ครม. เห็นชอบหลักการมาตรการส่งเสริมไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย

กรุงเทพฯ 28 พ.ย.- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผย ครม. เห็นชอบหลักการมาตรการส่งเสริมไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (28 พฤศจิกายน 2566) มีมติให้ความเห็นชอบในหลักการการดำเนินมาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย พร้อมมอบหมายให้มีการดำเนินการศึกษารายละเอียด ผลประโยชน์ และผลกระทบ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ การคลัง และสังคม รวมทั้งข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่คำแถลงนโยบายของ ครม. ได้กล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจว่า รัฐบาลจะผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น และสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก กระทรวงการคลังจึงได้เสนอมาตรการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย 5 มาตรการ ดังนี้ 


(1.) มาตรการภาษีและการเงินเพื่อสนับสนุนสินค้าไทยให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทย

(2.) การปรับปรุงโครงสร้างและอัตราภาษีสรรพสามิตและภาษีประเภทอื่น รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว เพื่อให้สินค้าและบริการบางประเภทมีราคาที่สามารถจูงใจในการบริโภค

(3.) การพิจารณาความเหมาะสมในการยกเลิกการอนุญาตให้จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน เพื่อขายสำหรับร้านค้าปลอดอากรขาเข้า รวมถึงการยกเว้นอากรของที่ซื้อจากร้านค้าปลอดอากรสำหรับผู้โดยสารขาเข้า เพื่อส่งเสริมการบริโภคและการใช้สินค้าภายในประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมบริโภคและการใช้สินค้าภายในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยให้กระทรวงการคลัง (กค.) ดำเนินการศึกษา


 (4.) การผ่อนปรนเวลาเปิดปิดของสถานบริการ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายต่อวันของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้น โดยให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ดำเนินการศึกษา 

(5.) การยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมการเดินทางเข้าในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ดำเนินการศึกษา

โดยให้ กค. มท. และ กต. นำเสนอรายละเอียดของมาตรการที่เกี่ยวข้องและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมมาตรการอื่นที่เห็นว่าเหมาะสมต่อ ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการข้างต้นจะก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ภาษี ซึ่งจะต้องมีการจัดทำประสาณการสูญเสียที่ชัดเจนต่อไป แต่จะสามารถเพิ่มรายได้จาการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทส ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าในต่างประเทศของคนไทย.-517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท