กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ ธ.ค.66 ทรงตัวที่ 49.1 ส่วน 3 เดือนข้างหน้า ปรับเพิ่มขึ้นจากภาคการผลิต ภาพรวมดัชนีเหนือระดับ 50 ต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นดีขึ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนธันวาคม 2566 โดยรวมทรงตัวอยู่ที่ระดับ 49.1 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ ผลประกอบการ และการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ด้านการจ้างงาน และการลงทุนปรับลดลง สำหรับความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตปรับดีขึ้นจากเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มค้าส่งที่ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกองค์ประกอบ และกลุ่มโรงแรมและร้านอาหารที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและการบริการปรับเพิ่มขึ้นมากตามเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับลดลงตามกลุ่มผลิตเหล็กที่อุปสงค์ในประเทศชะลอตัว สอดคล้องกับกลุ่มก่อสร้างที่มีความเชื่อมั่นทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงในทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นด้านการผลิตที่ลดลงมากจากปริมาณสินค้าคงคลังของคู่ค้าที่ยังอยู่ในระดับสูงและอุปสงค์โลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของธุรกิจอื่นในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.9 จาก 52.6 ในเดือนก่อน จากการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นด้านการผลิต ผลประกอบการ และคำสั่งซื้อ โดยดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยาง และพลาสติก ที่ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นจากด้านผลประกอบการ และการผลิตเป็นสำคัญ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตทรงตัวจากดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงในกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร ตามการเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว และกลุ่มค้าปลีกยานยนต์ ส่วนหนึ่งจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นในกลุ่มก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นจากด้านผลประกอบการ และการผลิตเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมและเกือบทุกหมวดธุรกิจยังอยู่เหนือระดับ 50 ได้ สะท้อนความเชื่อมั่นว่า ภาวะธุรกิจจะมีทิศทางดีขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาต้นทุนการผลิตสูงยังคงเป็นอุปสรรคอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 28 และมีสัดส่วนใกล้เคียงเดือนก่อน ขณะที่ความกังวลด้านความต้องการและการแข่งขันที่รุนแรงจากตลาดในประเทศเป็นข้อจำกัดที่ผู้ประกอบการกังวลมากขึ้น สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 2.8 จากร้อยละ 2.9 ในเดือนก่อน.-516-สำนักข่าวไทย