EXIM BANK จับมือ NEXI คุ้มครองความเสี่ยงเอกชนไทย-ญี่ปุ่น

กรุงเทพฯ 7 มิ.ย.- EXIM BANK จับมือ NEXI คุ้มครองความเสี่ยงให้ผู้ประกอบการไทย-ญี่ปุ่น ขยายการค้าการลงทุนlสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง JTRO หวั่นค่าแรง ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ประเทศเพื่อนบ้านป้อนชิ้นส่วนThailand+1 


 นายพสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วยนายโอบะ ยูอิจิ อุปทูตรักษาสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา “EXIM Thailand and NEXI Collaboration: A New Chapter Begins”   EXIM BANK ร่วมกับองค์กรรับประกันแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEXI)  เพื่อร่วมมือทางการเงินทั้งสินเชื่อและเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง  หวังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ด้านการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง  ปัจจุบันประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เป็นตลาดใหม่ (New Frontiers) ที่มีศักยภาพสูงด้านการค้าและการลงทุน  สปป.ลาว จึดีพีขยายตัวร้อยละ 4.2   กัมพูชา ขยายตัวร้อยละ 4.3 เวียดนามขยายตัวร้อยละ 5.8 อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 

ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง  และมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน  โดยเฉพาะแรงงานราคาถูก ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์  จำนวนผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น การขยายตัวของชุมชนเมืองและการพัฒนาอุตสาหกรรม  เสถียรภาพทางการเมือง และข้อตกลงการค้าเสรีระดับทวิภาคีและพหุภาคี จัดทำFTA  ถึง 30 ฉบับ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ประกอบการจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกให้หลั่งไหลเข้าไปลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงใช้ประเทศเหล่านี้เป็นฐานการผลิตสินค้าและดำเนินธุรกิจบริการ รองรับการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศที่สาม อาทิ จีนและอินเดีย โดยมีผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าไปเติมเต็มและเชื่อมโยงกับ Supply Chain การค้าโลก


นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ก้าวใหม่ความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และNEXI ในโลกการค้ายุคใหม่ จึงมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือในการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน ทั้งบริการประกันการส่งออกและการลงทุน และการรับประกันต่อ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น ขยายผลสู่การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในภูมิภาคเอเชียร่วมกัน  เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในอีก 10 ปี ข้างหน้าจะอยู่ที่อาเซียน  เมื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงาน ตลอดจนการถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี  ทั้งสองหน่วยงาน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น  เริ่มต้นหรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้มากขึ้นอย่างมั่นใจ    EX-IM BANK จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของธนาคารในการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุน โดยการเติมความรู้ โอกาสทางธุรกิจ และเงินทุน ตลอดจนเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ EXIM BANK  ให้บริการประกันการส่งออกตั้งแต่เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537 มีปริมาณธุรกิจรับประกันการส่งออกสะสม  1.82 ล้านล้านบาท ยอดจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวนรวม 1,400 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ76  เกิดจากกรณีผู้ซื้อในต่างประเทศปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า รองลงมาร้อยละ 23  เกิดจากผู้ซื้อล้มละลาย และอีกร้อยละ 1  เกิดจากผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า ประเทศที่มีมูลค่ายื่นขอรับสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สินค้าที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ และอะลูมิเนียม

นายจุนนิชิโร่  คุโรดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าของประเทศญี่ปุ่น (JTRO) กล่าวว่า ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทย 6,000 บริษัท สัดส่วนร้อยละ 40 เป็นอุตหสากรรมการผลิต เพราะไทยเป็นฐานการผลิตของอาเซียน ในปี 65 ญึ่ปุ่นยังเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยยังแข่งขันกับจีน  เนื่องจากญี่ปุ่นมองว่าไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมชิ้นส่วน ญี่ปุ่น พร้อมปรับการผลิตไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รองรับกระแสตลาดโลก แต่เมื่อไทยยังมีปัจจัยเรื่อง วัตถัดิบแพงขึ้น ค่าแรงเพิ่มขยับจากนโยบายรัฐบาลชุดใหม่  จึงต้องขยายเครือข่ายการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลางตามนโยบายของญี่ปุ่นThailand Plus 1  เนื่องจาก สปปล.ลาว กัมพูชา ค่าแรงถูกว่า และยังมีการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษรองรับการลงทุนของต่างชาติ อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง จึงเร่ิมมีความสำคัญกับต่างชาติ


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า นโยบายของญี่ปุ่น Thailand Plus 1  เพื่อขยายการลงมทุนไปยัง สปปล.ลาว กัมพูชา ไม่ใช่เป็นการแย่งงาน แต่เป็นการแบ่งงานกันทำ ไทยต้องยกระดับคุณภาพบุคลากร ให้มีคุณภาพแรงงานขั้นสูง ผลิตสินค้าไฮเทค ซับซ้อนมากขึ้น การอับเกรดพื้นที่ภาคอุตสาหกรรม เช่น เขตอีอีซี จะกลายเป็นศูนย์การลงทุนแบบเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการขยายท่าเรือนน้ำลึกแหลมฉบัง มาบตาพุด เมืองการบินภาคตะวันออก  โดยรวมมองว่าไทยยังเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” คดี “แบงค์ เลสเตอร์”

ผบช.ภ.2 เผยคดี “แบงค์ เลสเตอร์” แจ้งข้อหา “เอ็ม” กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มอบตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คุมฝากขังค้านประกันตัว

หยุดยาววันแรก การจราจรขาออก กทม. มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่น

เริ่มหยุดยาววันแรก การจราจรบนท้องถนนขาออกกรุงเทพฯ มุ่งสู่อีสานเริ่มแน่นตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้ ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ชะลอเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ส่วนถนนพหลโยธิน ขาเข้าหนองแค รถเริ่มแน่น

วันแรก ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน

สถิติวันแรก 10 วันอันตราย ตาย 52 อุบัติเหตุ 322 ครั้ง บาดเจ็บ 318 คน​ “เพิ่มพูน” เน้นทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวก เข้มเรื่องกฎหมาย