กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – ตลท. ยกระดับตรวจสอบ Naked Short Sell ให้โบรกเกอร์ส่งหลักฐานมีหุ้นก่อนส่งขายใน 15 วัน พร้อมทบทวนเกณฑ์โปรแกรมเทรดดิ้ง เตรียมดึง KRX Nasdaq ร่วมเป็นคณะทำงานพิเศษ
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงการยกระดับตรวจสอบธุรกรรมช็อตเซล 3 มาตรการ โดยกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมให้บริษัทสมาชิกส่งหลักฐานยืนยันคำสั่งขายบัญชีกองทุนรวมแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน (Omnibus Account) ภายใน 15 วัน หากไม่สามารถส่งภายในกำหนดจะสันนิษฐานว่าเป็นการทำช็อตเซลโดยไม่มีหุ้นในมือ (Naked Short Sell) ซึ่งจะมีการลงโทษกับสมาชิกตามกฎหมาย มีการทบทวนการซื้อขายให้เท่าเทียมและเป็นธรรมระหว่างการซื้อขายที่ใช้โปรแกรมเทรดดิ้งและที่ไม่ใช้โปรแกรมเทรดดิ้ง ทั้งผู้ลงทุนรายย่อย ผู้ลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากเทียบเคียงกับตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำในต่างประเทศ นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานพิเศษ เพื่อพิจารณามาตการเพิ่มเติมกรณีโปรแกรมเทรดดิ้งและช็อตเซล ที่มีผู้แทนของ ตลท., ก.ล.ต. และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ อาทิ ตลาดหลักทรัพย์เกาหลี แนสแด็ก เพื่อสร้างความมั่นใจเป็นมาตรการระดับสากล
อย่างไรก็ตาม ตลท. ได้มีการประสาน ก.ล.ต. ตรวจสอบทุรกรรม Naked Short Sell ในช่วงที่ผ่านมา และส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทสมาชิก บริษัทที่ไม่ใช่สมาชิก รวมถึงคัสโตเดียน เพื่อให้ช่วยกันดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ถูกต้องตามเกณฑ์ของ ตลท. นอกจากนี้ยังมีการประสาน ก.ล.ต. ตรวจสอบบัญชี Omnibus Account เพื่อหาผู้ที่มีอำนาจสั่งการตัวจริง
ส่วนกรณีที่ ก.ล.ต. มีข้อเสนอแนะให้ ตลท. พิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดราคาทำช็อตเซลด้วยราคาสูงกว่าราคาครั้งสุดท้าย (Uptick Rule) เพื่อไม่ให้เกิดการดัมพ์ราคานั้น ทาง ตลท. ได้มีการเรียกประชุมด่วนคณะกรรมการ โดยเห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องนำมาใช้ เพราะตลาดหุ้นไทยเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์โลก ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติ แต่ไม่ได้ปิดโอกาสการนำมาใช้หากพบสถานการณ์ที่ไม่ปกติที่มีผลกระทบต่อการซื้อขายจะดำเนินการทันที.-สำนักข่าวไทย