เอกชนภาคอีสานเสนอรัฐบาลเร่งกระตุกท่องเที่ยว-ค้าชายแดน

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – หอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ จัดประชุมคณะกรรมการบริหารฯ สัญจร จ.นครพนม ระดมความคิดหอการค้าฯ และผู้ประกอบการภาคอีสาน 20 จังหวัด ชงรัฐบาลใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ขณะที่เสียงภาคเอกชนอีสานเห็นด้วย รัฐบาลควรเร่งส่งเสริมท่องเที่ยว ดึงเม็ดเงินต่างชาติกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมหวังมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินทำได้เร็ว หนุนเศรษฐกิจชุมชนให้คึกคักยิ่งขึ้น


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังจัดประชุมรับฟังข้อเสนอทางเศรษฐกิจของหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่จะช่วยดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้อย่างรวดเร็วในระยะสั้น ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอินโดจีน ทั้ง สปป ลาว กัมพูชา และเวียดนาม พร้อมทั้งมีข้อเสนอให้เร่งรัดแผนงานสำคัญ อาทิ การผลักดันและติดตามการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง จ.เลย การผลักดันจังหวัดสกลนครเป็นเมืองหัตถกรรมโลกแห่งสีครามธรรมชาติในปี 2023 การพัฒนาพื้นที่บริเวณวิมานพญาแถนและพื้นที่โดยรอบ จ.ยโสธร ตลอดจนได้พูดคุยถึงข้อเสนอของแต่ละจังหวัดที่อยากให้มีการจัดตั้งสำนักงาน ททท.ในทุกจังหวัด ซึ่งส่วนนี้หอการค้าทั่วประเทศสามารถเข้าไปสนับสนุนบุคลากรและทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ททท. เพื่อสนับสนุนภารกิจส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดการกระจายรายได้ทั่วประเทศ

ส่วนด้านการค้า การลงทุน และการค้าชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือเป็นประตูเชื่อมโยงประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion : GMS) โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าไทยไปยังจีนที่สามารถยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้อำนวยความสะดวกและเพิ่มตัวเลขเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล ซึ่งหอการค้าฯ อีสานได้นำเสนอแผนงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การผลักดันให้มีการจัดตั้งศูนย์ Business Center หนองคาย โครงการถนนผังเมือง สาย ง3 เชื่อมระหว่างถนนเทวาภิบาล และถนนผดุงพานิช ระยะทางประมาณ 0.260 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด การผลักดันจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูเป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ การผลักดันโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรช่องจอมแห่งใหม่ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจชายแดน การผลักดันโครงการยกระดับถนนวงแหวนรอบเมือง (ทล.231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ม.3+642 – กม.8+383 (บ้านทัพไทย+บ้านคูเดื่อ) การเจรจาขอเปิดเส้นทางการค้าและการลงทุน “เส้นทางศรีสะเกษ-ปราสาทพระวิหาร” เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา การผลักดันและเร่งรัดโครงการก่อสร้างถนนผังเมืองรวมสาย ค.1-ข.4 อำนาจเจริญ และการเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย ลาว จีน ซึ่งจะเป็นจุดพลิกผันและดันภาคการค้า การท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคอีสานให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด


นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พูดคุยถึงประเด็นปัญหาและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยเฉพาะปีนี้จะมีแนวโน้มเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ และน่าจะยาวถึงปี 2567 จากปริมาณน้ำฝนมีค่าน้อยกว่าปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร และปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนทั่วประเทศ ซึ่งภาคเอกชนเห็นว่า รัฐบาลควรเร่งจัดทำแผนระยะสั้นในการบริหารจัดการพื้นที่กักเก็บน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการในการอุปโภคบริโภคของประชาชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตร ที่ถือเป็นรายได้หลักของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยได้มีการเสนอให้จัดทำโครงการเติมน้ำใต้ดินเสริมบริเวณเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝาย แก้มลิง พื้นที่หน่วงน้ำ และลำน้ำสาขา จำนวน 3 รูปแบบ ทั้งการเติมน้ำใต้ดินระดับตื้น แบบบ่อวงคอนกรีต-แบบคลองเติมน้ำ และการเติมน้ำใต้ดินระดับลึก โครงการศึกษาและสำรวจจัดสร้างวงแหวนน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในเขตจังหวัดชัยภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนในระยะยาว ทราบว่ารัฐบาลเคยมีแผนและการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำของชาติทั้งระบบมาก่อนแล้ว ภาคเอกชนจึงคิดว่าควรจะหยิบยกมาพิจารณาและเดินหน้าต่อ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง สามารถดำเนินการได้เป็นรูปธรรม ซึ่งข้อเสนอต่างๆ ที่ได้มีการหารือในครั้งนี้ หอการค้าไทยจะจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน และนำเสนอผ่านกลไก กรอ. ไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาต่อไป

นอกเหนือจากการประชุมหารือกับหอการค้าและภาคเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว เวทีสัญจรของหอการค้าไทยในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บรรยายพิเศษ เรื่อง “การเสริมภูมิคุ้มกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รู้เท่าทันไซเบอร์” ให้กับภาคธุรกิจ และยังได้รับเกียรติจาก คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “การสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการด้าน Digital และ Sustainability” ภายในงานดังกล่าวด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก