นนทบุรี 3 เม.ย.-กรมการค้าต่างประเทศเชิญชวนผู้ประกอบการทุเรียนไทยขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) เพื่อเป็นแต้มต่อในการส่งออก พร้อมย้ำเพื่อรักษาชื่อเสียงของทุเรียนไทยและรักษาธุรกิจนี้ให้ยั่งยืนผู้ประกอบการจะต้องไม่ตัดทุเรียนอ่อนที่ไม่ได้คุณภาพไปจำหน่ายและส่งออก และที่สำคัญต้องไม่ลักลอบนำเข้าทุเรียนจากประเทศอื่นมาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลออกผลผลิตและส่งออกทุเรียน จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการมาขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) ภายใต้ ความตกลงการค้าเสรีต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีศุลกากร ณ ประเทศปลายทาง ซึ่งปัจจุบัน ไทยมีความตกลงการค้าเสรีที่มีผลบังคับใช้ จำนวน 14 ฉบับ สำหรับการส่งออกไปยัง 18 ประเทศสมาชิกความตกลงฯ ได้แก่ กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู และชิลี
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะขอรับ C/O จะต้องมาขึ้นทะเบียนเป็น ผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้ากับกรมฯ ก่อน หลังจากนั้นให้ทำการตรวจคุณสมบัติด้านถิ่นกำเนิดของสินค้า ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้ประกอบการจะต้องแสดงให้เห็นว่าสินค้าตนผลิตได้ตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าของสินค้า ที่จะส่งออก สำหรับทุเรียน ความตกลงฯ ทั้ง 14 ฉบับ กำหนดกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (ROO) คือ Wholly Obtained หรือ ทุเรียนนั้นต้องเป็นทุเรียนไทย คือ ปลูกและเก็บเกี่ยวในประเทศไทย ซึ่งเอกสารที่ใช้แสดงเพื่อประกอบการตรวจ ROO ของทุเรียน ประกอบด้วย แบบขอรับการตรวจต้นทุนพร้อมระบุข้อมูลเพื่อยืนยันแหล่งที่มาของสินค้าเพิ่มเติม โดยทุเรียนเป็นสินค้าเฝ้าระวังเนื่องจากมีการสวมสิทธิเอาทุเรียนจากประเทศอื่นมาอ้างว่าเป็นทุเรียนไทยและทำการส่งออก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจึงต้องแสดงเอกสารรับรองว่าเป็นสินค้าที่มี ถิ่นกำเนิดในประเทศไทยเพิ่มเติม เช่น เอกสารยืนยันแหล่งที่มาของทุเรียน โดยใช้ใบรับรองแหล่งผลิต GAP ใบเสร็จซื้อขาย สลิปโอนเงินที่มีหลักฐานการซื้อขายจากสวนที่ปลูกในไทย เป็นต้น เพื่อพิสูจน์ว่าทุเรียนของตนไม่มีการสวมสิทธิ หลังจากนั้น ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอ C/O ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อรายละเอียดทุกอย่างถูกต้องครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะอนุมัติคำขอ C/O ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติจะใช้เวลาอนุมัติภายใน 20 นาที/ฉบับ หลังจากอนุมัติเจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ประกอบการทราบ ผ่านระบบฯ เพื่อจะได้มารับ C/O ที่กรมการค้าต่างประเทศต่อไป ทั้งนี้ ในเร็วๆ นี้ ผู้ประกอบการ จะไม่จำเป็นต้องรับ C/O ที่กรมฯ อีกต่อไป โดยจะสามารถพิมพ์ C/O ณ สำนักงานตนเองได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 มีผู้ประกอบการที่ขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าส่งออกทุเรียนสดและแช่เย็นแช่แข็งคิดเป็นมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 5,164.80 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 177,000 ล้านบาท) โดย C/O ที่มีการขอรับมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1) ฟอร์ม E (ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน) มูลค่า 5,074.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 2) ฟอร์ม RCEP มูลค่า 50.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 3) ฟอร์ม D (ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน) มูลค่า 16.59 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 4) ฟอร์ม JTEPA (ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น) มูลค่า 12.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 5) ฟอร์ม AK (ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี) มูลค่า 5.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยผู้ประกอบการสามารถติดตามข้อมูลหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ โทร. 1385 หรือที่เว็ปไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th .-สำนักข่าวไทย