นายกฯ กำชับส่วนราชการใช้งบฯ ปี 67

เมืองทองธานี 2 ต.ค.- นายกรัฐมตรีกำชับส่วนราชการใช้งบปี 67 มุ่งรักษาวินัยการเงิน การคลัง ใช้งบไม่ซ้ำซ้อน ขอตัดงบที่ไม่จำเป็น มุ่งปรับเพิ่มค่าแรง 400 บาท/วัน ในช่วงแรก สำนักงบฯ แนะจัดทำงบแฝดปี 67 ควบคู่ปี 68 เร่งฟื้นเศรษฐกิจไทย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่า หลังจากไทยเผชิญกับปัญหาโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ การฟื้นตัวกระจายไปไม่ทั่วถึงทุกลุ่ม มีปัญหาหนี้ครัวเรือน ยาเสพติด จากความท้าทาย รัฐบาลจะร่วมมือกับทุกส่วน และเอกชน นายกรัฐมนตรีจึงขอกำชับให้ส่วนราชการยึด 5 ข้อหลัก เพื่อเสนอแผนจัดทำงบส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 6 ตุลาคม 67 เพื่อใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท

ประกอบด้วย 1. การจัดทำแผนใช้งบประมาณรองรับนโยบาย แถลงต่อสภา จึงต้องจัดทำงบประมาณสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล 2.ขอให้ส่วนราชการ จัดทำโครงแบบบูรณาการ ไม่ซ้ำซ้อนกันหลายหน่วยงาน เพื่อทำโครงการเดียวกัน 3.การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ด้วยการรักษาวินัยการเงิน การคลัง 4.การจัดทำตัวชี้วัด ประเมินผลการใช้งบประมาณ ไม่ใช่ การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หากโครงการไม่จำเป็นขอให้ตัดออกไปก่อน 5.การใช้จ่ายทุกโครงการขอให้เน้นรักษาวินัยการเงินการคลัง ทั้งเงินงบประมาณรายจ่าย และเงินนอกงบประมาณ เพื่อจัดทำแผนใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ระบบ AI มาช่วยทำงาน ลดปัญหาต่อรอคิวเป็นเวลานาน ขจัดเจ้าหน้าที่เรียกรับสินบนจากประชาชน การเพิ่มเทคโนโลยีบริการประชาชน มุ่งทำให้จีดีพีประเทศขยายตัวร้อยละ 5 มุ่งเป้าปรับค่าแรง 600 บาท ภายในปี 2570 เพื่อให้ทุกคนมีสวัสดิการที่ดี หากนโยบายเดิมทำดีแล้วทำต่อไป มุ่งรับฟังความเห็นประชาชชน รัฐบาลจึงมุ่งเดินหน้า 3 มาตการเร่งด่วน ด้วยการฟื้นฟูรายได้ ผ่านการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ ด้วยดิจิทัลวอเล็ต 5.6 แสนล้านบาท เพื่อเติมกำลังซื้อประชาชน ทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการฟื้นตัว การใช้จ่ายหมุนเวียนในชุมชน เพื่อให้ทุกส่วนรับประโยชน์จากการจับจ่ายใช้สอย หลังจาก ครม. ตั้งคณะกรรมการ จัดหาแหล่งเงินดิจิทัล จะเร่งจัดให้คืบหน้าโดยเร็ว ยืนยันใช้เงินดิจิทัลในเดือน ก.พ.67 แน่นอน


ด้านการท่องเที่ยว ฟื้นฟูทั้งนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศ รัฐบาลพร้อมพิจารณายกเว้นทำวีซ่าให้กับประเทศอื่นเพิ่มเติม และหามาตรการอื่น มาช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง การออกไปโรดโชว์ชักชวนต่างชาติมาท่องเที่ยว และลงทุนในประเทศไทย ศึกษาหามาตรการลดภาระต้นทุนพลังงานเพิ่มเติม เดินหน้าเปิดลงทะเบียนการพักหนี้ เกษตรกร ระยะเวลา 3 ปี เป้าหมาย 2.7 ล้านครัวเรือน สำหรับรายย่อยมูลหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย นำไปสู่การเพิ่มค่าแรง 400 บาทต่อวัน ในระยะปานกลาง มุ่งใช้ตลาดนำนวัตรกรรมเสริม เพิ่มรายได้

ในระยะยาว มุ่งสร้างรายได้ ขยายโอกาส ดูแลคุณภาพชีวีตทุกฝ่าย มุ่งสร้างรายได้มั่นคงในภาคเกษตร การเปิดการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจ เมื่อพักหนี้ ใช้นโยบายการเพาะปลูก ปรับปรุงดิน เกษตรแม่นยำ เป้าหมาย ทำให้เกษตรการเพิ่ม 3 เท่าภายใน 4 ปี ต้องดูอุปทาน อุปสงค์ให้เหมาะสม ดูต้นทุน ราคา จัดทำองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ การส่งเสริมเกษตรล่วงหน้า ทำให้ภาคเกษตรได้ผล จากการขายผลผลิต การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว สตาร์ทอัพของไทย เพื่อหาแมทชิ่งฟันด์มาช่วยเติมทุนให้กับเอสเเอ็มอี สตาร์ทอัพ ให้มีแหล่งทุนหมุนเวียนเติบโตเป็นยูนิคอร์ได้ในอนาคต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้เอกชนไทยเติบโตในเวลาทีโลก เดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ เพราะหลายประเทศสนใจเข้ามาขยายการลงทุน รัฐบาลจึงเร่งเจรจาเอฟทีเอ ทั้งกลุ่มอียู ตะวันออกกลาง รองรับการค้าต่างประเทศ เปลี่ยนวิธีการฑูตเชิงรุก เพื่อประกาศว่า “ประเทศไทยเปิดแล้ว” ยึดขั้วอำนาจเป็นกลางกับประเทศมหาอำนาจในเวทีโลก

ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบน้ำ ราง อากาศ ทำอย่างมียุทธศาสตร์ เช่น สนามบิน เป็นหน้าด้านการท่องเที่ยว ขยายรองรับนักท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง มุ่งส่งเสริมท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ควบคู่กับการพัฒนาระบบราง รถไฟส่งสินค้ากระจายไปทั่วภูมิภาค มุ่งลดภาระต้นทุน มุ่งพัฒนาที่ดินทำกินให้รายย่อยมีสิทธิ์ทำกิน มีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ผ่านกองทัพที่ครอบครองอยู่ การมุ่งเน้นการศึกษา ส่งเสริมการรักการอ่าน ปรับหลักสูตรให้ทันสมัย ส่งเสริม ซอร์ฟเพาเวอร์ ผลักดันเศรษฐกิจไทย จากนั้นจะทำให้ไทยมีศักยภาพปรับค่าแรง 600 บาทต่อวัน ปรับเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน การจัดการปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง จัดการกับผู้มีอิทธิพล ตั้งรางวัลผู้ให้เบาะแส ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยป้องกันภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ดูแลให้ทั่วถึง หลายโครงการอยู่ภายใต้แผนบูรณาการ ไม่ท่ว ไม่แล้ง โดยใช้ฝายกั้นน้ำ ธนาคารน้ำใต้ดิน เดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่่ย MP 2.5 การเดินหน้าลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโลกร้อนในปี 2593 การใช้ดิจิทัลดูแลรักษาสุขภาพ เชื่อมต่อฐานข้อมูล รักษาพยาบาลใกล้บ้าน ทุกโคงการล้วนต้องใช้งบประมาณขับเคลื่อน จึงต้องร่วมกันบริหารการใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ


นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า กรอบงบประมาณรายจ่ายปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท คาดการณ์รายได้ 2.78 ล้านล้านบาท งบขาดดุล 6.9 แสนล้านบาท จึงขอให้ส่วนราชการยึดหลัก สนองนโยบายรัฐบาล ทั้งระยะสั้น ระยะปานกลาง ระยะยาว การสร้างรายได้ ผ่านหลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรเสริม เพิ่มรายได้” สำนักงบประมาณจะปรับงบให้สอดคล้องนโยบายรัฐ ขณะนี้ยอดคำของบประมาณ 5.3 ล้านล้านบาท สูงกว่าที่รัฐบาลตั้งไว้ ในกรอบงบ 3.48 ล้านล้านบาท สำนักงบประมาณจึงต้องตัดงบอีกเยอะมากกว่า 2 ล้านล้านบาท ยอมรับว่างบลงทุนปี 67 จะออกสู่ระบบได้ในช่วงเดือนเมษายน 67 หากมั่นใจขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างได้สำเร็จ ให้เร่งเสนอแผนลงทุน จึงขอให้ส่วนราชการเตรียมพร้อม เพื่อเบิกจ่ายงบลงทุนออกสู่ระบบโดยเร็วที่สุด

ในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) สำนักงบประมาณ เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาการจัดทำงบประมาณแบบผูกพันของปี 66 มูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านบาท ประมาณ 40 โครงการ เพื่อพร้อมขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง แผนการลงทุน เมื่อได้รับการอนุมัติงบประมาณ จะได้เร่งรัดเงินลงทุนออกสู่ระบบ สำนักงบประมาณ ยังขอให้ทุกส่วนราชการจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายปี 67 ควบคู่กับไปงบประมาณปี 68 เนื่องจากกรอบงบปี 67 ล่าช้าไปมาก เมื่อถึงเดือนตุลาคม ของทุกปี ทุกส่วนราชการ ต้องจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายในปีถัดไป ในช่วงนี้ จึงขอให้เตรียมจัดทำงบรายจ่ายปี 68 โดยเฉพาะการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ เพื่อประเมินความสำเร็จโครงการลงทุน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]