นบข.ไฟเขียวมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปี 66/67

นนทบุรี 1 พ.ย. – นบข. ไฟเขียวมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปี 66/67 ใช้มาตรการชะลอการขายข้าวเปลือกผ่านกลไกสหกรณ์การเกษตร 600 แห่ง ให้สหกรณ์และสถาบันเกษตรกร ช่วยรับซื้อ เพื่อจำหน่ายหรือแปรรูป มอบคลังช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง ส่วนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ขอประเมินอีกครั้ง เหตุมาตรการที่มีดูแลราคาข้าวได้ และราคายังมีเสถียรภาพ


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่าที่ประชุมได้พิจารณามาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 มาตรการแล้ว และไม่ขัดข้องในหลักการและวัตถุประสงค์ในการเก็บสตอก และเร่งรับซื้อเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาให้กับเกษตรกร ที่ผลผลิตกำลังจะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 นี้

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้ ได้เห็นชอบวิธีการในการดำเนินมาตรการชะลอการขายข้าวเปลือก โดยใช้กลไกสหกรณ์การเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกกรณ์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 600 กว่าแห่ง โดยมอบหมายกระทรวงการคลัง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ โดยพิจารณารายละเอียดการให้สินเชื่อ การช่วยเหลือในการเก็บสตอกข้าว และการใช้จ่ายงบประมาณ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา


ส่วนมาตรการรวบรวมรับซื้อข้าวโดยสถาบันเกษตรกร โดยใช้กลไกสหกรณ์และสถาบันเกษตรกรช่วยเร่งรับซื้อข้าวเปลือกที่กำลังจะออกสู่ตลาดในขณะนี้ เพื่อจำหน่ายหรือแปรรูป โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส. พิจารณารายละเอียดวิธีการให้สินเชื่อและการช่วยเหลืออัตราดอกเบี้ยแก่สหกรณ์และสถาบันเกษตรกร และการใช้จ่ายงบประมาณ นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

สำหรับมาตรการเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ มอบหมายกระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา กรณีธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อและเงื่อนไขการให้สินเชื่อประกอบการรับซื้อ เพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้สามารถเร่งรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร ขณะที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกร นบข. มีความเห็นว่าเนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวยังมีเสถียรภาพ และคาดว่าการดำเนินมาตรการชะลอการขายและมาตรการรวบรวมรับซื้อข้าวโดยสถาบันเกษตรกร จะสามารถช่วยรักษาระดับราคาในช่วงที่ออกสู่ตลาดมากได้ จึงกำหนดให้มีการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ได้พิจารณาปรับเปลี่ยนชื่อข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เป็นข้าวเปลือกหอมมะลิ และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลัก ประชุมหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนเกษตรกร ผู้ประกอบการค้าข้าว และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด และภาคเหนือ 3 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา) เป็น “ข้าวหอมมะลิ” และนำเสนอ นบข. ต่อไป


ขณะเดียวกันได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาโครงการข้าวตามนโยบายของรัฐบาลจำนวน 7 โครงการ จากสิ้นสุดเดือนกันยายน 2566 เป็นจนกว่าคดีจะสิ้นสุดในชั้นศาล เนื่องจาก อคส. และ อ.ต.ก. ยังมีภาระทางคดีและการระบายข้าวยังไม่สิ้นสุด และมอบหมาย อคส. เร่งรัดดำเนินการระบายข้าวคงเหลือในคลังกลางของรัฐให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2567 ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการโดยเคร่งรัด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รวมทั้งมอบหมาย อคส. และ อ.ต.ก. รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดี รวมทั้งการดำเนินการทางกฎหมาย ให้ฝ่ายเลขานุการ นบข. ทราบเป็นประจำทุกปี เพื่อรายงาน นบข. ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ