สุวรรณภูมิ 5 ต.ค. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีมีผู้โดยสารลักลอบนำสัตว์ขึ้นเครื่องบินไปยังไต้หวัน ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ ตรวจสอบวงจรปิดพบเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย เครื่อง X-Ray เจอสิ่งสงสัยในกระเป๋าแล้ว แต่พนักงานไม่เปิดตรวจกระเป๋า สั่งหยุดปฏิบัติงานทันที
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจ้งว่า ระบุว่า จากกรณีมีผู้โดยสารลักลอบนำสัตว์ขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทยเวียตเจ็ท ท่าอากาศยานฯ ได้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานตรวจค้น บริษัท รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยาน ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ย้อนหลัง พบผู้โดยสารที่นำสัตว์ขึ้นเครื่องดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย ซึ่งได้นำกระเป๋าผ่านเครื่อง X-Ray บริเวณจุดตรวจค้น ในเวลาประมาณ 13.45 น. โดยพนักงานวิเคราะห์ภาพเกิดข้อสงสัย จึงส่งกระเป๋าให้พนักงานอีกคนหนึ่งทำการเปิดกระเป๋า เพื่อพิสูจน์ทราบว่า สิ่งที่สงสัยนั้นเป็นวัตถุอันตรายหรือวัตถุต้องห้ามหรือไม่ แต่พนักงานคนดังกล่าวมิได้ทำการเปิดตรวจกระเป๋า และอนุญาตให้ผู้โดยสารผ่านจุดตรวจค้นเดินทางขึ้นเครื่องบินต่อไป
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ย้ำว่า ระบบเทคโนโลยีที่นำมาใช้ภายในจุดตรวจค้นของสนามบิน สามารถทำงานได้ตามมาตรฐาน และขั้นตอนการตรวจสอบวัตถุต้องห้ามที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่กรณีนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพนักงานเปิดตรวจสอบกระเป๋าไม่ดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ โดยมีคำสั่งให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหยุดปฏิบัติงานทันที และหากผลการสอบสวนพบว่าเป็นการละเลยขั้นตอนการปฏิบัติงานตามมาตรฐาน จะต้องถูกดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ย้ำเตือนผู้เดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต้องไม่กระทำผิดกฎหมายโดยการลักลอบนำสัตว์ หรือซากสัตว์ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ขึ้นเครื่องเข้า-ออกนอกประเทศ หากประสงค์จะนำสัตว์เลี้ยงเดินทาง ขอให้ทำการขออนุญาตให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งกฎหมายไทยและต่างประเทศ ที่ต้องรับโทษทั้งปรับและจำคุก. – สำนักข่าวไทย