ครม. ไฟเขียวชดเชยดอกเบี้ยโรงสี ซื้อข้าว 780 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 28 พ.ย.- ครม. มีมติให้ความเห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสตอก ปีการผลิต 66/67 กรอบวงเงิน 780 ล้านบาท เป้าหมายข้าวเปลือกและข้าวสาร 4 ล้านตัน


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสตอก ปีการผลิต 66/67 (โครงการฯ) และอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 780 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ โดย คกก.นโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 66 ได้มีมติเห็นชอบโครงการฯ ภายในกรอบวงเงินงบฯ 780 ล้านบาท เนื่องจาก ข้าวจะออกสู่ตลาดพร้อมกันในช่วงต้นฤดู ส่งผลให้โรงสีและตลาดกลางมีความจำเป็นต้องเร่งจำหน่ายผลผลิตออกสู่ตลาด ดังนั้น โครงการฯ จะเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการให้มีสภาพคล่องในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยการเก็บรักษาสตอกไว้และชดเชยค่าเสียโอกาสในการเก็บรักษาข้าว ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวได้ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม

ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวในช่วงต้นฤดูได้เพิ่มขึ้นในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม และผู้ประกอบการค้าข้าวสามารถรับซื้อข้าวเปลือกในช่วงต้นฤดูที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดจำนวนมากโดยไม่ต้องเร่งระบาย รวมทั้งเป็นการดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด เพื่อทำให้ราคาตลาดข้าวภายในประเทศมีเสียรภาพ ส่งเสริมสินเชื่อทุกประเภทที่มีวัตถุประสงค์ในการเก็บสตอกให้ผู้ประกอบการค้าข้าว โดยไม่แทรกแซงตลาดให้เป็นไปตามกลไกตลาดเสรี


อย่างไรก็ตาม กลุ่มเป้าหมาย คือผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งจะเก็บสตอกในรูปข้าวเปลือกและข้าวสาร โดยมีเป้าหมายเป็นข้าวเปลือกและข้าวสาร 4 ล้านตัน ในระยะเวลา 2-6 เดือน โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐที่ผู้ประกอบการค้าข้าวเป็นลูกค้าอยู่ ตามมูลค่าข้าวเปลือกที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ เก็บสตอกไว้ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี และตามระยะที่เก็บสตอกไว้ 60-180 วัน นับตั้งแต่วันที่รับซื้อ

– การรับซื้อข้าวเปลือก: ผู้ประอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องนำเงินกู้ในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน (ยกเว้น ธ.ก.ส. เป็นสัญญาเงินกู้) จากธนาคารไปดำเนินการรับซื้อข้าวเปลือกและข้าวสารจากเกษตรกร โดยทางตรงและทางอ้อม

 – การเก็บสตอก: ข้าวและข้าวเปลือกที่รับซื้อจากเกษตรกรในรูปข้าวเปลือก หรือสีแปรสภาพเป็นข้าวสารตามปริมาณและมูลค่าที่ได้รับจัดสรร


– การยื่นขอชดเชยดอกเบี้ย : เมื่อตั๋วสัญญาใช้เงินหรือสัญญากู้ยืมเงินครบกำหนดชำระให้ธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐรับรองการกู้เงินและดอกเบี้ยที่จะได้รับการชดเชย โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ นำหลักฐานดังกล่าวยื่นการขอรับชดเชยอกเบี้ยต่อคณะอนุกรรมการจังหวัดตามขั้นตอนต่อไป

โดยใช้กรอบวงเงิน 780 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าชดเชยดอกเบี้ย 

1.ข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 440 ล้านบาท (ปริมาณ 2 ล้านตัน x 11,000 (ราคาต่อ 1 ตัน) x 4% x 6 เดือน)

2.ข้าวเจ้า 340 ล้านบาท (ปริมาณ 2 ล้านตัน x 8,500 (ราคาต่อ 1 ตัน) x 4% x 6 เดือน) ค่าชดเชยดอกเบี้ยสามารถถัวจ่ายระหว่างรายการได้

ทั้งนี้ จะใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตากรในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอให้กรมการค้าภายในเสนอขอรับการจัดสรรงบฯ ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป โดยมีระยะเวลาดำเนินการ – ตั้งแต่ ครม. มีมติ – 31 ต.ค. 68 

(1)ทั่วประเทศ (ยกเว้นภาคใต้)

-การรับซื้อข้าวจากเกษตรกรเพื่อเก็บสตอกตั้งแต่ ครม. มีมติ – 31 มี.ค. 67

-ระยะเวลาการเก็บสต๊อกข้าวตั้งแต่ ครม. มีมติ – 31 ธ.ค. 67

(2)ภาตใต้

-การับซื้อข้าวจากเกษตรกรเพื่อเก็บสตอก 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 67

-ระยะเวลาการเก็บสตอกข้าว 1 ม.ค. – 28 ก.พ. 68

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก คือ กระทรวงพาณิชย์ และเพื่อให้การดำเนินนโยบายของภาครัฐในระยะยต่อไปเกิดการใช้จ่ายงบฯ ได้อย่างคุ้มค่า และเพื่อให้การดำเนินโครงการฯ มีความถูกต้องและโปร่งใส เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการตรวจสอบเก็บสตอกข้าวของผู้ประกอบการค้าข้าว ประกอบกับ ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 66 ว่า ในการจัดทำมาตรการ โครงการเพื่อสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและภาคเกษตรต่อจากนี้ไป ให้พิจารณาดำเนินมาตรการ โครงการในลักษณะที่เป็นการสนับสนุนการเพิ่มระดับผลิตภาพ (Productivity) ของภาคการเกษตร การพัฒนาภาคเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน หรือเป็นการยกระดับกระบวนการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้ของตนเองได้อย่างเพียงพอในระยะยาว และดำรงชีวิตได้ย่างมีคุณภาพและมีความยั่งยืนต่อไป. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้