ประเมินจัดตั้งรัฐบาลล่าช้ากระทบงบรัฐปลายปีนี้ 5-7 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 ส.ค.-Krungthai COMPASS จัดตั้งรัฐบาลล่าช้า กระทบต่อการลงทุนภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้5-7 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2-0.4 % ของ GDP ปี 


Krungthai COMPASS หน่วยงานวิจัย ธนาคารกรุงไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2/2566 ขยายตัว 1.8% เติบโตชะลอลงจากไตรมาสที่ 1/2566 ที่ขยายตัว 2.6% โดยเศรษฐกิจชะลอลงจากการส่งออกสินค้าที่หดตัวต่อเนื่องและการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัวทั้งการอุปโภคภาครัฐและการลงทุนภาครัฐ อย่างไรก็ดีการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อน และการส่งออกบริการขยายตัวต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 จาก 2.7-3.7% เหลือ 2.5-3.0% จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว  ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของสินค้าคงคลัง โดยการเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังในไตรมาสนี้ลดลง 94.6 พันล้านบาท โดยการสะสมสินค้าคงคลังลดลงในสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และเหมืองแร่ คาดว่าเป็นการลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง ปัจจัยหลักจากภาคการส่งออกที่หดตัวลงต่อเนื่อง ทำให้ภาคธุรกิจมีความกังวลต่อกำลังซื้อที่ยังไม่เข้มแข็ง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญ จึงลดการสตอกสินค้าในช่วงที่ผ่านมา


ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่มีความไม่แน่นอนสูงและมีแนวโน้มทำให้การจัดทำ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 มีความล่าช้าออกไป ซึ่งจะกระทบต่อการเบิกใช้จ่ายงบประมาณในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 (หรือไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2567) โดยปกติการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำสามารถดำเนินได้ตามกรอบงบประมาณเดิมในปีก่อนขณะที่การเบิกจ่ายด้านการลงทุนอาจได้รับผลกระทบจากการอนุมัติโครงการลงทุนใหม่ที่ล่าช้ากว่าคาด เช่นเดียวกับในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 ที่เคยเกิดปัญหาการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้าจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และกระทบการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายด้านการลงทุน ซึ่งต่ำกว่าช่วงปกติถึง 70% ในไตรมาสที่4 ของปี 2562 

Krungthai COMPASS ประเมินว่าการจัดทำ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 มีแนวโน้มล่าช้าออกไปอย่างน้อย 1 ไตรมาส ซึ่งจะกระทบต่อการเบิกใช้จ่ายงบประมาณด้านการลงทุนเป็นสำคัญ และคาดว่าจะกระทบต่อการลงทุนภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2-0.4 % ของ GDP ปี 2566 ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันทำให้เศรษฐกิจปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ .–สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นเสี่ยงร่วมกระทำผิด

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง