“วิโรจน์” แฉ ช่างตรวจสภาพรถ รวยเวอร์

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.-“วิโรจน์” แฉ ช่างตรวจสภาพรถ รวยเวอร์ บางคนรายได้เดือนละ 8 แสน มีเครื่องบินเล็ก-บ้านพักหรู ด้านรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกแจงขั้นตอนรถจดทะเบียนใหม่  โดยต้องตรียมเอกสารหลักฐานและค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนรถ และการดำเนินการโอนรถจากผู้ให้เช่าซื้อ 


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉช่างตรวจสภาพรถของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีรายได้สูงกว่าปกติ โดยนายวิโรจน์ ทวิตข้อความว่า “ตรวจนอก” เป็นช่องทางที่ไม่ได้ตรวจสภาพรถจริง แต่ช่างตรวจสภาพรถจำนวนไม่น้อย ของกรมการขนส่วทางบก ได้เงินจากการตรวจรถทิพย์ ประชาชนที่ออกรถใหม่ ต้องถูกมักมือชก มีค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น สำหรับรถมือสองก็เอื้อประโยชน์ให้ขบวนการลักรถ ซื้อซากรถอุบัติเหตุ มาสวมทะเบียนรถที่ขโมยมา

นายวิโรจน์ ระบุ ถ้าดูรายการทรัพย์สินของ ช่างตรวจสภาพรถบางคน จะพบข้อสงสัยว่าเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ บางคนมีอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าถึง 3 แห่ง มีเครื่องบินเล็ก มีบ้านพักหรู มีรถแพงๆ ขับ แหล่งข่าวระบุว่า รายได้ของช่างตรวจสภาพรถบางคน สูงถึงเดือนละ 500,000-800,000 บาท


ก่อนหน้านี้ นายวิโรจน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ค่าใช้จ่ายในการออกรถใหม่ และค่าโอนรถเวลาผ่อนครบ ทำไมมันแพงจัง แล้วที่จ่ายไปมันเข้าหลวง หรือเข้าใคร แล้วการตรวจสภาพรถ นี่ตรวจกันจริงๆ หรือว่าตรวจทิพย์ 

ปกติจะเวลาออกรถใหม่ เราต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในการออกรถ เท่าไหร่ครับ เวลาผ่อนครบทุกงวดแล้ว เราต้องเตรียมค่าโอนเท่าไหร่ครับ แล้วมีใบเสร็จรับเงินจากกรมการขนส่งทางบกหรือเปล่า ใบเสร็จระบุยอดเงินเท่าไหร่ครับ

“ทำไมจ่ายเป็นหลักพัน แต่ใบเสร็จที่ได้มาเป็นหลักร้อย เงินที่จ่ายแบบไม่มีบิล มันไปอยู่ที่ไหนอ่ะครับ ไปอยู่ที่นายช่างตรวจสภาพรถ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนบางคน หรือเปล่า ถ้าเงินที่จ่ายไปเป็นการจ่ายเกินอย่างที่ไม่ควรจะเป็น อย่างปี 2565 ที่ผ่านมา รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน มีการจดทะเบียนใหม่ 487,262 คัน รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ 455,326 คัน ปีๆ หนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท แล้วผ่านมาเป็นสิบๆ ปี มูลค่ามันมหาศาลเชียวนะครับแล้วในใบเสร็จที่ระบุว่า ค่าตรวจสภาพรถ นี่มีนายช่างมาตรวจสภาพรถนอกสถานที่ให้จริงๆ หรือครับ”นายวิโรจน์กล่าว


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ผู้มีความประสงค์ดำเนินการจดทะเบียนรถใหม่ ต้องใช้เอกสารหลักฐานประกอบการจดทะเบียนรถ ดังนี้ 

1. แบบคำขอจดทะเบียน 

2. หนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่าย

3. หลักฐานการได้มาของรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี สัญญาเช่าซื้อ เป็นต้น 

4. หลักฐานการทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครอง 

5. หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือรับรองนิติบุคคล หรือใบสำคัญประจำตัว

คนต่างด้าว แล้วแต่กรณี 

6. กรณีเจ้าของรถไม่ได้มาดำเนินการด้วยตนเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบหลักฐานประจำตัวผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ

ส่วน  ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถใหม่ มีดังนี้  

1. ค่าคำขอ คำขอละ 5 บาท 

2. ค่าตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ ครั้งละ 10 บาท /ค่าตรวจสภาพรถยนต์และรถอื่น ครั้งละ 50 บาท 

3. ค่าใบคู่มือจดทะเบียนรถ 100 บาท

4. ค่าแผ่นป้ายทะเบียนรถ แผ่นละ 100 บาท 

5. ค่าภาษีประจำปี

สำหรับกรณีเมื่อผู้เช่าซื้อ ผ่อนชำระค่างวดรถหมดแล้ว  หากเป็นการโอนปิดบัญชีจากสถาบันทางการเงินมายังผู้เช่าซื้อจะได้รับการยกเว้นการตรวจสภาพ โดยผู้เช่าซื้อชำระเพียงค่าธรรมเนียมคำขอ 5 บาท และค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท รวมเป็นเงิน 105 บาท  โดยเอกสารหลักฐานประกอบคำขอโอนรถโดยการเช่าซื้อ 

1. แบบคำขอโอนและรับโอน

2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ

3. สำเนาสัญญาเช่าซื้อ 

4. ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าซื้อ และใบกำกับภาษีงวดสุดท้าย พร้อมหนังสือยืนยันการชำระเงินครบถ้วนตามสัญญา

5. หลักฐานประจำตัวผู้โอนและผู้รับโอน

ทั้งนี้ การตรวจสภาพรถที่นำมาจดทะเบียนรถใหม่เป็นการดำเนินการตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ กล่าวคือ รถที่จะจดทะเบียนต้องมีเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และผ่านการตรวจสภาพจากนายทะเบียน อย่างไรก็ตามจากประเด็นที่ปรากฏจากสื่อมวลชนว่า ทำไมรถใหม่ยังต้องนำรถมาตรวจสภาพอีกนั้น กรมการขนส่งทางบกจะเร่งประสานผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ผลิตรถ สถาบันการเงิน(ไฟแนนซ์ ลิสซิ่ง) เพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎระเบียบมิให้เกิดภาระหรือความยุ่งยากกับประชาชน โดยประชาชนที่ประสงค์จะจดทะเบียนรถด้วยตนเอง สามารถนำเอกสารจากสถาบันการเงินผู้แทนจำหน่ายมายื่นจดทะเบียนได้ทันทีและเสียค่าธรรมเนียมและภาษีรถตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่ต้องทำการตรวจสอบรถอีกดังเช่นปัจจุบัน  

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้  กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุง แก้ไข เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการ จดทะเบียนรถเพื่อ เนื่องจากเกิดการใช้รถไม่จดทะเบียน ทำให้ภาครัฐขาดรายได้จากการเสียภาษีรถประจำปี โดยจะประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเพื่อทำความเข้าใจให้กับประชาชนผู้ซื้อรถ และบริษัทผู้ผลิตรถ สถาบันการเงิน(ไฟแนนซ์หรือลิสซิ่ง) รวมทั้งผู้แทนจำหน่ายรถให้ปรับตัว และเกิดความสะดวกในการดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่