กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- “จุลพันธ์” คาด มาตรการ Easy E-Receipt เพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 70,000 ล้านบาท กระตุ้นจีดีพีเพิ่ม 0.18% ถึงหลักหมื่นราย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการ Easy E-Receipt เพื่อกระตุ้นการบริโภคช่วงต้นปี 2567 เนื่องจากมองว่าการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 67 จะล่าช้าจึงต้องมีมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปี ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาทกระตุ้นจีดีพีเพิ่มขึ้น 0.18%
ซึ่งมาตรการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดเก็บภาษีในระยะยาว โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการอยู่ในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์แล้วกว่า 4,000 ราย ครอบคลุม 116,000 จุดจำหน่ายทั่วประเทศ และจะเร่งดึงดูดผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตั้งเป้าให้ถึงหลักหมื่นราย โดยบุคคลที่ได้สิทธิ์ Digital Wallet สามารถใช้สิทธิ์มาตรการ Easy E-Receipt ได้เช่นกัน
สำหรับมาตรการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท มองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากครอบคลุมเทศกาลต่างๆตั้งแต่ปีใหม่ไปจนถึงตรุษจีน เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งกรมสรรพากรจะออกสัญลักษณ์ของโครงการดังกล่าวให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ประชาชนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
สำหรัยสินค้าหรือค่าบริการที่สามารถหักลดหย่อนได้ไม่รวมถึง (1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ (2) ค่าซื้อยาสูบ (3) ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ (4) ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ (5) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาวซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ก็ตาม และ (6) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด.-516-สำนักข่าวไทย