กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-
สสว.เดินหน้าโครงการสินเชื่อประชารัฐ เพื่อ Micro SME” พุ่งเป้าเอสเอ็มอีรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน
ปล่อยให้รายละ 200,000 บาท ปลอดดอกเบี้ย ผ่อนส่งนาน 10 ปี
ไม่ต้องส่งเงินต้นใน 3 ปีแรก ยื่นคำขอแล้วสามารถอนุมัติได้ภายใน 7 วันทำการ
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
( สสว.) กล่าวว่า สสว.จัดสรรเงินจากกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี ที่มีวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท
มาจำนวน 500 ล้านบาท
เพื่อจัดทำโครงการสินเชื่อประชารัฐ เพื่อ Micro SME หรือ Micro SME Loan ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้
2,500 ราย หากมีความจำเป็น สสว.
จะพยายามหาเงินมาเพิ่มเติม โดยสสว.ปล่อยกู้ให้แก่ SME รายย่อย (Micro SME) และวิสาหกิจชุมชน
รายละไม่เกิน 200,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักประกันและไม่คิดดอกเบี้ย
เป็นเงินกู้ระยะยาว 10 ปี
เพื่อให้กิจการรายย่อยนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือปรับปรุงกิจการ
พร้อมปรับปรุงวิธีการปล่อยกู้ให้รวดเร็วขึ้นในลักษณะเดียวกันกับ Program Lending ที่สถาบันการเงินใช้ในการให้สินเชื่อ
credit card หรือ personal loan โดย สสว.
ตั้งเป้าไว้ว่า จะพยายามอนุมัติเงินกู้ให้ได้ภายใน 7 วันทำการ นับตั้งแต่ผู้ประกอบการยื่นคำขอกู้
และได้พยายามจัดขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินกู้ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะ
สสว. ตระหนักดี ว่า ผู้ประกอบการรายย่อยมักประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการรายย่อย
และวิสาหกิจชุมชนที่สามารถขอกู้ได้คือ
มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งหรือมีการจดทะเบียนการค้า หรือทะเบียนพาณิชย์
หรือทะเบียนอื่นใดกับหน่วยงานราชการโดยอาจจะเป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล
หรือนิติบุคคลก็ได้ดำเนินกิจการแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี
และมีความตั้งใจที่จะดำเนินกิจการต่อไป และสุดท้ายคือ
ต้องเป็นลูกค้าของสถาบันการเงิน ซึ่งมีความหมายกว้าง ครอบคลุมคือ ธนาคารทุกประเภท
กิจการ Non Bank ทุกประเภท เช่น
ลิสซิ่ง บัตรเครดิต Nano Finance เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการอาจจะเป็นลูกค้าปกติที่สามารถจ่ายชำระได้ หรือเป็นหนี้ด้อยคุณภาพหรือ เอ็นพีแอลก็ได้
ส่วนในด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้กิจการรายย่อย
สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน และมีโอกาสจะขยายตัวได้ตามศักยภาพ
สสว.ได้จัดงบประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาคีใน 3 เรื่องคือ ด้านแรกการให้ความรู้ด้านการตลาด
แก่ผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคทั่วประเทศ
โดยเฉพาะการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค
เพื่อผู้ประกอบการจะมีความเข้าใจว่า ควรจะปรับปรุงสินค้า/บริการ อย่างไร
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในเขตเมือง ในกรณีที่ต้องมีการปรับปรุง
สสว. จะหาโครงการอื่นเข้ามารองรับต่อไป อีกด้านคือ
การยกระดับมาตรฐานสินค้าให้ถูกสุขอนามัยไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ
เป็นปัจจัยที่ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สสว.
จะดำเนินการในเรื่องนี้ร่วมกับ อย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) และบริษัท Central Lab ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ
สสว. กับกระทรวงการคลัง โดยจะเน้นกลุ่มสินค้าประเภทอาหาร เครื่องสำอาง
และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สสว.ยังจูงใจให้ทำบัญชีอย่างถูกต้อง
ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีสินค้า/บริการเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่แล้ว
และมีความต้องการที่จะขยายกิจการ ให้เติบโตได้อย่างมั่นคง สสว.
จะจัดดำเนินการร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
พร้อมกันนี้ได้มีผู้ประกอบการรายย่อยจำนวน 40 ราย จาก 7 จังหวัด ได้แก่
อุทัยธานี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ชุมพร เพชรบุรี ชัยนาท สระบุรี
และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ส่งสินค้าเข้าไปขายในร้านค้าประชารัฐสุขใจ shop จำนวน 406 ราย จาก 31 จังหวัด
รวมเป็นผู้ประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 446 ราย ที่ให้ความสนใจมายื่นคำขอกู้เงิน
ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้กรอกแบบฟอร์มขอกู้เงิน
และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอนุมัติเป็นล็อตแรก วงเงินสินเชื่อ 89.2 ล้านบาท-สำนักข่าวไทย
