การบินไทยพร้อมให้บริการเส้นทางบินใหม่สู่อิสตันบูล

กรุงเทพ 1 พ.ย.-บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดงานแนะนำเส้นทางบินใหม่  สู่นครอิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เคียเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายเส้นทางบินของบริษัท เริ่มบิน 1 ธ.ค.นี้ ส่วนการเปิดฟรีวีซ่า 6 เดือนให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและไต้หวัน  จะเป็นผลดีกับการท่องเที่ยวของไทย


นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทฯ เป็นประธานในงาน พร้อมด้วยนางแซรัปแอร์ซอย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐทูร์เคียประจำประเทศไทย 

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การบินไทยพร้อมนำทุกท่านเดินทางไปสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมในเส้นทางบินใหม่ไปยังนครอิสตันบูลเมืองที่มีบทบาทสำคัญยาวนานในประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐทูร์เคีย จุดศูนย์กลางการเดินทางระหว่างทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ที่สามารถเชื่อมต่อเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ของประเทศที่มีอาณาเขตเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐทูร์เคียและกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออก ผ่านเครือข่ายสายการบินพันธมิตร สตาร์อัลไลแอนซ์ โดยให้บริการเที่ยวบินไป-กลับกรุงเทพฯ-อิสตันบูล ทำการบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่   1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป 


ด้วยตารางการบินที่สะดวกสบาย ดังนี้ เส้นทางไป-กลับกรุงเทพฯ-อิสตันบูล ทำการบินทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน

– เที่ยวบินที่ TG900 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 23.45 น. เดินทางถึงอิสตันบูลเวลา 06.05 น. ของวันถัดไป(เวลาท้องถิ่น)

– เที่ยวบินที่ TG901 ออกเดินทางจากอิสตันบูล เวลา 16.30 น. (เวลาท้องถิ่น)เดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 05.35 น. ของวันถัดไป


 โดยบริษัทฯ ได้จัดเมนูอาหารว่างที่มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยและสาธารณรัฐทูร์เคียมาให้บริการในเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-อิสตันบูล อีกด้วย

ทั้งนี้ การเปิดเส้นทางบินใหม่ของการบินไทยสู่อิสตันบูล สำหรับนักท่องเที่ยวไทย ไม่ต้องขอวีซ่าหากจะพำนักอยู่ในสาธารณรัฐทูร์เคีย ไม่เกิน 1 เดือน นอกจากจะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทฯอาทิ เพิ่มทางเลือกใหม่ในการเดินทาง การเชื่อมต่อเที่ยวบินและการขนส่งสินค้าแล้ว ยังยกระดับการเป็นสายการบินที่มีเครือข่ายเชื่อมต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและออสเตรเลีย สนับสนุนนโยบายภาครัฐอีกด้วย สำหรับสาธารณรัฐทูร์เคียเป็นตลาดที่มีประชากรกว่า 85.3 ล้านคน และมีขนาดมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 906 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นายชาย กล่าวเพิ่มเติมถึงการเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียและไต้หวัน เป็นเวลา 6 เดือนด้วยว่า น่าจะเป็นผลดีและผลบวกต่อการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวอินเดีย ถ้ามีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในบ้านเราจำนวนมาก ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเที่ยวบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเติบโต แต่ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมาท่องเที่ยวในเมืองไทยน้อยกว่านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีน ยังไม่กลับท่องเที่ยวในเมืองไทยมากนักเหมือนกับในอดีตที่จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ต้องดูว่า ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่มีการเปิดฟรีวีซ่าวันแรกให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจะมีผลตอบรับดีแค่ไหน หลังจากนั้นอีก 3 เดือนค่อยประเมินว่าจะมีการต่ออายุฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียหรือไม่ โดยในขณะนี้การบินไทย มีเที่ยวบินจากอินเดียมาไทย 6 เมืองและกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะเปิดสายการบินเพิ่มอีก โดยเบื้องต้นดูไว้ 2 เมืองในอินเดีย ส่วนจะเป็นเมืองไหนนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุสำหรับการเดินทางด้วยสายการบินไทย ในปี 2566 ตลอดระยะเวลา 9-10 เดือนที่ผ่านมา มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 78-79% .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น