นายกฯ กำชับส่วนราชการใช้งบฯ ปี 67

เมืองทองธานี 2 ต.ค.- นายกรัฐมตรีกำชับส่วนราชการใช้งบปี 67 มุ่งรักษาวินัยการเงิน การคลัง ใช้งบไม่ซ้ำซ้อน ขอตัดงบที่ไม่จำเป็น มุ่งปรับเพิ่มค่าแรง 400 บาท/วัน ในช่วงแรก สำนักงบฯ แนะจัดทำงบแฝดปี 67 ควบคู่ปี 68 เร่งฟื้นเศรษฐกิจไทย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่า หลังจากไทยเผชิญกับปัญหาโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ การฟื้นตัวกระจายไปไม่ทั่วถึงทุกลุ่ม มีปัญหาหนี้ครัวเรือน ยาเสพติด จากความท้าทาย รัฐบาลจะร่วมมือกับทุกส่วน และเอกชน นายกรัฐมนตรีจึงขอกำชับให้ส่วนราชการยึด 5 ข้อหลัก เพื่อเสนอแผนจัดทำงบส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 6 ตุลาคม 67 เพื่อใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท

ประกอบด้วย 1. การจัดทำแผนใช้งบประมาณรองรับนโยบาย แถลงต่อสภา จึงต้องจัดทำงบประมาณสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 2.ขอให้ส่วนราชการ จัดทำโครงแบบบูรณาการ ไม่ซ้ำซ้อนกันหลายหน่วยงาน เพื่อทำโครงการเดียวกัน 3.การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ด้วยการรักษาวินัยการเงิน การคลัง 4.การจัดทำตัวชี้วัด ประเมินผลการใช้งบประมาณ ไม่ใช่ การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หากโครงการไม่จำเป็นขอให้ตัดออกไปก่อน 5.การใช้จ่ายทุกโครงการขอให้เน้นรักษาวินัยการเงินการคลัง ทั้งเงินงบประมาณรายจ่าย และเงินนอกงบประมาณ เพื่อจัดทำแผนใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ระบบ AI มาช่วยทำงาน ลดปัญหาต่อรอคิวเป็นเวลานาน ขจัดเจ้าหน้าที่เรียกรับสินบนจากประชาชน การเพิ่มเทคโนโลยีบริการประชาชน มุ่งทำให้จีดีพีประเทศขยายตัวร้อยละ 5 มุ่งเป้าปรับค่าแรง 600 บาท ภายในปี 2570 เพื่อให้ทุกคนมีสวัสดิการที่ดี หากนโยบายเดิมทำดีแล้วทำต่อไป มุ่งรับฟังความเห็นประชาชชน รัฐบาลจึงมุ่งเดินหน้า 3 มาตการเร่งด่วน ด้วยการฟื้นฟูรายได้ ผ่านการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ ด้วยดิจิทัลวอเล็ต 5.6 แสนล้านบาท เพื่อเติมกำลังซื้อประชาชน ทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการฟื้นตัว การใช้จ่ายหมุนเวียนในชุมชน เพื่อให้ทุกส่วนรับประโยชน์จากการจับจ่ายใช้สอย หลังจาก ครม. ตั้งคณะกรรมการ จัดหาแหล่งเงินดิจิทัล จะเร่งจัดให้คืบหน้าโดยเร็ว ยืนยันใช้เงินดิจิทัลในเดือน ก.พ.67 แน่นอน


ด้านการท่องเที่ยว ฟื้นฟูทั้งนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศ รัฐบาลพร้อมพิจารณายกเว้นทำวีซ่าให้กับประเทศอื่นเพิ่มเติม และหามาตรการอื่น มาช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง การออกไปโรดโชว์ชักชวนต่างชาติมาท่องเที่ยว และลงทุนในประเทศไทย ศึกษาหามาตรการลดภาระต้นทุนพลังงานเพิ่มเติม เดินหน้าเปิดลงทะเบียนการพักหนี้ เกษตรกร ระยะเวลา 3 ปี เป้าหมาย 2.7 ล้านครัวเรือน สำหรับรายย่อยมูลหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย นำไปสู่การเพิ่มค่าแรง 400 บาทต่อวัน ในระยะปานกลาง มุ่งใช้ตลาดนำนวัตรกรรมเสริม เพิ่มรายได้

ในระยะยาว มุ่งสร้างรายได้ ขยายโอกาส ดูแลคุณภาพชีวีตทุกฝ่าย มุ่งสร้างรายได้มั่นคงในภาคเกษตร การเปิดการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจ เมื่อพักหนี้ ใช้นโยบายการเพาะปลูก ปรับปรุงดิน เกษตรแม่นยำ เป้าหมาย ทำให้เกษตรการเพิ่ม 3 เท่าภายใน 4 ปี ต้องดูอุปทาน อุปสงค์ให้เหมาะสม ดูต้นทุน ราคา จัดทำองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ การส่งเสริมเกษตรล่วงหน้า ทำให้ภาคเกษตรได้ผล จากการขายผลผลิต การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว สตาร์ทอัพของไทย เพื่อหาแมทชิ่งฟันด์มาช่วยเติมทุนให้กับเอสเเอ็มอี สตาร์ทอัพ ให้มีแหล่งทุนหมุนเวียนเติบโตเป็นยูนิคอร์ได้ในอนาคต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้เอกชนไทยเติบโตในเวลาทีโลก เดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ เพราะหลายประเทศสนใจเข้ามาขยายการลงทุน รัฐบาลจึงเร่งเจรจาเอฟทีเอ ทั้งกลุ่มอียู ตะวันออกกลาง รองรับการค้าต่างประเทศ เปลี่ยนวิธีการฑูตเชิงรุก เพื่อประกาศว่า “ประเทศไทยเปิดแล้ว” ยึดขั้วอำนาจเป็นกลางกับประเทศมหาอำนาจในเวทีโลก

ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบน้ำ ราง อากาศ ทำอย่างมียุทธศาสตร์ เช่น สนามบิน เป็นหน้าด้านการท่องเที่ยว ขยายรองรับนักท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง มุ่งส่งเสริมท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ควบคู่กับการพัฒนาระบบราง รถไฟส่งสินค้ากระจายไปทั่วภูมิภาค มุ่งลดภาระต้นทุน มุ่งพัฒนาที่ดินทำกินให้รายย่อยมีสิทธิ์ทำกิน มีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ผ่านกองทัพที่ครอบครองอยู่ การมุ่งเน้นการศึกษา ส่งเสริมการรักการอ่าน ปรับหลักสูตรให้ทันสมัย ส่งเสริม ซอร์ฟเพาเวอร์ ผลักดันเศรษฐกิจไทย จากนั้นจะทำให้ไทยมีศักยภาพปรับค่าแรง 600 บาทต่อวัน ปรับเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน การจัดการปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง จัดการกับผู้มีอิทธิพล ตั้งรางวัลผู้ให้เบาะแส ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยป้องกันภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ดูแลให้ทั่วถึง หลายโครงการอยู่ภายใต้แผนบูรณาการ ไม่ท่ว ไม่แล้ง โดยใช้ฝายกั้นน้ำ ธนาคารน้ำใต้ดิน เดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่่ย MP 2.5 การเดินหน้าลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกร้อนในปี 2593 การใช้ดิจิทัลดูแลรักษาสุขภาพ เชื่อมต่อฐานข้อมูล รักษาพยาบาลใกล้บ้าน ทุกโคงการล้วนต้องใช้งบประมาณขับเคลื่อน จึงต้องร่วมกันบริหารการใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ


นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า กรอบงบประมาณรายจ่ายปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท คาดการณ์รายได้ 2.78 ล้านล้านบาท งบขาดดุล 6.9 แสนล้านบาท จึงขอให้ส่วนราชการยึดหลัก สนองนโยบายรัฐบาล ทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง ระยะยาว การสร้างรายได้ ผ่านหลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรเสริม เพิ่มรายได้” สำนักงบประมาณจะปรับงบให้สอดคล้องนโยบายรัฐ ขณะนี้ยอดคำของบประมาณ 5.3 ล้านล้านบาท สูงกว่าที่รัฐบาลตั้งไว้ ในกรอบงบ 3.48 ล้านล้านบาท สำนักงบประมาณจึงต้องตัดงบอีกเยอะมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ยอมรับว่างบลงทุนปี 67 จะออกสู่ระบบได้ในช่วงเดือนเมษายน 67 หากมั่นใจขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างได้สำเร็จ ให้เร่งเสนอแผนลงทุน จึงขอให้ส่วนราชการเตรียมพร้อม เพื่อเบิกจ่ายงบลงทุนออกสู่ระบบโดยเร็วที่สุด

ในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) สำนักงบประมาณ เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาการจัดทำงบประมาณแบบผูกพันของปี 66 มูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านบาท ประมาณ 40 โครงการ เพื่อพร้อมขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง แผนการลงทุน เมื่อได้รับการอนุมัติงบประมาณ จะได้เร่งรัดเงินลงทุนออกสู่ระบบ สำนักงบประมาณ ยังขอให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายปี 67 ควบคู่กับไปงบประมาณปี 68 เนื่องจากกรอบงบปี 67 ล่าช้าไปมาก เมื่อถึงเดือนตุลาคม ของทุกปี ทุกส่วนราชการ ต้องจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายในปีถัดไป ในช่วงนี้ จึงขอให้เตรียมจัดทำงบรายจ่ายปี 68 โดยเฉพาะการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ เพื่อประเมินความสำเร็จโครงการลงทุน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย