กรุงเทพฯ 28 ก.ย.-รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ผลการเจรจาภายใต้กรอบ FTAไทย-UAE รอบ 4 คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 80 พร้อมตั้งเป้าหมายจะสรุปผลเจรจาให้สำเร็จในสิ้นปี
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำ FTA หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (CEPA) กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) รอบที่ 4 ที่ กรุงเทพฯ ว่า หลังได้มีการเจรจาร่วมกับ นายธานี บิน อาเหม็ด อัล เซยูดี รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า การเจรจาในครั้งนี้ มีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 80 โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความต้องการสินค้าไทย รวมถึงบริการ และใช้ไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียน ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นศูนย์กลางในการขยายการค้าของไทยไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางแต่การเจรจายังคงมีบางประเด็น ที่จะต้องหารือเพิ่มเติม โดยยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดได้ เพราะต้องหารือกันเป็นการภายในของทั้ง 2 ประเทศก่อน
ทั้งนี้ ในฐานะกระทรวงพาณิชย์ตระหนักดีว่าการเจรจาต่างๆที่จะเกิดขึ้น ต้องคำนึงถึงผลกระทบ ประโยชน์ที่จะได้รับและข้อจำกัดที่มีอยู่ อาจต้องมีการนำเสนอและหารือรับภาคเอกชน เพื่อให้ได้รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับกรอบการเจรจาในครั้งถัดไป แต่เป้าหมายสรุปผลเจรจาให้สำเร็จในสิ้นปี
โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายปฏิบัติกลับไปหารือในรายละเอียดเพื่อนำกลับมาเจรจาอีกครั้ง โดยประเด็นที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ยังคงต้องมีความพยายามในการเจรจาต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด
สำหรับผลการศึกษาในเบื้องต้นประเมินว่า การจัดทำ CEPA ระหว่างไทยกับยูเออี จะช่วยให้ GDP ของไทยขยายตัว มูลค่า 318-357 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกของไทยในภาพรวม ขยายตัว มูลค่า 190-243 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสินค้าที่คาดว่าไทยจะส่งออกไปยูเออีได้มากขึ้น อาทิ สินค้าอาหาร สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนังสัตว์ ไม้ ยาง พลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และชิ้นส่วน ส่วนสาขาบริการที่คาดว่าจะมีธุรกรรมระหว่างกันเพิ่มขึ้น อาทิ การขนส่ง การเงิน และบริการด้านธุรกิจ
ทั้งนี้ ยูเออีเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในตลาดโลก และอันดับ 1 ในตะวันออกกลาง โดยในช่วง 7 เดือนแรกการค้าสองระหว่างไทยกับยูเออี มูลค่า 11,120.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปยูเออี มูลค่า 1,817.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากยูเออี มูลค่า 9,302.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี และเงินแท่งและทองคำ .-สำนักข่าวไทย