“ดิษทัต” CEO ใหม่เปิดวิสัยทัศน์   “ติดปีก OR”

กรุงเทพฯ 19 ม.ค.-“ดิษทัต” CEO คนใหม่ OR เปิดวิสัยทัศน์ ติดปีกองค์กร สร้างความมั่นคงพลังงาน ส่งเสริมชุมชน สิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมน้ำมันรับการฟื้นตัวทางการท่องเที่ยว


นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในโอกาสที่ได้เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ว่า พร้อมสานต่อ วิสัยทัศน์เดิม  เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน และมุ่งผลักดัน OR ให้ทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยแนวคิด ติดปิกองค์กร หรือ“RISE OR” ผ่านการร่วมมือกับธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท.ขยายธุรกิจ และสนองตอบผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ โดยในปีนี้ 

“เชื่อมั่นปีนี้ว่ายอดขายจะเติบโต  ทั้งจากการทั่วโลกเปิดเมือง จีนเปิดประเทศ ไทยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยพีทีทีสเตชั่นมีการบริหารจัดการน้ำมันให้เพียงพอ  มีการขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ หรือ นอนออยล์ ร่วมมือกับพันธมิตร สร้างประโยชน์ต่อเอสเอ็มอี และชุมชนมากขึ้น  พร้อมทั้งมุ่งสร้างสังคมสะอาด หรือ Low Carbon Business Areas  ผ่านการส่งเสริม ธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว ตามเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 ตลอดจนมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี2050  ซึ่งตนจะใช้ความเชี่ยวชาญในการเป็นเทรดเดอร์น้ำมันมาต่อยอดธุรกิจและบริหารความเสี่ยงทุกด้าน”นายดิษทัต กล่าว


นายดิษทัต  กล่าวว่า จากเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น  โออาร์ พร้อมเป็นผู้นำโครงสร้างพื้นฐาน Ecosystem Design สำหรับอีวี โดยตั้งเป้าหมายเปิด 7,000 หัวจ่ายไฟฟ้า ภายในปี 2030 โดยในด้านเม็ดเงินลงทุนปีนี้ โดยรวมของ โออาร์จะลงทุนกว่า3.1หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจไลฟ์สไตล์  และจะขยายปั๊มน้ำมันอีก100 แห่ง จากสิ้นปี 2565  มี 2,155 แห่ง ส่วนร้านกาแฟจะเปิดเพิ่มอีก 400 แห่ง จาก สิ้นปีที่แล้ว 3,875 แห่ง ในขณะที่ราคาน้ำมันนั้น โออาร์ก็พร้อมดูแลค่าการตลาดให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ราคาก็จะสะท้อนทิศทางของตลาดโลกเป็นสำคัญ 

สำหรับแผนงานใหม่จะ ให้ความสำคัญกับการลงมือทำที่ชัดเจนทั้ง 3 ด้านได้แก่ 

1. Synchronization for Ecosystem หรือ การประสานธุรกิจพลังงานและไลฟสไตล์ให้เป็นหนึ่ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศของ OR ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของ แต่ละธุรกิจ ในการเสริมความเข้มแข็งซึ่งกันและกัน  ให้สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตแห่งอนาคต ทั้งด้าน offline และ online


2. Synergy for Impact หรือ การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อ ยกระดับผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดแบบครบวงจร พร้อมเปิดประตู ความร่วมมือสู่การเติบโตร่วมกัน 

3. Sustainability for Future หรือ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายOR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น

• S – SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก (Opportunities for Communities) ผ่านการดำเนิน ธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน

• D – DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ (More Partners, Products and Services) ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน

• G – GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด (Low Carbon Business Areas) ผ่านการส่งเสริม ธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว 

นายรชา อุทัยจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจต่างประเทศ  โออาร์ กล่าวว่า จากการเปิดประเทศ ทำให้โออาร์สามารถขยายงานในต่างประเทศตามแผนงานได้มากขึ้น โดยจะใช้ คาเฟ่ อเมซอนเป็นส่วนในการสร้างพันธมิตรในประเทศต่างๆ ซึ่งล่าสุด ได้มีการเปิด 2 สาขาในซาอุดีอาระเบีย โดยพันธมิตรเป็นเจ้าของธุรกิจโรงพยาบาล คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี และพร้อมจะขยายโอกาสลงทุนในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น จากที่ปัจจุบัน ที่นอกจากลงทุนในซาอุฯแล้วก็มี อีก 8 สาขาในโอมาน  ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนในต่างประเทศจะเติบโตไปกันพันธมิตรและเลือกประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]