กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – “ชัยวุฒิ” ลั่น โทษหนัก เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล กรณี 9 near คาดไม่ถึง 55 ล้านคน ย้ำ ทุกหน่วยงานปล่อยให้ข้อมูล รั่วไหล โทษจำคุก 1 ปี เร่งขอศาลมีคำสั่งปิดกั้นเว็บ ประสาน AIS True NT ช่วยสกัด
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงร่วมกับหลายหน่วยงาน ว่า กรณี ผู้ใช้งานบัญชี “9near” โพสต์ขายข้อมูล แอบอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums อ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจำตัวประชาชน รวมทั้งมีการโพสต์ลักษณะข่มขู่หน่วยงานเรียกค่าไถ่ และโจมตีหน่วยงานรัฐ ดีสเครดิต หน่วยงาน เพื่อให้ประชาชนตื่นตระหนก ยืนยันข้อมูลบัตรประชาชนของกระทรวงมหาดไทยไม่ได้รั่วไหล มีมาตรฐานคุมเข้มสูงสุด
หลังจาก เว็บไซต์ 9near.org (https://9near.org/) ชื่อเดียวกับบัญชี 9near โพสต์ขายข้อมูลบนเว็บไซต์ Bleach Forums) เมื่อ วันที่ 30 มี.ค. 66 แอบอ้างใส่ชื่อ นายปริญญา หอมเอนก (อ.ปริญญาฯ) เป็นผู้สนับสนุน (Sponsored By …) พร้อมทั้ง นำ Youtube Video Clip สัมภาษณ์ อ.ปริญญาฯ รายการ Digital Life Spring ช่อง Spring News ใส่บนเว็บไซต์ด้วย ในเว็บไซต์ มีลิงก์ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล (!! Download !!) ซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูลรายชื่อ วันเกิด ที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ โดยมีการปิดบังในลักษณะ xxxx ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด
ส่วนด้านล่างของเว็บไซต์ได้ระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปก่อนวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น. เวลาประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะทำการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งนี้ อ.ปริญญาฯ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว ในวันเดียวกัน
ด้านผู้ประกาศข่าว นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ได้โพสต์ข้อความใน facebook ส่วนตัว ว่าได้รับข้อความ SMS ข้อมูลส่วนบุคคลของตน ประกอบด้วย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, วันเดือนปีเกิด , ที่อยู่ , เบอร์มือถือ จาก 9near กระทรวงดิจิทัลฯ ขอให้ช่วยแจ้งความ ผ่านออนไลน์ เพราะเป็นผู้ได้รับความเสียหาย
นายชัยวุฒิ กล่าวย้ำว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สำหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org ตั้งแต่วันพุธที่ 29 มี.ค. 66 เวลา 19.00 น. เนื่องจากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น และระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไป เข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ขณะนี้ ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือดำเนินการจากผู้ให้บริการ
กระทรวงดิจิทัลฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขอคำสั่งศาลตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อาจเข้าข่าย ความผิดจากนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง และประสานผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ (เช่น AIS True NT) เพื่อช่วย ปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย เร่งประสานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(สคส.) เพื่อสอบถามข้อมูลว่ามีหน่วยงานภาครัฐแจ้งว่ามีข้อมูลรั่วไหลหรือไม่
ทั้งนี้ โทษที่เกี่ยวข้องสูง โดยความผิดตาม พรบ. คอมพิวเตอร์ ฯ โทษสูงสุด จำคุก 5 ปี และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างผิดกฎหมาย เข้าข่ายผิด พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาจถูก จำคุก 1 ปี หรือปรับ 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ต่อ 1 กรรม หรือต่อผู้เสียหาย 1 คน ได้ ซึ่งทำให้คนร้ายอาจถูกลงโทษจำคุกเป็น ร้อยปีได้ขึ้นกับข้อเท็จจริง และข้อมูลที่นำไปใช้กระทำผิดกฎหมายหรือเผยแพร่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ติดต่อ call center กระทรวงดิจิทัลฯ 1212 หรือสายด่วน ตำรวจไซเบอร์ 1441
“กระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิด ได้สั่งการให้เร่งจัดการอย่างเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ประสานตำรวจหาหลักฐานและตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และขอฝากเตือนไปยังทุกหน่วยวงาน พัฒนาระบบไซเบอร์มาตรฐาน อย่าปล่อยให้มูลรั่วไหล ผู้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ผิดกฎหมาย ระวังโทษหนัก ทั้งจำคุกทั้งปรับ” นายชัยวุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย