สนง.สลากฯ แจงสลากดิจิทัลแตกต่างจากโครงการสลาก 80

สำนักงานสลากฯ 4 เม.ย.- ผอ.สำนักงานสลากฯ แจง “สลากดิจิทัล” มีความแตกต่างจาก “โครงการสลาก 80” ย้ำสลากที่มีตราประทับทุกใบสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ทุกช่องทาง


พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กรณีการซื้อสลากที่มีตราประทับแล้วเกิดปัญหาขึ้นเงินรางวัลไม่ได้นั้น เกิดจากการเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างสลากจำหน่ายในโครงการสลาก 80 กับสลากดิจิทัล มีความแตกต่าง ดังนี้

สลากที่จำหน่ายในโครงการสลาก 80


  • ผู้ซื้อเลือกซื้อสลากแบบใบจากจุดจำหน่ายของโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศ (ปัจจุบันมี 1,129 จุดจำหน่าย) ซึ่งขายในราคาไม่เกิน 80 บาททุกใบ
  • ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง
  • เมื่อถูกรางวัล ผู้ซื้อสลากจะต้องนำใบสลากที่ถูกรางวัลไปขอรับเงินรางวัลเท่านั้น ไม่สามารถนำข้อมูลของสลากที่อยู่ในแอปพลิเคชันเป๋าตังไปขอรับเงินรางวัล
  • สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สนามบินน้ำ) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ทุกสาขาทั่วประเทศ

สลากดิจิทัล

  • ผู้ซื้อเลือกซื้อสลากแบบดิจิทัลจากแอปพลิเคชันเป๋าตังโดยตรง
  • ซื้อชำระเงินค่าซื้อสลากโดยชำระเงินผ่าน แอปพลิเคชันเป๋าตัง
  • ผู้ซื้อจะได้รับข้อมูลของใบสลากที่ซื้อไว้ปรากฏในแอปพลิเคชันเป๋าตัง
  • สามารถขึ้นเงินรางวัลได้โดยการเลือกการขึ้นเงินรางวัลจากการโอนเงินเข้า G-Wallet หรือหากต้องการมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะต้องนำข้อมูลของสลากที่ปรากฏในแอปพลิเคชันเป๋าตังพร้อมบัตรประชาชนมาแสดงเพื่อขอรับเงินรางวัล

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวเพิ่มเติม กรณีสลากที่ประทับตรา เป็นสลากจำหน่ายในโครงการสลาก 80 สำนักงานฯ จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท ขณะนี้สำนักงานฯ มีจุดจำหน่ายสลากตามโครงการ จำนวน 1,129 จุดทั่วประเทศ ประชาชนสามารถค้นหาจุดจำหน่าย ได้จากเว็บไซต์สำนักงานฯ www.glo.or.th หรือสอบถามที่ ศูนย์ Call Center 0-2528-9999 สำหรับสลากในโครงการสลาก 80 ทุกใบ ทุกหมายเลข ราคา 80 บาท โดยผู้ซื้อจะได้ใบสลากมาครอบครอง สำหรับการขึ้นเงินรางวัล ต้องนำใบสลากมาขึ้นรางวัลเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า สลากที่มีตราประทับทุกใบ สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ทุกช่องทางของสำนักงานฯ อย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา