ลุยเสริมแกร่ง SMEs ไทยด้วย 9 มาตรการอยู่รอดต่อไป

นนทบุรี 8 ก.พ.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เสริมความแกร่งให้ SMEs ไทย ผ่าน 9 มาตรการ เบื้องต้น เคาะ 2 มาตรการ เพื่อสร้างอาชีพผ่านระบบแฟรนไชส์ และเพิ่มกำลังซื้อในประเทศให้ลงมือทำทันที  ย้ำ SMEs ไทย คือ เครื่องจักรสำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอยู่รอด พร้อมกระตุ้นแรงงานต่างด้าวในไทย 2.5 ล้านคน ซื้อสินค้าไทยส่งกลับประเทศแทนส่งเงิน คาดเพิ่มผู้ซื้ออีก 15 ล้านคน 


นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทย ร่วมกับผู้แทนภาครัฐและเอกชน เช่น สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เครือข่ายธุรกิจบิสคลับประเทศไทย เป็นต้น เพื่อติดตามความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมและแก้ปัญหาให้เอสเอ็มอีไทย โดยกำหนดใน 9 ด้าน พร้อมเร่งรัดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน

ประกอบด้วย 1) บูรณาการหน่วยงานเติมความรู้ SME 2) เพิ่มมูลค่าสินค้า GI ให้เป็นที่รู้จัก 3) การบริหารจัดการสินค้าเกษตรเพื่อรักษาสมดุลราคา 4) พัฒนาร้านค้าโชห่วยด้วยระบบการค้าสมัยใหม่ 5) ส่งเสริมการเติบโต SME ในท้องถิ่นผ่าน THAI SME-GP 6) สนับสนุนและสร้างมาตรฐานธุรกิจ e-Commerce 7) การส่งเสริม/พัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับของไทย 8) สร้างอาชีพผ่านระบบแฟรนไชส์ และ 9) เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งมาตรการทั้ง 9 ด้านจะช่วยให้เอสเอ็มอีไทยมีความเข้มแข็งและเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ พร้อมผลักดันให้ GDP SMEs ในประเทศ ขยับจาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันส่งเสริมและผลักดันให้ความตั้งใจนี้ประสบความสำเร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด


อย่างไรก็ตาม ผลประชุมเบื้องต้น คณะอนุกรรมการฯ มีมติเคาะ 2 มาตรการเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าทันที ประกอบด้วย  คือ สร้างอาชีพผ่านระบบแฟรนไชส์ ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่จัดหาทำเลค้าขายราคาประหยัดสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีไทย 8 ข้อ ได้แก่ 1) ใกล้แหล่งชุมชน เข้าถึงง่าย สะดวกสบายในการมาใช้บริการ 2) มีความหนาแน่นของกลุ่มเป้าหมายที่จะมาเป็นลูกค้า 3) ผู้คนผ่านตลอดทั้งวัน 4) ต้นทุนทำเลเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ 5) ระยะเวลาสัญญาเช่าพื้นที่ที่เหมาะสม 6) มีที่จอดรถเพียงพอและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ 7) ความพร้อมของสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ และ 8) ไม่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายและกฎระเบียบของพื้นที่ เช่น กฎหมายข้อบังคับการจัดพื้นที่ (Zoning) สำหรับธุรกิจบางประเภท เช่น ร้านอาหารบางประเภทห้ามเปิดในบางพื้นที่ หรือ การต้องเสียภาษีป้าย เป็นต้น และมอบให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเจรจากับภาคเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรเพื่อขอจัดสรรพื้นที่ทำเลการค้าในกรุงเทพมหานครในราคาลดพิเศษสำหรับ SMEs และ แฟรนไชส์ไทย เช่น สถานีบริการน้ำมัน ตลาดชุมชน ห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โดยเบื้องต้นได้เจรจากับพันธมิตรและได้พื้นที่ราคาลดพิเศษแล้วจำนวน 124 แห่ง

ขณะที่ ส่วนภูมิภาคมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 จังหวัด เป็นผู้เจรจากับภาคเอกชน เช่น ตลาดนัด/ตลาดชุมชน ห้างค้าปลีก/ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต สถานีบริการน้ำมัน และพื้นที่การค้าอื่นๆ โดยสามารถเจรจาได้พื้นที่แล้ว จำนวน 3,977 แห่ง ประกอบด้วย ภาคเหนือ (17 จังหวัด) 758 แห่ง (19%) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด 1,435 แห่ง (36%) ภาคกลาง (25 จังหวัด) 1,121 แห่ง (28%) และภาคใต้ (14 จังหวัด) 663 แห่ง (17%)

นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานการประกอบธุรกิจ จำนวน 525 ราย แบ่งเป็น * ธุรกิจอาหาร 234 แบรนด์ (44%) * ธุรกิจเครื่องดื่ม 103 แบรนด์ (20%) * ธุรกิจการศึกษา 68 แบรนด์ (13%) * ธุรกิจบริการ 63 แบรนด์ (12%) * ธุรกิจค้าปลีก 33 แบรนด์ (6%) * ธุรกิจความงาม และสปา 24 แบรนด์ (5%) รวมถึง ธุรกิจสินค้าชุมชน (Smart Local BCG) และธุรกิจในรูปแบบรถขายอาหารเคลื่อนที่ (ฟู้ดทรัค) ที่จะเป็นตัวเลือกให้ผู้ประกอบการพิจารณาเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ด้วย


นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเพิ่มสัดส่วน GDP ของ SME โดยการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ คือ การกระตุ้นและส่งเสริมให้แรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในไทยซื้อสินค้าในประเทศส่งกลับภูมิลำเนาแทนการส่งเงิน โดยระยะแรกจะเน้นที่แรงงานจากประเทศเมียนมาก่อน เนื่องจากมีจำนวนแรงงานที่เข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทยมากที่สุด จำนวน 2,513,856 คน เบื้องต้นได้กำหนดโครงการนำร่อง (Pilot Project) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มสินค้าที่เป็นที่รู้จักของแรงงานต่างด้าวอยู่แล้ว ผู้ผลิตเป็นผู้ส่งสินค้า หรือ มีศูนย์กระจายสินค้า (DC)/เอาท์เลท (Outlet) ในประเทศเมียนมา รูปแบบ : แรงงานต่างด้าวในประเทศไทยซื้อสินค้าผ่านผู้ผลิตผ่านระบบสั่งซื้อ และผู้ผลิตจะเป็นผู้บริหารจัดการส่งสินค้าไปยัง DC/Outlet หรือเครือข่ายในประเทศเมียนมาเพื่อมารับสินค้า 

2) กลุ่มสินค้า สินค้าชุมชนและ OTOP SME ที่ยังไม่มี Outlet ในประเทศเมียนมา รูปแบบ : แรงงานต่างด้าวในประเทศไทยสั่งซื้อ สินค้าผ่านแพลตฟอร์มของโลจิสติกส์ และมีการจัดส่งผ่าน Logistics Platform ของไทยและประเทศเมียนมา นำส่งสินค้าตรงถึงครัวเรือนในเมียนมา ซึ่งต้องมีการส่งเสริมและนำเสนอสินค้าให้เป็นที่รู้จัก เช่น ให้ทดลองใช้ก่อน นำเสนอสินค้าให้มีความน่าสนใจในการตัดสินใจซื้อสินค้า เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังได้ติดตามมาตรการส่งเสริมและแก้ปัญหาให้เอสเอ็มอีไทยอีก 7 ด้าน พร้อมกำชับให้เร่งดำเนินงานให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนในระยะเวลาอันใกล้ เพราะยิ่งดำเนินการให้เห็นผลเร็วขึ้นเท่าไร จะส่งผลดีต่อการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมีศักยภาพพร้อมแข่งขันได้ทุกตลาด เป็นการสร้างและเพิ่มความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน พร้อมทั้ง หารือในประเด็น ‘การตลาดนำการผลิตในสินค้าเกษตรสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (Biojet Fuels)’ ด้วย ทั้งนี้ เอสเอ็มอีจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ GDP SMEs เติบโตทะลุ 40% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ มั่นใจว่า‘เอสเอ็มอีไทยจะอยู่รอดในประเทศไทยอยู่ได้ต่อไป.-541-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

งานวันเด็ก

วันเด็กทั่วไทยคึกคัก สร้างความสุขและรอยยิ้ม

ผู้ใหญ่ใจดี ทั้งภาครัฐ เอกชน หลายหน่วยงานทั่วประเทศ จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ร่วมสนุก สร้างรอยยิ้มเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2568

ดับไฟป่าดงพญาเย็น

ระดมกำลังดับไฟป่า ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ต่อเนื่อง

กรมป่าไม้ – กรมอุทยานฯ – อบต. พญาเย็น ระดมกำลังดับไฟป่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ต่อเนื่อง โดยปฏิบัติการทั้งทางภาคพื้นและใช้ ฮ. ทิ้งน้ำดับไฟ

นั่งเก้าอี้นายกฯ

ทำเนียบคึกคัก! “น้องพอร์ช” นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรก

ทำเนียบคึกคัก! วันเด็กแห่งชาติ “น้องพอร์ช” วัย 3 ขวบ มาจากเมืองกาญจน์ ตื่นเที่ยงคืน เกาะรั้วทำเนียบตี 3 นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรกสมใจ