นนทบุรี 7 เม.ย. – อธิบดีกรมการค้าภายในแจ้งข่าวดี หากราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงมามากจะส่งผลดีต่อราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคจะมีโอกาสลดลงตาม ย้ำกรมฯ ติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อดูค่าครองชีพของประชาชน และยังเดินหน้าขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการช่วยตรึงราคาสินค้าช่วงเทศกาลสงกรานต์ และห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีกรณีที่ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะราคาดีเซล ที่ปรับลดลงมามาก จึงทำให้โอกาสที่สินค้าอุปโภคและบริโภคหลายรายการจะปรับลดลงมาได้ ซึ่งกรมฯ อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามหากสินค้ากลุ่มไหนต้นทุนการผลิตลดลงมามาก สินค้าต่างๆ ก็จะลดลงตาม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับต้นทุนแต่ละกลุ่มสินค้าโดยรวมด้วยว่าลดลงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งกรมฯ ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการต่างๆ ได้ทราบประเด็นนี้แล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้ติดตามราคาสินค้าโดยรวม เช่น ราคาหมูเนื้อแดงเฉลี่ยทั่วประเทศ 153 บาท/กิโลกรัม (กก.) ถือว่าลดลงจากปีก่อน 5% เนื้อไก่ แบ่งเป็นน่องไก่ติดสะโพก ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 72 บาท/กก. ลดลงจากปีก่อน 4% น่องไก่ ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 75 บาท/กก. ลดลง 1% สะโพก ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 78 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% และเนื้ออกทั่วประเทศ ราคาเฉลี่ย 78 บาท/กก. ลดลง 5% ขณะที่ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ย 3.78 บาท/ฟอง เป็นต้น ขณะที่กลุ่มสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนนี้ ไม่ถือว่ามีราคาแพงมากนัก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากร้านค้าและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ต่างๆ ไม่ขยับราคาสินค้าขึ้น แต่สินค้าเหล่านี้มีการแข่งขันสูง ทำให้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงที่อากาศร้อน สินค้าประเภทผักสด จะมีทั้งการปรับราคาเพิ่มและลดตามสภาวะอากาศ ซึ่งผักที่มีแนวโน้มปรับลดลงเมื่อเทียบจากเดือนก่อน ได้แก่ ผักคะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักบุ้งจีน ขณะที่ผักมีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนูจินดา แต่กลุ่มนี้เป็นการปรับเพิ่มขึ้นระยะสั้นที่ได้รับผลกระของสภาพอากาศ ส่วนราคามะนาวยังคงสูง แต่ไม่มากนัก โดยราคาเบอร์ 1-2 อยู่ที่ 4.95 บาทต่อลูก ซึ่งมะนาวในช่วงหน้าร้อนจะมีราคาสูงขึ้น เพราะผลผลิตน้อย แต่ผลผลิตจะกลับมามากในเดือน พ.ค. ซึ่งในช่วงที่ราคาพืชผักมีราคาสูงหรือมีปริมาณมาก ทางกรมฯ จะใช้แนวทางการเชื่อมโยงตลาด เพื่อให้ปริมาณและราคาเพาะปลูกของเกษตรกรได้ไม่ต่ำจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากแนวทางเชื่อมโยงตลาดแล้ว การดูแลอาหารสำเร็จรูปประเภทอาหารทางเลือกโดยผ่านกิจกรรมร้านอาหารธงฟ้า ยังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากห้างสรรพสินค้าเป็นอย่างดี โดยมีอาหารธงฟ้าทางเลือกในการบริโภค ซึ่งขณะนี้ยังดำเนินการอยู่มีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่า 6,000 แห่ง มีราคาอาหารทางเลือกจานละ 35 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายขยายร้านค้าไม่ต่ำกว่า 8,000 แห่ง ซึ่งกรมฯ จะคงเดินหน้าสนับสนุนโครงการนี้อยู่ต่อไป พร้อมกันนี้ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงขณะนี้ กรมการค้าภายในดำเนินการกับผู้ที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าไปแล้วถึง 177 ราย และหากพ่อค้าคนไหนโกงราคาสินค้าแพงเกินจริงก็จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย
