เศรษฐกิจโลกชะลอฉุดส่งออก ต.ค.ติดลบ แต่ 10 เดือนยังบวก 

นนทบุรี 28 พ.ย.- รมว.พาณิชย์ เผยเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากหลายปัจจัย ฉุดให้ตัวเลขการส่งออกไทยเดือน ต.ค.65 ติดลบ 4.4% ถือเป็นเดือนแรกในรอบ 20 เดือน นับจากเดือน มี.ค.64 แต่หากดู 10 เดือน ส่งออกไทยยังเป็นบวก 9.1% มั่นใจ 2 เดือนที่เหลือ ส่งออกไทยยังดีอยู่ และน่าจะเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศ ในเดือนตุลาคม 2565 ติดลบ 4.4% หรือมีมูลค่าส่งออก 21,772.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการติดลบเดือนแรกในรอบ 20 เดือน นับจากเดือนมีนาคม 2564 โดยมีสาเหตุจากเศรษฐกิจโลกโดยรวมชะลอตัวลง แต่หากดูตัวเลขการส่งออกในช่วง 10 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ตัวเลขการส่งออกยังเติบโตเป็นบวก 9.1% หรือมีมูลค่า 243,138.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าในเดือนตุลาคม 2565 ติดลบ 2.1% หรือมีมูลค่า 22,368.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเข้า 10 เดือน เป็นบวก 18.3% หรือมีมูลค่า 258,719.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทยขาดดุลการค้าในเดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ 596.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 10 เดือน ขาดดุลรวมอยู่ที่ 15,581.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ สินค้ารายหมวดทั้ง 3 หมวด คือ สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม เดือน ต.ค.65 สินค้าเกษตร -4.3% รวม 10 เดือน +4.3% สร้างเงินให้ประเทศ 777,212 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เดือน ต.ค. -2.3% รวม 10 เดือนแรกปี 65 +22.6% สร้างเงินให้ประเทศ 665,537 ล้านบาท สินค้าอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. -3.5% 10 เดือนแรกของปี 65 +7.8% สร้างเงินให้ประเทศ 6,528,647 ล้านบาท 


หมวดสินค้าเกษตร เดือน ต.ค.65 ติดลบยางและผลไม้สด เพราะผลไม้สดนอกฤดู ส่วนยางพารา -28.5% สินค้าที่เหลือเป็นบวกทั้งหมด เช่น ไก่สด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป เดือน ต.ค. +38% 10 เดือนแรก +28% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เดือน ต.ค. +26.3% 10 เดือนแรก +15.3% ทุเรียนแช่แข็ง เดือน ต.ค. +23.4% 10 เดือนแรก +52.7% กล้วยไม้ เดือน ต.ค. +10.9% 10 เดือนแรก +24.5% ข้าว เดือน ต.ค. +2.8% 10 เดือนแรก +20.7%

หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร สินค้าที่หดตัว คือ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป -11.3% เครื่องดื่ม เดือน ต.ค.+20.3% 10 เดือนแรก +2.6% ไอศกรีมที่เป็นดาวรุ่ง เดือน ต.ค. +13.5% 10 เดือนแรก +28.9% อาหารสัตว์เลี้ยง เดือน ต.ค. +4.8% 10 เดือนแรก +20.7% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เดือน ต.ค. +0.9% 10 เดือนแรก +12.5%

หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าที่หดตัวในเดือน ต.ค.65 คือ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน -22.8% เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ -27.4% เหล็ก -13.1%


อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันในเดือน ต.ค. เป็นลบ เพราะราคาน้ำมันโลกเริ่มอ่อนตัว ส่วนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ยังขาดแคลนชิปและระบบการขนส่งชิป ส่วนเหล็ก ราคาตลาดโลกของเหล็กลดลง เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว เพราะจีนเป็นตลาดส่งออกหลักสำคัญของไทย

เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +90.6% 10 เดือนแรก +70.2% อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด เดือน ต.ค. +74.9% 10 เดือนแรก +15.7% รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +14.9% 10 เดือนแรก -0.2% 

เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +8.5% 10 เดือนแรก +11% อัญมณีและเครื่องประดับ เดือน ต.ค. +5.4% 10 เดือนแรก +38.3% รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เดือน ต.ค. +5.1% 10 เดือนแรก -2.7%

ตลาดที่ขยายตัว 10 อันดับแรก ในเดือน ต.ค 65 ได้แก่ 1. สวิตเซอร์แลนด์ (+103.5%) 2. ซาอุดีอาระเบีย (+49.6%) 3. ลาว (+28.8%) 4. ทวีปออสเตรเลีย (+18.8%) 5. เวียดนาม (+13.3%) 6. ไต้หวัน (+6.3%) 7. กัมพูชา (+5.2%) 8. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (+4.1%) 9. สหราชอาณาจักร (+3.7%) และ 10. เม็กซิโก (+1.1%)

ขณะที่ปัจจัยบวกที่ยังหนุนการส่งออกของประเทศไทย คือ ค่าเงินบาทที่ยังอ่อนตัว ประเทศไทยมีตลาดใหม่ที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น ซาอุดีอาระเบีย เป็นตลาดใหม่ที่สามารถทำตัวเลขได้ดี รวมถึงตลาดตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย สหอาณาจักร เป็นต้น ส่วนปัจจัยลบที่มีส่วนสำคัญในการฉุดตัวเลขส่งออกจากนี้ คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกน่าเป็นห่วง โดยกระทรวงพาณิชย์และเอกชนประเมินเห็นตรงกันว่า จากนี้ไปจะต้องฟันฝ่าเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ต้องเร่งทำการส่งออกให้ดีที่สุด จากการประเมินภาพรวมปีที่แล้ว เศรษฐกิจโลก +6% แต่ปีนี้แนวโน้มจะ +3.2% และปีหน้า +2.7% กระทรวงพาณิชย์ต้องจับมือกับเอกชนอย่างเข้มแข็งในการฟันฝ่าปัญหาต่างๆ ได้

“คาดว่าภาพรวมทั้งหมดของการส่งออกปี 65 ยังเป็นบวก จากการประมาณการร่วมกับภาคเอกชนล่าสุด ยังมั่นใจว่าเกินเป้าการส่งออกปี 65 กำหนดไว้ +4% คาดว่าจะเพิ่มเกือบหนึ่งเท่าตัว ส่วนมูลค่าตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 9 ล้านล้านบาท มีแนวโน้มจะเกินกว่า 9 ล้านล้านบาท การส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในปี 65” นายจุรินทร์ กล่าว

ส่วนตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ต.ค. 65 ส่งออกสร้างเงินให้ประเทศ 81,937 ล้านบาท -0.2% และ 10 เดือนแรก -0.7% สร้างเงินให้ประเทศ 855,839 ล้านบาท โดยการค้าชายแดน การส่งออกเดือน ต.ค. +4.5% สร้างเงินให้ประเทศ 54,643 ล้านบาท รวม 10 เดือนแรก +17.6% สร้างเงินให้ประเทศ 544,583 ล้านบาท เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย