จับกุมกลุ่มผู้ลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรจากเพื่อนบ้านเข้าไทย

นนทบุรี 9 ม.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจออกตรวจพร้อมจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรจากเพื่อนบ้านเข้าไทย เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรในประเทศตกต่ำ และรักษาเสถียรภาพด้านราคาให้แก่เกษตรกร


นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่เฝ้าติดตามตรวจสอบการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร อาทิ ข้าวเปลือกข้าวสาร มันสำปะหลัง กระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ตามด่านชายแดนที่ใช้เป็นช่องทางในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านให้มีเสถียรภาพ และยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย และเมื่อวันที่ 8 ม.ค.67 เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจได้ตรวจสอบพบ ผู้ขนย้ายมันสำปะหลังเส้นจากประเทศกัมพูชาเข้ามายังประเทศไทย ผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี มีพฤติกรรมขนย้ายไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 26/2566 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดและ
มันเส้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้ร่วมกันจับกุมตัว พร้อมของกลางมันสำปะหลังเส้นจำนวน 47,500 กก. มูลค่าประมาณ 400,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฝ้าติดตามสอดส่องพฤติกรรมการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประสานข้อมูลการนำเข้าสินค้าเกษตรกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการตรวจสอบร่วมกันให้เกิประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรในประเทศตกต่ำ และรักษาเสถียรภาพด้านราคาให้แก่เกษตรกร จึงขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการขนย้ายสินค้าเกษตรให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะกรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ หากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าเกษตร รวมทั้งทราบเบาะแสการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในการซื้อขายสินค้าเกษตร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือขนย้ายไม่เป็นไปตามที่ได้รับ อนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงให้การปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว

ยิงสส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตร.ประสานอัยการ ยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีลอบสังหารอดีต สส.กัมพูชา ขณะที่ตัว “จ่าเอ็ม” มือยิง คาดว่าจะยังไม่ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยเร็วๆ นี้