เปิดแล้ว มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023”

21 มิ.ย. – เปิดแล้ว “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023” ชมเครื่องจักรรุ่นใหม่กว่า 2,000 แบรนด์ พร้อมงาน “ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023” ยกเครื่ององค์ความรู้ยานยนต์สมัยใหม่


เปิดแล้ว มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo) 2023” พร้อมกับงาน “ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023” อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เชิญชวนนักอุตสาหการทุกแขนง เข้าชม 8 งานแสดงสินค้าเฉพาะทาง และพื้นที่พาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ชมสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องจักรและบริการล้ำสมัยกว่า 2,000 แบรนด์จาก 30 ประเทศ พร้อมจับมือหน่วยงานภาครัฐ จัดองค์ความรู้ 5 ฟอรั่มใหญ่ รวมกว่า 50 หัวข้อสัมมนา คาดคนชมงานไม่ต่ำกว่า 70,000 คน

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023 และงาน ออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023 “พลิกโฉมอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” ที่เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันยานยนต์ กับ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ที่ได้จัดงานร่วมกันมาปีนี้เป็นปีที่ 10 และเป็นปีที่สถาบันยานยนต์ครบรอบปีที่ 25 ว่า การจัดงานในลักษณะ 8-in-1 Mega Event ที่อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ได้นำอุตสาหกรรมการผลิตเฉพาะทาง 5 งาน พร้อมด้วยงานเพื่ออุตสาหกรรมสนับสนุนอีก 3 งานมาจัดแสดงรวมกันภายใต้มหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุน หรือ “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023” ในปีนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดี เพราะขนาดของงานที่ใหญ่กว่าการจัดงานในปีก่อนที่จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมไทยทั้งในฝั่งผู้ผลิตและผู้นำเสนอเทคโนโลยี อีกทั้งความกระตือรือร้นของนักลงทุนต่างชาติที่มองเห็นโอกาสของธุรกิจด้วยการเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก


กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิตภายใต้แนวคิดอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพใน Supply Chain โดยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการใช้หุ่นยนต์ หรือเครื่องจักรกลอัตโนมัติ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการวางแผนและบริหารการผลิตแบบ real time โดยผลักดันการพัฒนาผ่านมาตรการต่างๆ มาโดยตลอด เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) กล่าวถึงงานมหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนที่ครบครันที่สุดในอาเซียน หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป (Manufacturing Expo 2023) ว่า ได้เปิดให้เข้าชมงานแล้ววันนี้ (21 มิถุนายน) เป็นวันแรก และงานจะมีไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2566 โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักคือ ‘The Path’ ที่หมายถึง ‘เส้นทาง’ ที่จะสื่อว่า นักอุตสาหการที่มาเยี่ยมชมงานนี้ จะได้พบกับ ‘เส้นทาง’ สู่ความสำเร็จ ซึ่งการจัดแสดงงานในปีนี้ มีผู้แสดงสินค้าชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลังจากห่างหายไม่สามารถมาร่วมงานได้เป็นเวลาสองปี ทำให้ผู้เข้าชมงานในปีนี้ มีโอกาสได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นจากหลายประเทศ รวมทั้งในพาวิลเลี่ยนนานาชาติจาก 6 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ ได้แก่ เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง

ภายในงาน แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป จะมีด้วยกัน 8 งานแสดง และยังมีพื้นที่ส่วนแสดงพิเศษ ได้แก่ “Sustainovation Showcase” แสดงกระบวนการผลิตสินค้าพลาสติกชีวภาพ “EV Conversion Zone” จัดแสดงการเปลี่ยนยานยนต์สันดาปภายในดั้งเดิมเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% พร้อมเปิดตัวรถวิ่งไปชาร์จไปในตัว และพบต้นตำรับที่ชาร์จรถยนต์ไร้สายของไทย “Service Robot Zone” จัดแสดงหุ่นยนต์ภาคบริการเชิงพาณิชย์ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสุดล้ำและชมการสาธิตชงม็อกเทลสูตรพิเศษโดยบาร์เทนเดอร์ Cobot “GFT Industry Mind Map” จัดแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักรสุดล้ำเพื่อใช้ผลิตเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอสำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ การตกแต่งภายใน โรงงานอุตสาหกรรม และยานยนต์ “Fashion Showcase” จัดแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่น “GFT Display” จัดแสดงชุดคอสตูมที่ผลิตขึ้นจากวัสดุของผู้แสดงสินค้า ภายใต้การออกแบบของโรงเรียนบุนกะแฟชั่น (BUNKA Fashion School) “Printing Tech Talks” เวทีพูดคุยแนะนำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันค้นหาสุดยอดช่างเชื่อม ใน IPC Hand Soldering & Rework Competition เพื่อหาผู้ชนะไปแข่งในสนามระดับโลก พร้อมกับรับชมเนื้อหา เทคโนโลยี และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาจัดแสดง ทั้งผู้ให้บริการในส่วนแสดงพิเศษ “Tools & Tooling Zone” และ “Metrology Zone” รวมถึงพื้นที่สัมมนาทางวิชาการที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อัพเดทเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน 5 ฟอรั่มกับหัวข้อสัมมนากว่า 50 หัวข้อที่จะเป็นองค์ความรู้สำคัญสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาอีกด้วย


“อาร์เอ็กซ์เทรดเด็กซ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่าน จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมงานแมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป และออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023 เชื่อว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่มารวมตัวกันในวันนี้ จะเป็นบ่อเกิดของพลังที่เติมเต็มให้กับอุตสาหกรรมการผลิตและสนับสนุนให้พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้า มีความร่วมสมัย พร้อมที่จะปรับตัว และเติบโตต่อไปอย่างเข้มแข็งในโลกอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และขอให้พบเส้นทางสู่ความสำเร็จอย่างสวยงาม” นางวราภรณ์สรุป

ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี นวัตกรรม และระบบการทำงาน ที่มีปัจจัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพราะหัวใจการขับเคลื่อนยานยนต์คือเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนมาเป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หรือเซลล์เชื้อเพลิง หรือการขับขี่ที่มีคนขับก็เปลี่ยนมาเป็นระบบอัตโนมัติหรือยานยนต์ไร้คนขับ งานออโตโมทีฟ ซัมมิท 2023 จะตอบโจทย์ในการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมสนับสนุน และยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางวิชาการ เทคนิค และทราบถึงแนวโน้มในการพัฒนายานยนต์ในด้านต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในทุกภาคส่วน เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าสู่ยานยนต์สมัยใหม่ได้อย่างราบรื่น

งานแมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2023 จะมีไปจนถึงวันที่ 24 มิถุนายน 2566 ณ ฮอลล์ 98-104 ไบเทค บางนา . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน เศรษฐกิจ-ความมั่นคง-ภัยพิบัติ-สังคม เข้มปราบยา-พนันออนไลน์ ย้ำรัฐบาลนี้ไม่กาสิโน ลั่นทำงานไม่มีวันหยุด อาจประชุม ครม. มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงผลการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมนัดพิเศษเป็นครั้งแรก ซึ่งได้มีการรับทราบถึงวาระสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะทำการแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเรากำลังรอคำยืนยันจากประธานรัฐสภาอยู่ คาดว่าต้นสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนโยบายของรัฐบาล มีสาระสำคัญ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ การลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ผลักดันโครงการคนละครึ่ง ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีค่าครองชีพ มีรายจ่ายลดลง นอกจากนั้น ในด้านพลังงาน จะสนับสนุนประชาชนได้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น สะดวกขึ้น […]

สีสันรัฐมนตรีรวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร

24 ก.ย. – ทำเนียบกลับมาคึกคัก หลังรัฐมนตรีมารวมตัว ถ่ายรูปทำบัตร วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เห็นตัวรัฐมนตรี และครบทั้งคณะ งานนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสัน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.ถวายสัตย์ฯ

ทำเนียบ 24 ก.ย.-นายกฯ ปลื้มปีติเสียงสั่นน้ำตาคลอ ซาบซึ้งหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ลั่นพร้อมทำงานสุดความสามารถ สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล หลังจากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทันทีที่มาถึง ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราโชวาทอย่างไรบ้าง โดยนายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอ ว่า คณะรัฐมนตรีทุกคนได้รับพระราชทานพร และพระบรมราโชวาท ตนเชื่อว่า คณะรัฐมนตรีทุกท่านมีความปลื้มปีติ และจะต้องทำงานสนองพระเดชพระคุณ และสนองพระมหากรุณาธิคุณอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต สุดสมองของแต่ละท่านที่มีอยู่ เป็นมงคลสูงสุดที่พวกเราได้รับ ผู้สื่อข่าวกระเซ้านายกฯ ว่า ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ นายอนุทิน ยิ้ม และพยักหน้ารับ ก่อนย้ำว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สามัญชนอย่างตนพึงได้รับ จะไม่มีทางทำอะไรนอกจากทำคุณงามความดีให้กับประเทศและประชาชน ตามพระราชดำรัสที่ได้รับสั่งไว้ เมื่อถามว่า ยอมสละชีวิตได้ทุกอย่างเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “สละทั้งชีวิตให้ราชบัลลังก์ ซึ่งทำมานานแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม”.-319.-สำนักข่าวไทย

สนง.เขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – สำนักงานเขตดุสิต ประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ใกล้พื้นที่ถนนทรุดตัว หน้า รพ.วชิรพยาบาล กรณีเกิดถนนทรุดตัวขนาดใหญ่บริเวณถนนสามเสน ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกวชิรพยาบาล ถึงแยกราชวิถี ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาการจราจร การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก ตลอดจนสิ่งสาธารณะของประชาชนได้รับความเสียหายในพื้นที่ และถนนอาจทรุดตัวเพิ่มใกล้อาคารที่อยู่บริเวณถนนสุโขทัย แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นอาคารดังกล่าวอาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เห็นควรหยุดใช้อาคาร หากมีการใช้อาคารอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้อาคารได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงานเขตดุสิต จึงประกาศห้ามเข้า ห้ามใช้อาคาร ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร […]