สัมมนา “THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM” เดินหน้าพลังงานสะอาด

กรุงเทพฯ 14 ก.พ.-เวทีสัมมนา “THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM” ปลัดพลังงานย้ำเดินหน้าแหล่งผลิตพลังงานในประเทศ ส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ด้าน ส.อ.ท.ชี้แม้เป้าหมาย Net Zero ไทยช้ากว่าทั่วโลก แต่ต้องทำได้จริง ขณะที่ ปตท. ประเมินราคาน้ำมันปีนี้ 75-80 เหรียญ/บาร์เรล ก๊าซธรรมชาติ 7-12 เหรียญ/ล้านบีทียู

สมาคมวิทยาการพลังงาน ร่วมกับสถาบันวิทยาการพลังงาน จัดงานสัมมนาด้านพลังงานประจำปี ระดับประเทศ “THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM” โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ขึ้นเป็นประธานในการเปิดงาน และกล่าวปาฐกถากิตติมศักดิ์ในหัวข้อ “จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน” จากนั้นเป็นการเสวนาแนวทางบริหารจัดการพลังงานของประเทศ


นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีภารกิจในการจัดหาพลังงานพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ โดยในปี 2567 กระทรวงพลังงานมุ่งเน้นการผลิตแหล่งพลังงานในประเทศที่สามารถควบคุมและกำกับการผลิตตามแผนได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยก๊าซธรรมชาติจากแหล่ง G1/61 ที่ต้องการเร่งการผลิตให้กลับมาในระดับ 800 MMscfd ภายในวันที่ 1 เม.ย.2567 เปิดให้ยื่นขอสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับการสำรวจบนบกครั้งที่ 25 รวมถึงแสวงหาก๊าซฯ เพิ่มจากแหล่งความร่วมมือระหว่างประเทศ และมุ่งเน้นให้มีการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประเภทที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาว่าทั่วโลกกำลังถามหาพลังงานงานสะอาด กระทรวงพลังงานยังมีการขับเคลื่อนของเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่วนใหญ่หรือมากกว่า 70% มาจากการผลิตไฟฟ้าและการขนส่งเป็นหลัก

ทั้งนี้ ได้มีการจัดทำ แผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) โดยยึดหลักสำคัญคือสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนภาคพลังงานไทย ให้มีทิศทางสอดคล้องกับทิศทางโลก โดยมีจุดประสงค์ดังนี้
1.สนับสนุนประเทศไทยร่วมสู่การใช้และการผลิตพลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประหยัดพลังงาน เพื่อให้คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050
2.สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มศักยภาพการลงทุนของ ผู้ประกอบการไทยให้สามารถปรับตัวเข้าสู่การลงทุนในประเทศที่มีคาร์บอนต่ำตามทิศทางโลก
3.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศในระยะยาว (LT-LEDS)


ด้านคุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมของบริษัทพลังงานภายใต้การเปลี่ยนพลังงานอย่างยั่งยืน โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานในช่สวงที่ผ่านมา ได้แก่ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาพวะเงินเฟ้อ และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดที่น่าสนใจคือการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส ที่มีผู้นำภาครัฐบาลและเศรษฐกิจ ซึ่งมีการสำรวจความคิดเห็นถึงการจัดอันดับความเสี่ยงในระยะสั้นและระยะยาวที่ทั่วโลกต้องเผชิญ โดยปัจจัยความเสี่ยงในระยะสั้น ภายใน 2 ปี ผู้นำส่วนใหญ่กังวล 3 อันดับแรก คือ เรื่องการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร สิ่งแวดล้อม และภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนปัจจัยความเสี่ยงระยะยาว 10 ปี กังวลเรื่อง สภาวะภูมิอากาศ ระบบสิ่งแวดล้อมของโลก และอีโคซิสเต็ม จะเห็นว่าในระยาว ส่วนใหญ่กังวลเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น

สำหรับแนวโน้มการใช้พลังงาน พบว่าราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดโลกมีความผันผวนมากขึ้น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันโลก ผันผวนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 80 เหรียญ โดยปี 2567 ประเมินราคาน้ำมันอยู๋ที่ 75-80 เหรียญ /บาร์เรล ความต้องการใช้ 103 ล้าน บาร์เรล/วัน โดยแหล่งผลิตไม่ขาดแคลน ส่วนก๊าซธรรมชาติประเมิน 7-12 เหรียญ /ล้านบีทียู ถือเป็นข่าวดีสำหรับภาคธุรกิจและภาคประชาชน แต่ยังต้องติดตามว่าจะมีปัจจัยมากระทบหรือไม่ อาทิ เศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนผ่านพลังงาน ภัยธรรมชาติ เป็นต้น

ขณะที่ในไทย ยังมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และยังต้องนำเข้าพลังงานทุกรูปแบบ ซึ่ง ปตท. เอง ได้มีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมวางเครืข่ายและระบบโลจิสติกส์ เพื่อจัดส่งครอบคลุมทั่วประเทศ


ทั้งนี้มองว่าประเทศไทยต้องเร่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดเป็นรูปธรรม อุตสาหกรรม New S-curve 12 อุตสาหกรรมที่ภาคอุตสาหกรรมต้องขับเคลื่อน และรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุน รวมไปถึง ปตท ด้วยเช่นกัน ที่มีการปรับวิสัยทัศน์ใหม่ ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด ระบบกักเก็บพลังงาน และยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร รุกธุรกิจใหม่ ที่ไกลกว่าพลังงาน ผลักดันอุตสาหกรรมใหม่และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ส่วนโลจิสติกส์ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมย ปตท กำหนดเห้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 เร็วกว่าเป้าหมายประเทศไทยที่ประกาศในปี 2065

ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนเพื่อรองรับทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมภายใต้การเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายของโลกที่เรากำลังเผชิญ มองว่าปีนี้เป็นเกมของสิ่งแวดล้อม ขณะที่เศรษฐกิจโลกทยอยฟื้นตัวภายใต้ความผันผวน โดย เวิร์ล์แบงก์ คาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลก ปี 2567 ปรับลดเหลือ 2.4% จะทยอยกลับมาขยายตัวเพิ่มที่ 2.7% ในปี 2568 เศราฐกิจประเทศหลักอาจชะลอลง จากนโยบายการเงินที่ตึงตัว การค้าและการลงทุนยังคงมีความไม่แน่นอน และความเสี่ยงทางภูมัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความขัดแย้งมที่อาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลก ส่วน WTO ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตการค้าทั่วโลกในปี 2566 เหลือ 0.8๔ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.7% ตามภาคการผลิตโลกที่ชะลอตัว หวั่นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาการกีดกันทางการค้า ที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับไอเอ็มเอฟ ที่มองเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพิ่มจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดการณ์เติบโต 4.4% จากคาดการณ์เดิม 3.2% ถือเป็นข่าวดี โดยมีปัจจัยจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังเป็นหลัก

สำหรับเป้าหมาย Net Zero ของไทย มองว่าอาจจะเป็นเป้าหมายที่อาจถึงช้ากว่า แต่ต้องทำได้จริง ส่วนใหญ่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ เป้าหมาย Net Zero ในปี2050 ยกเว้น จีนและอินโดนีเซีย เป้าหมาย Net Zero อยู่ที่ปี 2060 ส่วนของไทย เป้าหมาย Net Zero ปลายทางสุด ในปี 2065

สำหรับการเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมเพื่อรับมือ Climate Change ทุกภาคส่วนเน้นเรื่องความยั่งยืน(Sustainability) พลังงานสะอาด (Green Energy) และ Net Zero
โดยในปี 2022 ที่ไทยจัดงาน APEC โดยใช้ธีม BCG และพูดถึง Sustainability มาตั้งแต่ตอนนั้น

ไทยยังเป็นประเทศที่พึ่งหาการส่งออก มากถึง 60% ประเทศส่งออกหลักคือ สหรัฐอเมริกา อียู จึงจำเป้นต้องเร่งปรับตัวเรื่องพลังงานสะอาด ทั้งนี้ ส.อ.ท.มีแนวทางการเตรียมตัวกับผู้ประกอบการของไทย ดังนี้
1.ฉลากคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ ของผลิตภัณฑ์ (CFP)
2.ฉลาดลดคาร์บอนฟุตพรินท์ (carbon footprint reduction)
3.โครงการนำร่องระบบซื้อขายสิทธิ์ในการปล่อยคาร์บอนด้วยความสมัครใจ (volunteer carbon market)

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าไฟฟ้าของไทยสูงกว่าคู่แข่งในภูมิภาค ดังนั้น จึงต้องมีการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ การเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร/อุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานพลังงาน, การนำ renewable energy มาใช้มากขึ้น เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ ไบโอแมส และไบโอแก๊ส, ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรม การอบรมให้ความรู้และการเข้าถึงเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงาน, การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาใช้ และส่งเสริมการจัดทำระบบฐานข้อมูลด้านพลังงาน (Energy Database)

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินโครงการส่งเสริมด้านอนุรักษ์พลังงานในภาคอุตสาหกรรม (energy point3) ที่จัดขึ้นเป็นรุ่นที่สามแล้ว และยังคงมีการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงโครงการสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานและต้นทุนในอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี.-516.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย