กรุงเทพฯ 30 พ.ย. -ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.66 อยู่ในทิศทางฟื้นตัว ตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แต่ท่องเที่ยว-ส่งออก ลดลง
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือน ต.ค.66 โดยเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางฟื้นตัวตามอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่ภาคบริการชะลอลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำลดลง หลังเร่งไปมากในเดือนก่อน สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม และการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวดสินค้าหลัก ยกเว้นการใช้จ่ายในหมวดบริการที่ปรับลดลงจากหมวดโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ลดลง โดยการบริโภคที่เพิ่มขึ้นมีปัจจัยสนับสนุนจากการจ้างงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศและการนำเข้าสินค้าทุน ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ทรงตัวจากเดือนก่อน สำหรับการลงทุนในหมวดก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างและยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อน ตามนักท่องเที่ยวรัสเซียหลังเร่งไปในช่วงก่อนหน้า และนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ชะลอการเดินทางเพื่อรอวันหยุดพิเศษในเดือน พ.ย. หลังจากที่ทางการได้ประกาศเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวบางสัญชาติปรับดีขึ้น อาทิ จีน ที่ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นการยื่นวีซ่า และกลุ่มยุโรป โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรและเยอรมนี สำหรับรายรับภาคการท่องเที่ยวชะลอลงจากเดือนก่อน สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวและอัตราการเข้าพักแรมที่ลดลง
สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนในหลายหมวด อาทิ 1) การส่งออกเครื่องประดับไปฮ่องกง หลังเร่งไปในเดือนก่อนที่มีงานจัดแสดงสินค้า 2) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จากการส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ลดลงตามรอบการส่งมอบสินค้า และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลงตามการส่งออกไปสหรัฐฯ และฮ่องกง และ 3) สินค้าเกษตร ตามการส่งออกผลไม้ไปจีน อย่างไรก็ตาม การส่งออกบางหมวดปรับเพิ่มขึ้น อาทิ ยานยนต์ไปออสเตรเลีย และปิโตรเลียมไปอาเซียน
ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงจากเดือนก่อนจาก 1) หมวดเชื้อเพลิง ตามปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบ 2) สินค้าอุปโภคและบริโภค ตามการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า และ 3) สินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน ตามการนำเข้าคอมพิวเตอร์หลังเร่งไปมากในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางไม่รวมเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงในหลายหมวด หลังเร่งผลิตไปในเดือนก่อน ได้แก่ หมวดอาหารและเครื่องดื่มตามการผลิตน้ำตาล หมวดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ลดลงตามรอบการส่งมอบสินค้า และหมวดเคมีภัณฑ์ตามการผลิตพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น อย่างไรก็ดี การผลิตหมวดปิโตรเลียมปรับดีขึ้น ตามการกลับมาดำเนินการผลิตหลังปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือนก่อน
การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางเป็นสำคัญ ตามการเบิกจ่ายที่ลดลงจากการทบทวนงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า ขณะที่รายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางขยายตัว ตามการเบิกจ่ายเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการและการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านการศึกษา สำหรับรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวตามการเบิกจ่ายในโครงการด้านคมนาคมและสาธารณูปโภค
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากหมวดพลังงานและอาหารสด โดยหมวดพลังงานลดลงจากมาตรการลดราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐ และราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่หมวดอาหารสดลดลงจากผลของฐานสูงในราคาผักเป็นสำคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวจากเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้าเป็นสำคัญ ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยอ่อนค่าลง เนื่องจากตลาดปรับเพิ่มการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ประกอบกับความไม่แน่นอนของผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส. -516-สำนักข่าวไทย