เปิดงาน IP Local Market ภูมิปัญญาท้องถิ่นแหล่งท่องเที่ยว

นนทบุรี 20 มิ.ย.-กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ นำสินค้าชุมชนมาจัดแสดงและจำหน่าย ในงาน “IP Local Market : ชอป ชิม ชม สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณค่าทรัพย์สินทางปัญญาชุมชน” เพื่อผลักดันผู้ประกอบการสินค้าชุมชนให้ใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญา สร้างรายได้ชุมชนท้องถิ่น ให้เข้มแข็ง ระหว่างวันที่ 20 – 25 มิถุนายน 2566 ที่เซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต ขณะที่กลุ่มผู้ค้าสินค้าไอพีวอนรัฐบาลชุดใหม่เร่งหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีขึ้นโดยเร็ว


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กว่า 3 ปีที่ผ่านมา กรมฯ ได้ส่งเสริมสินค้าชุมชนในแหล่งท่องเที่ยวให้ได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ่านโครงการพัฒนาต่อยอดสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมด้วยทรัพย์สินทางปัญญา โดยสนันสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ตั้งแต่การเริ่มต้นออกแบบโลโก้ ไปจนถึงการยื่นขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ นครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ราชบุรี นครสวรรค์ และสมุทรสงคราม โดยมีสินค้าท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพไปแล้วทั้งสิ้น 58 สินค้า และได้รับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ รวม 32 สินค้า

ทั้งนี้ กรมฯ ตั้งเป้ายกระดับสินค้าชุมชนด้วยทรัพย์สินทางปัญญาให้ครอบคลุมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับผู้ประกอบการสินค้าชุมชนในแหล่งท่องเที่ยวอื่นต่อไป โดยภายในงานได้คัดสรรสินค้าชุมชนจากโครงการฯ ที่มีเอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นมีความเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยว มาจัดแสดงและจำหน่ายกว่า 20 สินค้า เช่น ผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า ผ้าบาติก กาแฟมะดัน ปลาสลิดกรอบ ซอสมะม่วง เป็นต้น รวมทั้งนำภาคเอกชนมาร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท้องถิ่น และเซ็นสัญญาซื้อขายสินค้าล่วงหน้า เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน


อย่างไรก็ตาม กรมทรัพย์สินทางปัญญาขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนสินค้าสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยในงาน “IP Local Market : ชอป ชิม ชม สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณค่าทรัพย์สินทางปัญญาชุมชน” ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2566 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต โดยในงานมี Workshop และกิจกรรมพิเศษมากมายให้ร่วมสนุกลุ้นรับคูปองไว้ใช้แลกซื้อสินค้าภายในงานทุกวันอีกด้วย

น.ส.สุราวรรณ วงค์ฟัก เจ้าของร้านภูมิในปลาสลิด จังหวัดฉะเชิงเทรากล่าวว่า ในช่วงที่ปัญหาโควิดเบาบางลงเช่นนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยจะออกมาทำตลาด โดยสินค้าปลาสลิดที่ทางร้านได้รับเป็นสินค้าจีไอ ถือว่าเป็นสินค้าที่ได้รับการย่อมรับจากหน่วยงานภาครัฐและดูแลคุณภาพสินค้าดีต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งในช่วงที่ไทยเกิดแัญหาการแพร่ระบาดโควิดเกิดขึ้นทุกอย่างไม่สามารถขายได้จึงปรับเปลี่ยนมาขายทางออนไลน์และเป็นที่ต้องการของลูกค้าที่ต้องอยู่กับบ้าน แต่ช่วงหลังมานี้เกิดสิ่งที่ลอกเลียนแบบขายสินค้าปลาสลิดไม่ได้มาตรฐานและตัดราคากันเอง จนทำให้ลูกค้าที่สั่งออนไลน์ไม่กล้าสั่งซื้อมาบริโภคกัน

อย่างไรก็ตาม ช่วงโควิดระบาดที่หันมาทำธุรกิจออนไลน์ยอดส่งซื้อต่อวันเกิน 1 ตันขึ้นไป แต่หลังจากโควิดเบาลงกลับขายต่อวันได้เพียง 200 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งหากเลือกได้ก็ไม่อยากให้มีโควิดเกิดมาอีกแม้จะขายสินค้าปลาสลิดได้เยอะแต่ก็เกิดปัญหาลอกเลียนแบบสินค้าไม่ได้ดี ดังนั้น การทำตลาดออกร้านตามห้างและตลาดสดเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบร้านค้าต้องการและสิ่งที่อยากได้ในการช่วยเหลือของรัฐบาลชุดใหม่ หามาตรการกระตุ้นให้รากหญ้ามีงานมีเงินมากกว่านี้ เพราะแม้ว่าโควิดดีขึ้น แต่เศรษฐกิจของประเทศยังดูแย่ลงมายาวนาน จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาดีขึ้นโดยเร็วและหวังเป็นอย่างมากด้วย


น.ส.ภิญญุดา กลิ่นระคนธ์ ประธานกลุ่มอาชีพชุมชนท่าทราย ผ้าบาติกและมัดย้อม”มายมัดย้อม” จังหวัดนครนายกกล่าวว่า จากปัญหาโควิดช่วงที่ผ่านมาทำให้ยอดขายสินค้าเสื้อผ้าของกลุ่มที่ทำจากฝีมือชุมชนขายได้น้อยมาก แต่พอหลังโควิดจางลงไปบ้างยอดขายเสื้อผ้าของกลุ่มเริ่มขายได้ดีขึ้น และจากมาตรการภาครัฐโดยเฉพาะกรมทรัพย์สินทางปัญญาให้กลุ่มมาออกงานโชว์และขายสินค้าดีขึ้นพอสมควร ดังนั้น สิ่งที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จะต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาดีขึ้น และเห็นว่าสินค้าของกลุ่มที่ผลิตด้วยฝีมือคนในชุมชนอย่างแท้จริงควรส่งเสริมให้สามารถออกไปขายยังต่างประเทศให้มากขึ้น เพราะสินค้าเสื้อผ้าไทยไม่แพ้ใครในโลก หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐได้ดีและต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย