“วิโรจน์” แฉ ช่างตรวจสภาพรถ รวยเวอร์

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.-“วิโรจน์” แฉ ช่างตรวจสภาพรถ รวยเวอร์ บางคนรายได้เดือนละ 8 แสน มีเครื่องบินเล็ก-บ้านพักหรู ด้านรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกแจงขั้นตอนรถจดทะเบียนใหม่  โดยต้องตรียมเอกสารหลักฐานและค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนรถ และการดำเนินการโอนรถจากผู้ให้เช่าซื้อ 


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉช่างตรวจสภาพรถของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีรายได้สูงกว่าปกติ โดยนายวิโรจน์ ทวิตข้อความว่า “ตรวจนอก” เป็นช่องทางที่ไม่ได้ตรวจสภาพรถจริง แต่ช่างตรวจสภาพรถจำนวนไม่น้อย ของกรมการขนส่วทางบก ได้เงินจากการตรวจรถทิพย์ ประชาชนที่ออกรถใหม่ ต้องถูกมักมือชก มีค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น สำหรับรถมือสองก็เอื้อประโยชน์ให้ขบวนการลักรถ ซื้อซากรถอุบัติเหตุ มาสวมทะเบียนรถที่ขโมยมา

นายวิโรจน์ ระบุ ถ้าดูรายการทรัพย์สินของ ช่างตรวจสภาพรถบางคน จะพบข้อสงสัยว่าเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ บางคนมีอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าถึง 3 แห่ง มีเครื่องบินเล็ก มีบ้านพักหรู มีรถแพงๆ ขับ แหล่งข่าวระบุว่า รายได้ของช่างตรวจสภาพรถบางคน สูงถึงเดือนละ 500,000-800,000 บาท


ก่อนหน้านี้ นายวิโรจน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ค่าใช้จ่ายในการออกรถใหม่ และค่าโอนรถเวลาผ่อนครบ ทำไมมันแพงจัง แล้วที่จ่ายไปมันเข้าหลวง หรือเข้าใคร แล้วการตรวจสภาพรถ นี่ตรวจกันจริงๆ หรือว่าตรวจทิพย์ 

ปกติจะเวลาออกรถใหม่ เราต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการออกรถ เท่าไหร่ครับ เวลาผ่อนครบทุกงวดแล้ว เราต้องเตรียมค่าโอนเท่าไหร่ครับ แล้วมีใบเสร็จรับเงินจากกรมการขนส่งทางบกหรือเปล่า ใบเสร็จระบุยอดเงินเท่าไหร่ครับ

“ทำไมจ่ายเป็นหลักพัน แต่ใบเสร็จที่ได้มาเป็นหลักร้อย เงินที่จ่ายแบบไม่มีบิล มันไปอยู่ที่ไหนอ่ะครับ ไปอยู่ที่นายช่างตรวจสภาพรถ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนบางคน หรือเปล่า ถ้าเงินที่จ่ายไปเป็นการจ่ายเกินอย่างที่ไม่ควรจะเป็น อย่างปี 2565 ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มีการจดทะเบียนใหม่ 487,262 คัน รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ 455,326 คัน ปีๆ หนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท แล้วผ่านมาเป็นสิบๆ ปี มูลค่ามันมหาศาลเชียวนะครับแล้วในใบเสร็จที่ระบุว่า ค่าตรวจสภาพรถ นี่มีนายช่างมาตรวจสภาพรถนอกสถานที่ให้จริงๆ หรือครับ”นายวิโรจน์กล่าว


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ผู้มีความประสงค์ดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ ต้องใช้เอกสารหลักฐานประกอบการจดทะเบียนรถ ดังนี้ 

1. แบบคำขอจดทะเบียน 

2. หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่าย

3. หลักฐานการได้มาของรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี สัญญาเช่าซื้อ เป็นต้น 

4. หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครอง 

5. หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือรับรองนิติบุคคล หรือใบสำคัญประจำตัว

คนต่างด้าว แล้วแต่กรณี 

6. กรณีเจ้าของรถไม่ได้มาดำเนินการด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบหลักฐานประจำตัวผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ

ส่วน  ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถใหม่ มีดังนี้  

1. ค่าคำขอ คำขอละ 5 บาท 

2. ค่าตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ ครั้งละ 10 บาท /ค่าตรวจสภาพรถยนต์และรถอื่น ครั้งละ 50 บาท 

3. ค่าใบคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท

4. ค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถ แผ่นละ 100 บาท 

5. ค่าภาษีประจำปี

สำหรับกรณีเมื่อผู้เช่าซื้อ ผ่อนชำระค่างวดรถหมดแล้ว  หากเป็นการโอนปิดบัญชีจากสถาบันทางการเงินมายังผู้เช่าซื้อจะได้รับการยกเว้นการตรวจสภาพ โดยผู้เช่าซื้อชำระเพียงค่าธรรมเนียมคำขอ 5 บาท และค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท รวมเป็นเงิน 105 บาท  โดยเอกสารหลักฐานประกอบคำขอโอนรถโดยการเช่าซื้อ 

1. แบบคำขอโอนและรับโอน

2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ

3. สำเนาสัญญาเช่าซื้อ 

4. ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าซื้อ และใบกำกับภาษีงวดสุดท้าย พร้อมหนังสือยืนยันการชำระเงินครบถ้วนตามสัญญา

5. หลักฐานประจำตัวผู้โอนและผู้รับโอน

ทั้งนี้ การตรวจสภาพรถที่นำมาจดทะเบียนรถใหม่เป็นการดำเนินการตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ กล่าวคือ รถที่จะจดทะเบียนต้องมีเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และผ่านการตรวจสภาพจากนายทะเบียน อย่างไรก็ตามจากประเด็นที่ปรากฏจากสื่อมวลชนว่า ทำไมรถใหม่ยังต้องนำรถมาตรวจสภาพอีกนั้น กรมการขนส่งทางบกจะเร่งประสานผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ผลิตรถ สถาบันการเงิน(ไฟแนนซ์ ลิสซิ่ง) เพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบมิให้เกิดภาระหรือความยุ่งยากกับประชาชน โดยประชาชนที่ประสงค์จะจดทะเบียนรถด้วยตนเอง สามารถนำเอกสารจากสถาบันการเงินผู้แทนจำหน่ายมายื่นจดทะเบียนได้ทันทีและเสียค่าธรรมเนียมและภาษีรถตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องทำการตรวจสอบรถอีกดังเช่นปัจจุบัน  

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้  กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุง แก้ไข เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการ จดทะเบียนรถเพื่อ เนื่องจากเกิดการใช้รถไม่จดทะเบียน ทำให้ภาครัฐขาดรายได้จากการเสียภาษีรถประจำปี โดยจะประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเพื่อทำความเข้าใจให้กับประชาชนผู้ซื้อรถ และบริษัทผู้ผลิตรถ สถาบันการเงิน(ไฟแนนซ์หรือลิสซิ่ง) รวมทั้งผู้แทนจำหน่ายรถให้ปรับตัว และเกิดความสะดวกในการดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย