ศุลกากรแหลมฉบัง แจงหมูตกค้าง

ท่าเรือแหลมฉบัง 9 ส.ค.-ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เร่งเคลียร์หมูแช่แข็งตกค้าง และตู้สินค้าคงค้าง


สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จัดประชุมเพื่อชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการกับของตกค้างประเภทสุกรแช่แข็งที่ตกเป็นของแผ่นดิน และตู้สินค้าคงค้างอื่นภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง โดยเฉพาะสุกรแช่แข็ง 161 ตู้ ได้ดำเนินคดีอาญากับตู้สินค้าดังกล่าว และการดำเนินการกับตู้สินค้าคงค้างอื่นภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับผู้แทนจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี กรมปศุสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ผู้ประกอบการสายการเดินเรือ และสมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์ (TICTA)ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีตู้สินค้าคงค้างภายในเขตท่าเรือแหลมฉบังจำนวนกว่าพันตู้  ทั้งตู้สินค้าเก็บความเย็น ตู้สินค้าทั่วไป และตู้สินค้าอันตราย

รวมทั้งตู้สินค้าที่บรรจุของตกค้างประเภทสุกร แช่แข็งที่ตกเป็นของแผ่นดิน ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้า ค่าเสียโอกาสจากการใช้พื้นที่จัดเก็บ ตู้สินค้า และเสียเวลาในการขนย้ายตู้สินค้าคงค้างเพื่อจัดเรียงตู้สินค้าใหม่ เนื่องจากท่าเรือแหลมฉบังไม่มีสถานที่สำหรับเก็บรักษาของกลางและของตกค้างเป็นการเฉพาะภายในเช่นเดียวกับคลังสินค้าตกค้างภายในท่าเรือกรุงเทพ ทำให้ต้องฝากเก็บไว้ในแต่ละท่าเรือเอกชนในปัจจุบัน ก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบกับหลายหน่วยงาน เช่น ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ตัวแทนเรือ ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และการท่าเรือแห่งประเทศไทย นั้น


ปัจจุบันตู้สินค้าคงค้างในท่าเรือแหลมฉบัง ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2566 มีทั้งสิ้น 937 ตู้ (ได้แก่ ตู้สินค้าทั่วไป 679 ตู้ และตู้สินค้าเก็บความเย็น 258 ตู้) แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

  1. ตู้สินค้าอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จำนวน 254 ตู้ (ได้แก่ ตู้สินค้าทั่วไป 246 ตู้ และ ตู้สินค้าเก็บความเย็น 8 ตู้)
  2. ตู้สินค้าที่ดำเนินการเสร็จสิ้นในขั้นศุลกากรโดยอยู่ระหว่างการขายทอดตลาด/ส่งมอบ/ทำลาย จำนวน 538 ตู้ (ได้แก่ ตู้สินค้าทั่วไป 298 ตู้ และตู้สินค้าเก็บความเย็น 240 ตู้)
  3. ตู้สินค้าที่เป็นของกลางในคดีอาญา ไม่สามารถขายทอดตลาด/ส่งมอบ/ทำลาย โดยต้องรอผลคดี จำนวน 145 ตู้ (ได้แก่ ตู้สินค้าทั่วไป 135 ตู้ และตู้สินค้าเก็บความเย็น 10 ตู้)

สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินการเกี่ยวกับของกลางและของตกค้าง และของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดินในปีงบประมาณ 2564 และ 2565 ได้ขายทอดตลาด/ส่งมอบ/ทำลาย รวมทั้งสิ้น 342 ตู้ โดยในปีงบประมาณ 2564 จำนวน 204 ตู้ และปีงบประมาณ 2565 จำนวน 138 ตู้  ในส่วนปีงบประมาณ 2566 นั้น ได้ดำเนินการเกี่ยวกับตู้สินค้าของกลางของตกค้าง และของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดิน เรียบร้อยแล้ว จำนวน 54 ตู้
  
 
สำหรับตู้สินค้าตกค้างประเภทสุกรแช่แข็งที่ตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 161 ตู้ นั้น ได้มีการเปิดสำรวจอย่างต่อเนื่องในรูปเเบบของคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษเเละกรมปศุสัตว์ จนสำรวจเเล้วเสร็จทั้ง 161 ตู้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566  และปัจจุบัน สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้เตรียมการส่งมอบสินค้าประเภทสุกรดังกล่าวให้กรมปศุสัตว์เพื่อนำไปดำเนินการทำลาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ และรอผลสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า การทำลายสินค้าดังกล่าวซึ่งเป็นของกลางในคดีอาญา จะส่งผลให้ขาดพยานหลักฐานหรือเสียรูปคดีหรือไม่ หากสรุปชัดเจน จะรีบดำเนินการในลำดับต่อไปทันที พร้อมกันนี้ได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการสายเดินเรือ เพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินการกับของกลางดังกล่าว ซึ่งได้รับการประสานงานในเบื้องต้นแล้วว่า ผู้ประกอบการสายเดินเรือรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำลาย จำนวน 97 ตู้ ส่วนตู้ที่เหลืออีก 64 ตู้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของบริษัทแม่ของผู้ประกอบการสายเดินเรือแต่ละราย

กรมศุลกากรขอย้ำว่า เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ในกรณีที่มีการตรวจพบความผิดซึ่งสินค้าประเภทสุกร ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรทำการจับกุมเเละดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนโดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร โดยกรมฯ พร้อมอํานวยความสะดวกและสนับสนุนพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมตรวจสอบ ตลอดจนพร้อมป้องกันการลักลอบการนำเข้าสินค้าเกษตร โดยเฉพาะเนื้อสุกรที่มีเชื้อโรคและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

เร่งคลี่คลายคดีฆ่ายัดกระสอบหมกป่าหญ้าข้างทาง

ตำรวจเรียกสอบ 6 บุคคลต้องสงสัย เร่งคลี่คลายคดีฆ่ายัดกระสอบหมกป่าหญ้าข้างทาง อ.แม่สอด จ.ตาก ด้านลูกชาย ยืนยันศพที่พบเป็นแม่ ใส่ชุดกีฬาของน้องสาว หายออกจากบ้านนานกว่า 1 เดือน

น้ำตาท่วมวัด ฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ

จังหวัดบึงกาฬ จัดพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำที่จังหวัดปราจีนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอาลัยของญาติและประชาชนในพื้นที่

จเรตำรวจนำทีม ตม.รับตัว 119 คนไทยจากปอยเปต

จเรตำรวจแห่งชาติ นำทีม ตม. รับตัว 119 คนไทยร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากปอยเปต เตรียมคัดแยกเหยื่อและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกราย พบมีหมายจับบัญชีม้า 7 ราย