนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 80 เหรียญ โดยปี 2567 ประเมินราคาน้ำมันอยู๋ที่ 75-80 เหรียญ /บาร์เรล ความต้องการใช้ 103 ล้าน บาร์เรล/วัน โดยแหล่งผลิตไม่ขาดแคลน ส่วนก๊าซธรรมชาติประเมิน 7-12 เหรียญ /ล้านบีทียู ถือเป็นข่าวดีสำหรับภาคธุรกิจและภาคประชาชน แต่ยังต้องติดตามว่าจะมีปัจจัยมากระทบหรือไม่ อาทิ เศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนผ่านพลังงาน ภัยธรรมชาติ เป็นต้น

ขณะที่ในไทย ยังมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และยังต้องนำเข้าพลังงานทุกรูปแบบ ซึ่ง ปตท. เอง ได้มีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมวางเครืข่ายและระบบโลจิสติกส์ เพื่อจัดส่งครอบคลุมทั่วประเทศ


ทั้งนี้มองว่าประเทศไทยต้องเร่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดเป็นรูปธรรม อุตสาหกรรม New S-curve 12 อุตสาหกรรมที่ภาคอุตสาหกรรมต้องขับเคลื่อน และรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุน รวมไปถึง ปตท ด้วยเช่นกัน ที่มีการปรับวิสัยทัศน์ใหม่ ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด ระบบกักเก็บพลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร รุกธุรกิจใหม่ ที่ไกลกว่าพลังงาน ผลักดันอุตสาหกรรมใหม่และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ส่วนโลจิสติกส์ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมย ปตท กำหนดเห้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 เร็วกว่าเป้าหมายประเทศไทยที่ประกาศในปี 2065

ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนเพื่อรองรับทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมภายใต้การเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายของโลกที่เรากำลังเผชิญ มองว่าปีนี้เป็นเกมของสิ่งแวดล้อม ขณะที่เศรษฐกิจโลกทยอยฟื้นตัวภายใต้ความผันผวน โดย เวิร์ล์แบงก์ คาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลก ปี 2567 ปรับลดเหลือ 2.4% จะทยอยกลับมาขยายตัวเพิ่มที่ 2.7% ในปี 2568 เศราฐกิจประเทศหลักอาจชะลอลง จากนโยบายการเงินที่ตึงตัว การค้าและการลงทุนยังคงมีความไม่แน่นอน และความเสี่ยงทางภูมัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความขัดแย้งมที่อาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลก ส่วน WTO ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตการค้าทั่วโลกในปี 2566 เหลือ 0.8๔ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.7% ตามภาคการผลิตโลกที่ชะลอตัว หวั่นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาการกีดกันทางการค้า ที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับไอเอ็มเอฟ ที่มองเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพิ่มจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดการณ์เติบโต 4.4% จากคาดการณ์เดิม 3.2% ถือเป็นข่าวดี โดยมีปัจจัยจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังเป็นหลัก

สำหรับเป้าหมาย Net Zero ของไทย มองว่าอาจจะเป็นเป้าหมายที่อาจถึงช้ากว่า แต่ต้องทำได้จริง ส่วนใหญ่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ เป้าหมาย Net Zero ในปี2050 ยกเว้น จีนและอินโดนีเซีย เป้าหมาย Net Zero อยู่ที่ปี 2060 ส่วนของไทย เป้าหมาย Net Zero ปลายทางสุด ในปี 2065

สำหรับการเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมเพื่อรับมือ Climate Change ทุกภาคส่วนเน้นเรื่องความยั่งยืน(Sustainability) พลังงานสะอาด (Green Energy) และ Net Zero
โดยในปี 2022 ที่ไทยจัดงาน APEC โดยใช้ธีม BCG และพูดถึง Sustainability มาตั้งแต่ตอนนั้น

ไทยยังเป็นประเทศที่พึ่งหาการส่งออก มากถึง 60% ประเทศส่งออกหลักคือ สหรัฐอเมริกา อียู จึงจำเป้นต้องเร่งปรับตัวเรื่องพลังงานสะอาด ทั้งนี้ ส.อ.ท.มีแนวทางการเตรียมตัวกับผู้ประกอบการของไทย ดังนี้
1.ฉลากคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ ของผลิตภัณฑ์ (CFP)
2.ฉลาดลดคาร์บอนฟุตพรินท์ (carbon footprint reduction)
3.โครงการนำร่องระบบซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยคาร์บอนด้วยความสมัครใจ (volunteer carbon market)

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าไฟฟ้าของไทยสูงกว่าคู่แข่งในภูมิภาค ดังนั้น จึงต้องมีการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร/อุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานพลังงาน, การนำ renewable energy มาใช้มากขึ้น เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ไบโอแมส และไบโอแก๊ส, ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรม การอบรมให้ความรู้และการเข้าถึงเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงาน, การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาใช้ และส่งเสริมการจัดทำระบบฐานข้อมูลด้านพลังงาน (Energy Database)

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินโครงการส่งเสริมด้านอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม (energy point3) ที่จัดขึ้นเป็นรุ่นที่สามแล้ว และยังคงมีการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงโครงการสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานและต้นทุนในอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]

เจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐ บรรยากาศดีขึ้น

ทำเนียบ 5 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยทีมประเทศไทย เจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐ บรรยากาศดีขึ้น เตรียมปรับข้อเสนอ เน้นตอบโจทย์ผลประโยชน์ win-win ร่วมกัน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 22.00น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะประเทศไทยเริ่มต้นกระบวนการเจรจาอย่างเป็นทางการกับฝ่ายสหรัฐ แล้ว โดยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย พบหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ (Mr. Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative – USTR) ซึ่งเป็นการหารือในระดับรัฐมนตรีครั้งแรกระหว่างสองประเทศ นายพิชัยได้กล่าวถึงบรรยากาศการเจรจาในครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้าง และมีพัฒนาการเป็นที่น่าพอใจ โดยฝ่ายไทยได้รับข้อเสนอแนะจากสหรัฐอย่างตรงไปตรงมาและเป็นประโยชน์ ซึ่งคณะประเทศไทยจะได้นำฟีดแบ็กนี้กลับไปใช้ในการพิจารณาจัดทำข้อเสนอใหม่ บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย (win-win solution) โดยตั้งเป้าหมายที่จะเร่งรัดการดำเนินงานเพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนดในสัปดาห์หน้า ภายใต้หลักการที่ว่า […]