นนทบุรี 11 ม.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเฝ้าติดตามการขนย้ายสินค้าเกษตร หวั่นลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาตามจังหวัดชายแดนไทยฉุดให้ราคาพืชผลการเกษตรไทยตกต่ำ วอนประชาชนพบเห็นพฤติกรรมแจ้งสายด่วน 1569 ได้ทันที
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากอธิบดีกรมการค้าภายในได้สั่งการให้เฝ้าติดตามตรวจสอบการขนย้ายสินค้าเกษตรโดยเฉพาะการขนย้ายกระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้ชุดสายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบเฝ้าสังเกตการณ์และตั้งด่านตรวจสอบเพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรตามแนวชายแดนต่างๆที่ใช้เป็นช่องทางการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านและตามเส้นทางต่างๆ ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง ที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางในการขนย้ายสินค้าเกษตร รวมทั้งแหล่งรวบรวมและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่สำคัญทุกพื้นที่
ทั้งนี้ จากการนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายในร่วมกับ เจ้าหน้าที่นายตรวจกองชั่งตวงวัด เฝ้าสังเกตการณ์ และตั้งด่านตรวจสอบบริเวณพื้นที่อำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นต้นทางการนำเข้าและขนย้ายสินค้าเกษตรที่สำคัญ รวมทั้งบริเวณตลาดไท และตลาดไอยรา อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ที่เป็นแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าขนาดใหญ่ ในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 10 มกราคม 2567 ตรวจสอบรถบรรทุกขนย้ายสินค้าไปแล้วจำนวน 95 คัน พบว่า ผู้ขนย้ายสินค้าเกษตรให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฝ้าติดตามตรวจสอบการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในทุกพื้นที่โดยประสานข้อมูลและสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปฎิบัติภารกิจครั้งนี้เป็นอีกแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอีกมาตรการหนึ่งของกรมฯ โดยเน้นการป้องปรามมิให้มีการขนย้ายสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาภายในประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาให้เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรและไม่บั่นทอนราคาที่พี่น้องเกษตรกรจะได้รับซึ่งเป็นการยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย จึงขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการว่าอย่าลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร เพราะกรมฯได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากพบเห็นการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าเกษตร รวมทั้งทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือขนย้ายไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต หรือหากไม่แสดงราคารับซื้อ หรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-514-สำนักข่าวไทย
