กรุงเทพฯ 17 ม.ค.-ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนด้วย SDG ในแบบฉบับของ OR ถอดบทเรียนความสำเร็จจนได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากล จนเป็นองค์กรต้นแบบในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างยั่งยืนจากการจัดอันดับทั้งในระดับสากลและระดับประเทศในปี 2566 พร้อมเผยเรื่องราวความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ผ่านการลงมือทำ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า OR มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการสร้างความยั่งยืน โดยมีการนำประเด็นความยั่งยืนตามแนวทาง SDG ในแบบฉบับของ OR คือ S-Small โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก D-Diversified โอกาสเพื่อการเติบโตทฺกรูปแบบ และ G-Green โอกาสเพื่อสังคมสะอาดมาผสมผสานกับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันพร้อมทั้งนำเป้าหมาย OR 2030 Goals มาติดตามและทบทวนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การดำเนินงานด้านความยั่งยืนถูกผนวกเข้าไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่ง OR ได้นำไปสู่การลงมือปฏิบัติจริง แบบ In Action ตั้งแต่กลยุทธ์แผนปฏิบัติการและเป้าหมายธุรกิจจนเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น วิภาวดี 62 โครงการไทยเด็ด การพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ ORได้รับการยอมรับให้เป็นต้นแบบในการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืนทั้งในระดับสากลและระดับประเทศในปี 2566 โดยเป็นสมาชิกของ D JSI ที่มีผลคะแนนเป็นลำดับที่ 1ของโลก
ทั้งนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรม Retailing ได้รับรางวัล Best Sustainability Awards จาก SET Sustainability Awards 2023 และได้รับผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating 2023 ระดับสูงสุด AAA ถือเป็นความภาคภูมิใจและตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ ORเพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตอย่างยั่งยืน เคียงข้างชุมชน เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง ESG ทั้ง 3 มิติ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองเรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลที่ดี
”OR เราพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาทุกด้านที่ทำอยู่อย่างเต็มที โดยใช้พื้นที่ OR ทุกแห่งทั่วประเทศแบบครบวงจร เพื่อเสริมการลงทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะมองว่าพื้นที่จังหวัดลำปาง น่าน เป็นจุดที่จะให้มีการส่งเสริมปลูกกาแฟเพื่อป้อนร้านคาเฟ่ อเมซอน และช่วยให้เกษตรกรชุมชนต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของ OR อีกด้วย ที่สำคัญ ในเร็วๆนี้ ทาง OR กำลังจัดหาต้นกล้าของกาแฟ เพื่อนำไปเพาะปลูกและจัดสถานทีให้เป็นอุทยานอเมซอนบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ในจังหวัดลำปาง ที่คาดว่าในช่วงอีกไม่กี่เดือนจะสามารถเพาะปลูกต้นกาแฟในพื้นที่ดังกล่าว และยังนำพันธุ์เม็ดกาแฟที่ทาง OR ได้นำเข้าเม็ดพันธุ์ต่างประเทศต่างๆมาทำการวิจัยและพัฒนาเม็ดกาแฟเพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่เพาะปลูกและ OR จะเข้าไปรับซื้อด้วยราคาที่เป็นธรรม ดังนั้น ถือว่าสถานที่แห่งนี้ ที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้และช่วยเหลือชุมชนและธุรกิจอย่างแท้จริงอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ได้รวมทั้งอนาคตยังสามารถเพิ่มสัดส่วนกาแฟไทยและลดการนำเข้ากาแฟจากต่างประเทศได้ โดยแต่ละปีไทยมีความต้องการกาแฟกว่า 60,000 ตันขณะที่ปลูกได้เพียงกว่า 20,000 ตันเท่านั้น โดย OR มีเป้าหมายที่จะคิดเอง ทำเอง และปลูกกาแฟเอง ซึ่งในอีก 2-3 เดือนนี้จะเสนอรูปแบบโครงการให้ที่ประชุมคณะกรรมการของ OR ได้พิจารณาเห็นชอบเรื่องนี้ได้ต่อไป“นายดิษทัตกล่าว
นอกจากนี้ ผู้บริหาร OR ยังได้ร่วมบอกเล่าตัวอย่าง “ความสำเร็จ” ผ่านการ”ลงมือทำ” ในทั้ง 3 มิติของ ESG ได้แก่ด้านสิ่งแวดล้อม (E-Environment) โดยนายวิศน สุนทราจารย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน กล่าวว่า OR มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ตามหลักการ TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) และยังมีการกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามหลักการ SBTi (Science Based Target Initiatives) และกำหนดกลยุทธ์ 3R ได้แก่ Reduce Remove และ Reinforce เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050
นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมันกล่าวว่า OR ได้ปรับรูปแบบของสถานีบริการน้ำมันเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไม่ว่าจะเป็นการขยายเครือข่าย EV Station PluZ รวมไปถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนในสถานีบริการน้ำมัน มุ่งเน้นการสร้าง “Green Station” โดยมีต้นแบบคือ พีทีที สเตชั่น วิภาวดี 62
ขณะที่ ด้านสังคม (S – Social) โดยนายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่กล่าวว่า ได้ยกตัวอย่าง คาเฟ่ อเมซอนที่ได้ผนวกแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมเข้าไปในการดำเนินธุรกิจจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเมล็ดกาแฟที่ส่งเสริมการปลูกกาแฟและรับซื้ออย่างเป็นธรรมเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเกษตรกรการดูแลชุมชนรอบโรงงานให้เกิดรายได้จากการจำหน่ายอาหารให้กับพนักงานและร้าน “Cafe Amazon for Chance”ที่ช่วยสร้างอาชีพให้กับผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง มุ่งจะเป็น “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก”
นายโกสัลล์ ลิมอักษร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านศักยภาพองค์กร ยังได้ให้มุมมองว่าการสร้างความยั่งยืนในองค์กรนั้น “คน” เป็นปัจจัยสำคัญ OR จึงปลูกฝัง OR
DNA ให้กับพนักงานทุกคน พร้อมทั้งใช้ OR Academy ในการสร้างเสริมศักยภาพทั้งในการดำเนินธุรกิจและความยั่งยืนให้กับพนักงานไปจนถึงพันธมิตรทางธุรกิจด้านการกำกับดูแลที่ดี (G – Governance & Economics)
นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโครงการ ORion กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจและการสร้างนวัตกรรมในแบบฉบับของ OR ซึ่งมุ่งสู่การทำธุรกิจที่สามารถแก้ไขปัญหาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป โดยมีแอปพลิเคซัน xplORe ซึ่งถือเป็น Digital Platform หลักของ OR ในการขับเคลื่อนให้ OR เติบโตสู่ธุรกิจทั้งในอุตสาหกรรมเดิมและกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคตผ่านการทำ 020 (Online to Offine) รวมถึงการสนับสนุน SMEs ให้เติบโตร่วมกัน
นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงินให้มุมมองว่าทั่วโลกให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดยจะถูกหยิบยกมาเป็นเกณฑ์ในการลงทุนทั้งในส่วนของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน รวมถึงสถาบันการเงินผู้ให้กู้ จนถึงการคัดเลือกคู่ค้าในการทำธุรกิจ ดังนั้นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นจะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี รวมทั้งในเรื่องการกำกับดูแลที่ดีก็เป็นอีกส่วนที่ OR ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมการจัดบูธนิทรรศการแสดงผลงานแบ่งออกเป็น 3 ด้านได้แก่ บูธด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) บูธเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และบูธการดำเนินงานเพื่อสังคมเพื่อบอกเล่าเรื่องราว การลงมือทำจริงของ OR ที่สะท้อนการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลที่ดีไปพร้อมกับการให้ความสำคัญและใส่ใจสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมงาน OR Sustainability: SDG In Action จัด ณ Synergy Hallศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (Energy Complex) โดยคำนึงถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมภายใต้รูปแบบรักษ์โลกโดยดำเนินการตามเกณฑ์โครงการ “Care the Bear” ลดโลกร้อน ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และยังเป็นการจัดงานในรูปแบบคาร์บอนนิวทรัล อีเว้นท์ (Carbon NeutralEvent) ตามหลักเกณฑ์ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งจะมีการนำคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกมาชดเชยก๊าซเรือน
กระจกที่ปล่อยจากกิจกรรมในการจัดงานอีเว้นท์อีกด้วย .-514 -สำนักข่าวไทย