รร. วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย 4 ต.ค.- ตลาดหุ้นไทย มุ่งเป็นแห่งระดมทุนหลักในอาเซียน เผย บริษัทจดทะเบียนฟื้นตัว มีรายได้จากลงทุนต่างประเทศเพิ่มร้อยละ 30-40 หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในหัวข้อ “พัฒนาตลาดทุนไทยรับความท้าทายใหม่” ในงานสัมนา Thailand Economic Outlook 2024 : Change The Future Today จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า บริษัทจดทะเบียนของไทยฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากปัญหาโควิด-19 โดยมีรายได้จากการออกไปลงทุนในต่างประเทศเติบโตร้อยละ 30-40 นับว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีศักยภาพ และบริษัทจดทะเบียนของไทย มุ่งเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อม ธรรมาภูิบาลเป็นแกนนำด้าน ESG ในเวทีโลก จำนวน 12 บริษัทมากที่สุดในโลก เพื่อรองรับกระแสโลก
ตลาดหุ้นไทยยังเป็นแหล่งระดมทุน IPO อันดับต้นในอาเชียน จึงทำให้ตลาดหุ้นไทย มีมูลค่าตลาดรวม 20 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง และยังต้องส่งเสริมการระดมทุนให้สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี นับว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีเอกชน 3 บริษัท ระดมทุนผ่าน Live Platform ระดมทุนไปกว่า 100 ล้านบาท มีมูลค่าตลาดราว 1.25 พันล้านบาท และยังมีตลาด MAI ที่มีความสำคัญ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องทำงานเชิงรุก ยกระดับคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนคุณภาพเข้ามากระจายหุ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน การแจ้งข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนให้เร็วขึ้น เพื่อให้นักลงทุนประกอบการตัดสินใจลงทุน การแจ้งเตือนนักลงทุน เมื่อเกิดความผิดปกติอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความสะดวกให้บริษัทจะทะเบียน เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
สำหรับบรรยากาศตลาดทุนทั่วโลกในช่วงนี้ ยอมรับว่ามีความผันผวนอย่างมาก จากปัจจัยของเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาน้ำมันคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกขยับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดูแลเงินเฟ้อ ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ยังมีปัจจัย ทั้งการเมือง ค่าเงินบาทอ่อนค่า เข้ามากระทบการลงทุน ทำให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ต้นปี 66 ถึงปัจจุบันปรับลดลงเหลือเฉลี่ย 6 หมื่นล้านบาทต่อวัน จากปี 65 ค่าเฉลี่ย 7.7 หมื่นล้านบาทต่อวัน ส่วนเม็ดเงินทุนต่างชาติ ยอมรับว่ายังคงไหลออกจากตลาดหุ้นไทย 5-6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อน เป็นเงินลงทุนไหลเข้ามากว่า 8-9 พันล้านดอลล์สหรัฐ นับว่าเงินลงทุนต่างชาติเป็นแรงกดดันต่อตลาดทุนไทย อย่างมาก ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงต้องพัฒนาด้านต่างๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย.- สำนักข่าวไทย
